หูฟังและลำโพงนั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับคนดนตรีเลยก็ว่าได้และบางคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าลำโพงหรือหูฟังที่เป็นแบบมอนิเตอร์นั้นมันคืออะไรมันแตกต่างจากแบบฟังเพลงทั่วไปอย่างไร

สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงโดยปกติทั่วไปแล้วนั้นต้องบอกว่ามันจะมีเรื่องรสนิยมในการฟังเข้ามาเกี่ยวด้วยอย่างเช่น ชอบฟังเพลงแบบเสียงเบสหนักๆ เสียงกีตาร์แบบ Rhythm แบบแน่นๆ หรือเสียง Solo กีตาร์แบบจัดจ้านบาดทรวง ก็จะต้องหาหูฟังหรือลำโพงที่มีคาแรคเตอร์นั้นๆมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการทางหู เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะถูกปรับแต่งย่านต่างๆมาแล้วในแต่ละย่านเสียง ไม่ว่าจะเน้นทุ้มแหลมน้อย เน้นแหลมเบสบาง ซึ่งหูฟังและลำโพงก็มีหลากหลายยี่ห้อมีตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนถึงหลักหมื่นให้เลือกใช้กันก็ต้องไปลองฟังกันเอาที่ชอบตามร้านชั้นนำที่จัดจำหน่ายครับ

สรุป : หูฟังและลำโพงฟังเพลงมีการปรับแต่งเสียงเพื่อให้ฟังเพลงได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น

ในส่วนหูฟังหรือลำโพงแบบมอนิเตอร์นั้นมันจะต่างจากหูฟังหรือลำโพงฟังเพลงที่ย่านเสียงที่ได้ยินและอุปกรณ์ในส่วนนี้จะทำออกมาให้ใช้งานในแบบเฉพาะทางในการทำเพลง อย่างเช่นการมิกซ์เสียงดนตรี จะทำให้หูที่เราได้ยินเสียงต่างๆนั้นออกมาแทบจะเที่ยงตรงที่สุดผิดเพี้ยนน้อยที่สุดหรือเรียกว่า Flat เพราะมันไม่มีการปรับแต่งเสียงย่านใดๆให้เกินจริงออกมาเลย แต่ทั้งนี้ลำโพงหรือหูฟังมอนิเตอร์นั้นในแต่ละรุ่นก็จะมีคาแรคเตอร์ของเสียงต่างกันไปเล็กน้อย หากนำมาเทียบกันเช่น ลำโพงยี่ห้อนี้มีเบสที่หนากว่ายี่ห้อนั้น หรือ ยี่ห้อนั้นมีเสียงแหลมกว่ายี่ห้อนี้แต่สิ่งเหล่านี้ก็จะให้ย่านที่ Flat กว่าหูฟังเพลงนั่นเอง

สรุป : หูฟังและลำโพงมอนิเตอร์ไม่มีการปรับแต่งเสียงใช้กับงานมิกซ์เพลงที่ต้องแยกเสียง

สำหรับในส่วนของมอนิเตอร์นั้นหากเอามาใช้งานกับการใช้งานทั่วไปนอกเหนือจากงานเพลงก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะชอบเสียงของมันหรือเปล่าเพราะเกรงว่าจะเป็นอารมณ์ประมาณว่าซื้อมาตั้งแพงทำไมเสียงมันแห้งๆไม่สะใจเลย ดังนั้นก็ลองเลือกใช้ให้เหมาะกับการใช้งานครับในส่วนราคานั้นก็มีตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่นหลักแสนเช่นกันครับ

ข้อควรระวัง : หูฟังและลำโพงในแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีแยกประเภทไว้ว่าแบบไหนเป็นแบบทั่วไปหรือเป็นแบบมอนิเตอร์ดังนั้นดูให้ดีก่อนซื้อใช้นะครับ มิฉะนั้นหากซื้อผิดอาจจะไม่ตอบโจทย์ของหูได้ครับ