BDSM รสนิยมจริง หรือแค่เทรนด์?

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา #BDSM นั้นได้รับความนิยมใน Twitter เป็นอย่างมาก มีหลายแอคเคาท์ถึงกับติดแฮทแทคนี้ไว้ใน Bio เลยก็มี แต่ก็มีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า BDSM เป็นแค่เรื่องรสนิยมที่เพิ่มรสชาติในเรื่องเซ็กซ์เท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้วยังมีอะไรมากกว่า โซ่ ,แส้ ,กุญแจมือมากนัก

วันนี้เราเลยชวนมารู้จักความหมายที่แท้จริงของ BDSM กันดีกว่า ซึ่งตัวย่อ 4 ตัวนี้มากจากกลุ่มคำ 3 ชุด คือ

Bondage & Discipline

Bondage การพันธนาการร่างกายในรูปแบบต่างๆ เช่น การมัด ,การดึง ,รั้ง ,แขวน
Discipline การฝึกวินัย การออกคำสั่งให้ทำตาม ,การลงโทษ ,ลงทัณฑ์

Dominance & Submissive

Dominance การปกครอง ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเหนือกว่า เป็นนาย หรือเป็นเจ้าของ สั่งฝ่ายที่อยู่ใต้บังคับบัญชาได้ทุกอย่าง และจะมีการทรมานร่วมด้วย ศัพท์ที่ใช้เรียกก็เช่น Top / Dominant / Master / Mistress และบางครั้งใช้คำว่า “ดอม” (dom ย่อมาจาก dominant ซึ่งหมายถึง ผู้ปกครอง) ซึ่งในความสัมพันธ์ลักษณะนี้ Dominance ที่ดี ต้องทำให้ ผู้ยอมจำนนมีความสุข และนั่นก็ทำให้ฝ่าย Dominance เองมีความสุขด้วย ถ้ามันเกิดขึ้นเพียงทางเดียวนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี

Submissive การที่อยู่ใต้บังคับบัญชา เป็นผู้ตาม เป็นทาส เป็นสัตว์เลี้ยง เป็นฝ่ายยอมกระทำตามที่ถูกสั่งทุกอย่าง ยอมถูกลงโทษถูกบังคับ ศัพท์ที่ใช้เรียกก็เช่น Bottom / Submissive / Slave / Bitch / Dog

Sadism & Masochism

Sadism (ซาดิสม์) การมีความสุข ความตื่นเต้น มีความพอใจจากการทำให้ผู้อื่นเกิดความเจ็บปวดทรมานทางร่างกาย และ/หรือทางด้านจิตใจ
Masochism (มาโซคิสม์) การมีความสุข ความตื่นเต้น มีความพอใจจากการได้รับความเจ็บปวดทรมาน หรือความอัปยศอดสู ดูถูกเหยียดหยาม

โดยลักษณะทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันสูงจนไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจน ขึ้นกับความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคล เรียกรวมๆ ว่า “BDSM” นั่นเอง

ซึ่ง BDSM จริงนั้นต้องเกิดจากการสมยอมของทั้งสองฝ่าย เพราะถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณล้ำเส้นกระทำอะไรไปโดยอีกฝ่ายไม่ยินยอมจะกลายเป็นการคุกคาม และล่วงละเมิดทันที ให้คิดภาพว่าคุณเป็น Sadism ที่อยู่ดีๆ คุณไปตีหรือตบคู่ของคุณโดยเธอไม่ได้นิยมอะไรแบบนั้น อาจจะกลายเป็นเรื่องผิดกฏหมายได้เลย เพราะฉะนั้นแล้วต้องมีการคุยในให้ดีก่อนว่าคู่ของคุณนั้นรับได้มากแค่ไหน เกิดการเกินเลยไปจะกลายเป็นเรื่องแถมอาจจะมีอันตรายถึงชีวิตอีกด้วย หรือแม้แต่ถ้าคุณมีรสนิยมแบบ Masochism แล้วคู่ของคุณไม่ใช่แนว Sadism การขอให้ทำร้ายร่างกายคุณก็ดูเป็นอะไรที่กระอักกระอ่วนไม่น้อยเลยทีเดียว

ซึ่งในการปลดปล่อยความต้องการแบบ BDSM กับคู่ของคุณนั้นต้องมีการสื่อสารที่ดีในระดับหนึ่ง เพราะต้องมีการเปิดเผยเรื่องราวจินตนาการส่วนตัวให้แก่กัน และนำมาพัฒนาความเชื่อใจกันระหว่างคู่ของคุณ

ผู้คนจำนวนมากที่เล่น BDSM หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “การมีเพศสัมพันธ์ที่นอกเหนือบรรทัดฐานปกติ (kinky sex)” อาจจะไม่ถือว่าตัวเองมีความสัมพันธ์แบบ BDSM เพราะว่า ขอบเขตจินตนาการทางเพศนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล และขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน คนจำนวนมากเริ่มด้วยอะไรง่าย ๆ อย่างเช่น การปิดตา และมันก็อาจจะเร้าอารมณ์ และต่อกันติด โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษอะไร

เล่นให้ปลอดภัย

โดยทั่วไปแล้วในความสัมพันธ์แบบ BDSM มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนพอสมควร มันเป็นเรื่องของการสมยอมกันอย่างอิสระ และสามารถที่จะเปลี่ยนใจตอนไหนก็ได้ คู่ที่คิดจะ BDSM กันต้องฟังอย่างละเอียด อ่านภาษากายและน้ำเสียงของอีกฝ่าย ควรถามเพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่า พวกเขารู้สึกสบายใจในทุกขั้นตอนของการเล่นหรือไม่ จำเป็นต้องมีคำพูดที่ทั้งคู่ตกลงร่วมกันว่าถ้าถึงจุดไหนอีกฝ่ายทนไม่ได้แล้วต้องหยุดทันที เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้

ความเข้าใจที่ผิดสำหรับ BDSM คือ “ถ้าคุณสมยอมแล้ว ก็หมายความว่า ต้องยอมจนเสร็จ” ซึ่งนั่นไม่ใช่เลย

สีของไฟจราจรมักจะเป็นคำที่ถูกใช้เพื่อเป็นสัญญาณด้านความปลอดภัยระหว่างคู่ที่เล่น BDSM

ตัวอย่างที่พบโดยทั่วไปง่าย ๆ ในเรื่องนี้ก็คือ ระบบสัญญาณไฟจราจร ซึ่งอาจจะมีการใช้บัตรที่เป็นสี หรือ การพูดชื่อสี ก็ได้ เขียว หมายถึง “ยอดเยี่ยม ทำต่อไป” เธอกล่าวต่อว่า “เหลืองคือการ ตรวจสอบ แต่ไม่จำเป็นต้องหยุด และแดง คือ ไม่ นั่นหมายถึง ต้องหยุด หมายถึงพอแล้ว”

แล้วทำไมถึงไม่ใช้แค่คำว่า “ไม่” (no) ล่ะ?

ผู้ฝึกสอนด้านเพศกล่าวว่า “สำหรับบางคน การพูดว่า ไม่ แต่อีกฝ่ายอาจจะไม่ฟัง เพราะนั่นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของจินตนาการทางเพศ แต่คุณต้องเจรจาเรื่องนี้ก่อน เพื่อที่ฝ่ายผู้ปกครองจะได้รู้ว่า นั่นคือ การที่คุณกำลังมีความสุขอยู่”

คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ BDSM อาจจะมีความเข้าใจผิดหลายอย่างตามที่พบเห็นในภาพยนตร์ อย่างเช่น Fifty Shades of Grey หรือ 365 DNI นั่นไม่ต่างจากการล่วงละเมิดทางเพศดีๆ นี่เอง เป็นความเพ้อฝัน และเกือบจะไม่ได้แสดงให้เห็นถึงระดับของการเจรจาและการสนทนาที่เกิดขึ้น ซึ่งนี่น่าจะเป็นจุดแบ่งระหว่าง BDSM และ การล่วงละเมิดทางเพศนั่นเอง

คำศัพท์เกี่ยวกับ BDSM

เพลย์และซีน (Play and scene) – ผู้เล่น BDSM บอกเล่าเรื่องของตัวเองขณะที่เล่นอยู่ในเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง
มันช์ (Munch) – การพบกันอย่างไม่เป็นทางการของคนที่เข้าร่วม หรือสนใจใน BDSM
วานิลลา (Vanilla) – หมายถึง คน หรือ เพศสัมพันธ์ ที่เป็นไปตามบรรทัดฐาน
คำปลอดภัย (Safe words) – คำหรือการแสดงสัญญาณที่ตกลงกันไว้กับคู่ที่ร่วมเล่น เพื่อเตือนให้พวกเขารู้ถึงขีดจำกัดทางร่างกายของคุณ
อาฟเตอร์แคร์ (Aftercare) – มีความสำคัญไม่ต่างจากซีน (scene) เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน บางคนอาจจะใช้ผ้าห่ม, การเคล้าเคลีย, การสนทนา หรืออาจจะเป็นชาสักถ้วยก็ได้ ในการผ่อนคลายผู้ร่วมเล่นให้กลับสู่สภาพปกติ

Source 1 | 2 | 3