ถ้าจะบอกว่านี่คือ Predator ในแบบที่เหล่าสาวกรองเท้าฟุตบอลซีรี่ย์นี้รอคอย..ก็คงจะไม่ผิดหรือเกินเลยความจริงแต่อย่างใด เพราะครั้งนี้ Predator “กลายพันธุ์” กลับมาเป็นรองเท้าฟุตบอลสายพันธุ์ดุอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยจุดเด่นที่ได้หายไปกว่า 6 ปี ตอนนี้กลับมาแล้ว !!!
หากนึกถึงรองเท้าฟุตบอลซีรี่ย์ Predator แน่นอนว่าทุกคนที่เตะฟุตบอล หรือแม้แต่แฟนบอลต้องรู้จักชื่อของรองเท้าฟุตบอลซีรี่ย์นี้เป็นอย่างดี เพราะนี่คือตระกูลรองเท้าฟุตบอลที่เป็นตำนานอยู่คู่กับวงการฟุตบอลมาตั้งแต่ปี 1994 จนถึงตอนนี้ก็เกินกว่า 25 ปี เข้าให้แล้ว
ภาพลักษณ์ของอาดิดาส Predator นั้นอยู่คู่กับความ “ดุดัน” ถูกเปรียบเป็นราชาแห่งนักล่าที่พร้อมจู่โจมเข้าใส่คู่แข่งด้วยพละกำลังและความแม่นยำดุจปีศาจ สิ่งที่ทุกคนติดตากันดีก็คือรองเท้าฟุตบอลที่ถูกเติมเต็มด้วยพื้นที่สัมผัสบอลอันมีประสิทธิภาพ มีวัสดุแถบยางที่ถูกออกแบบแตกต่างกันออกไปตามแต่ละเจเนอเรชั่น ที่สิ่งที่เหมือนกันคือวัสดุแถบยางที่จะทำหน้าที่เป็นดั่งเขี้ยวเล็บให้กับรองเท้าฟุตบอลซีรี่ย์นี้
อย่างไรก็ตาม..อาดิดาสตัดสินใจยุติชื่อ Predator ไปในปี 2015 ด้วยการเข้ามาแทนที่ของรองเท้าฟุตบอลซีรี่ย์ ACE ที่ถูกประกาศชัดเจนว่าจะเป็นรองเท้าประเภทโมเดิร์นคอนโทรลที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รองเท้าฟุตบอลที่มีวัสดุจำพวก “แถบยาง” ที่เป็นเอกลักษณ์ของราชานักล่าก็ได้หายไป
แม้ว่าในปี 2018 อาดิดาสจะนำชื่อ Predator กลับมาทำตลาดอีกครั้ง มีชื่อ Predator 18 ต่อเนื่องมาจนถึง Predator 19 ในปีถัดมา แต่สิ่งที่เคยเป็นเอกลักษณ์ของราชานักล่าก็ยังไม่ได้ถูกนำกลับมาด้วย เพราะรองเท้าทั้ง 2 รุ่นยังคงมีความเป็น ACE ติดตัวมาพอสมควรแม้หน้าตารองเท้าจะมีความดุดันยิ่งขึ้น แต่ก็เหมือนว่ามีบางอย่างที่ยังคงขาดหายไป
จนกระทั่งตอนนี้..ปี 2020 อาดิดาสประกาศเปิดตัวเจเนอเรชั่นล่าสุดของ Predator มาพร้อมกับวีดีโอการโปรโมทจุดเด่นของรองเท้ารุ่นนี้ เน้นการทำกราฟฟิกแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จนอาดิดาสตั้งชื่อประจำเจเนอเรชั่นนี้ว่า “Mutator” ซึ่งสื่อความหมายถึง “การกลายพันธุ์” กลับมาเป็นอสูรกายแห่งวงการรองเท้าฟุตบอลอีกครั้ง
ขอบอกเลยว่านี่คือ “ราชานักล่า” ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี และการกลับมาของจุดเด่นที่เคยหายไปเมื่อ 6 ปี ที่แล้ว แค่นี้ก็เป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ตอบได้แล้วว่า ทำไมครั้งนี้สาวกอาดิดาสต่อตื่นเต้นกับรองเท้ารุ่นนี้
หากพร้อมกันแล้ว…เราไปเปิดฝากล่อง เพื่อสัมผัสกับ Predator Mutator 20.1 ไปด้วยกันได้เลยครับ
อาดิดาสบรรจุรองเท้า Predator Mutator 20.1 มาในกล่องรองเท้าสีดำแบบปกติ โดยมีที่น่าสนใจ..ระบุมาบนป้ายข้อมูลอยู่ด้านข้างกล่อง นั้นได้ระบุว่าชื่อรุ่นรองเท้าเอาไว้ว่า Predator Mutator 20.1 แตกต่างจากเจเนอเรชั่นก่อนที่จะระบุแค่ Predator 19.1 เท่านั้น จึงสรุปได้ว่า Predator โฉมนี้ อาดิดาสได้ตั้งชื่อรุ่นเฉพาะว่า “Mutator” เอาไว้ด้วยเหมือนกับ Predator ยุคเก่าๆ ที่จะชื่อโฉมกำกับเอาไว้ เช่น Predator Instinct, Predator Powerserve หรือ Predator adiPower เป็นต้น แล้วตามด้วยชื่อปีที่ทำตลาดอย่างเช่นรุ่นนี้คือปี 2020 นั่นเอง
ประเด็นนี้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้สำคัญอะไรนัก แต่สำหรับเหล่าสาวก Predator แล้วล่ะก็ การมีชื่อเจเนอเรชั่นกำกับเอาไว้ชัดเจน มากกว่าแค่การระบุตัวเลขปีที่ทำตลาด มันคือความคลาสสิค มันคือเสน่ห์ที่ “ต้องมี” ให้กับ “Predator” แบบนี้ล่ะ
เมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมา..เราจะพบกับ Predator Mutator 20.1 ในสีโปรโมทในการเปิดตัว”ดำ-ขาว-แดง” หรือสี “ออริจินัล” ที่แฟนยุคเก่าๆ คิดถึง เพราะนานมากแล้วที่ Predator สีนี้ไม่ได้ถูกใช้เป็นสีเปิดตัว (ย้อนกลับไปล่าสุดที่ใช้สีออริจินัลเปิดตัว ก็คือ Predator X)
แต่ด้านในกล่องมีแค่ตัวรองเท้า Predator Mutator 20.1 เท่านั้น ไม่มีถุงหรือกระเป๋าใดๆแถมมาให้ ซึ่งก็เป็นมาตั้งแต่เจเนอเรชั่น Predator 19 แล้ว จากข้อมูลบนป้าย Tag ระบุว่ารองเท้ารุ่นนี้ผลิตจากประเทศอินโดนีเซีย (Made in Indonesia) ราคาป้ายอยู่ที่ 7,800 บาทเท่าเดิม
ทั้งนี้ยังมีข้อมูลบนป้าย Tag เพิ่มเติม และระบุเอาไว้ชัดเจนว่าวัสดุแถบยางของรองเท้ารุ่นนี้มีโอกาสที่จะหลุดหายหรือสึกหรอออกไปจากการใช้งาน อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกกังวลไปบ้างแต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่อาดิดาสบอกมาอย่างชัดเจน ถือเป็นความ “Fair” จากผู้ผลิตตรงกันข้ามกับสโลแกนของรองเท้าที่ว่า “100% Unfair“
รูปร่างหน้าตาและรูปทรงภาพนอก
รูปร่างหน้าตาและรูปทรงภาพนอกของ Predator Mutator 20.1 นั้นยังคงเป็นรองเท้าที่มีรูปทรงเรียวยาวจนสังเกตได้ไม่ยาก และด้วยการเปลี่ยนวัสดุอัพเปอร์ ยิ่งทำให้ราชานักล่ารุ่นท็อปโฉมนี้ ดูปราดเปรียวและเพียวบางกว่าเจเนอเรชั่นที่แล้วซึ่งเน้นวัสดุชิ้นหนาๆ และมีครีบสัมผัสบอล จึงทำให้ Predator 19 นั้นดูบึกบึนและเทอะทะกว่า
โลโก้ 3 แถบ เครื่องหมายการค้าของอาดิดาส ถูกย้ายลงมาประทับอยู่ที่บริเวณข้างเท้าด้านนอกในระดับที่ต่ำลงจนเกิดจะเป็นเส้นที่ถูกขีดลากขึ้นมาจากชุดพื้นรองเท้า ซึ่งดีไซน์ลักษณะนี้ช่วยทำให้นึกถึงการออกแบบโลโก้ 3 แถบ ของ Predator ยุคเก่าๆ อยู่เหมือนกัน
ตัวรองเท้า (Upper)
ตัวรองเท้า (Upper) ของ Predator Mutator 20.1 นั้นผลิตจากวัสดุประเภทผ้าถัก (knit) ที่ถูกขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด ไร้รอยต่อหรือแนวตะเข็บเย็บ เพื่อให้ตัวรองเท้าสามารถให้ฟีลลิ่งความกระชับเข้ารูปกับเท้าของผู้เล่นได้แนบสนิททุกจุด
โดยวัสดุผ้าถักที่กล่าวถึงนั้นจะเป็นวัสดุชิ้นหลักด้านใน เพราะบริเวณครึ่งหน้าของตัวรองเท้านั้นถูกเคลือบผิวชั้นนอกด้วยวัสดุสังเคราะห์ ทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะชั้นนอก เพื่อเป็นพื้นผิวสัมผัสบอล ป้องกันน้ำหรือความชื้นทะลุผ่านเข้าไปด้านใน และช่วยให้รองเท้ามีรูปทรง แข็งแรงทนทาน ให้ความกระชับกับรูปเท้าได้แน่นหนามากขึ้น ซึ่งอาดิดาสตั้งชื่อพื้นผิวและอัพเปอร์รุ่นนี้ว่า “Demonskin”
อย่างที่รู้กันว่าไฮไลท์สำคัญของ Predator โฉมนี้คือการกลับมาของวัสดุแถบยางบนตัวรองเท้าหลังจากที่วัสดุแถบยาง หรือที่เคยถูกเรียกว่า “Predator Element” หายไปจากหน้าสัมผัสบอลยาวนานถึง 6 ปี นับตั้งแต่ Predator Instinct เมื่อปี 2014
แน่นอนว่า Predator Mutator 20.1 รุ่นนี้ ซึ่งเป็นรองเท้าระดับท็อปคลาสก็ถูกใส่มาให้แบบจัดเต็ม ด้วยวัสดุช่วยสัมผัสบอลบนหน้าเท้าที่ทำจากชิ้นยาง มีรูปทรงเป็น “หนาม” (Spike) กระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณที่ใช้ในการสัมผัสบอลทั้งหมด สามารถตอบโจทย์ทุกการสัมผัสบอลการยิงประตู การปั่นไซร้โค้งและการเลี้ยงบอลได้อย่างยอดเยี่ยม
นี่คือที่มาที่ไปของสโลแกน “100% Unfair” ที่อาดิดาสตั้งมาให้กับ Predator เจเนอเรชั่นนี้เพราะรองเท้ารุ่นนี้จะทำให้ ผู้เล่นได้เปรียบในการควบคุมบอลได้ทุกรูปแบบ ยังไงก็ไม่แฟร์กับคู่แข่งหรือ “เอาเปรียบคู่แข่ง” นั่นเอง
ลักษณะเนื้อยางแต่ละชิ้นจะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม “พีระมิด” ที่มีฐานเป็นรูปทรง “ไดมอนต์” นูนแหลมขึ้นมาพอสมควร ผมลองสัมผัสเนื้อบางดูแล้วรู้สึกได้ว่าเนื้อยางไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไป ผมว่าความนิ่มกำลังดี และเนื้อยางก็ค่อนข้างมีความเหนียว สัมผัสดูแล้วรู้สึกได้ถึงความฝืด ความหนึบอย่างชัดเจน
ทั้งนี้..อาดิดาสยังได้พรีเซนลักษณะการยึดติดของชิ้นยางแต่ละชิ้นผ่านคลิปวีดีโอเปิดตัวแสดงให้เห็นว่าฐานของชิ้นยางแต่ละชิ้น ถูกยึดติดเข้ากับวัสดุผ้าถักที่เป็นตัวรองเท้าชิ้นหลักด้านใน และวัสดุสังเคราะห์ด้านบนจะเป็นตัวช่วยยึดเสริมความแข็งแรงเอาไว้อีกชั้น ไม่ใช่แค่การเอากาวมาแปะชิ้นยางลงบนหน้าสัมผัสแบบง่ายๆ ดังนั้นจึงน่าจะมั่นใจได้ถึงความทนทาของชิ้นยางแต่ละชิ้นได้พอสมควร
ภาพด้านบนเป็นภาพถ่ายระยะใกล้เพื่อให้ดูลักษณะของชิ้นยาง เห็นได้ชัดเจนว่าชิ้นยางของ Predator Mutator 20.1 มีลักษณะเป็นปิระมิด 3 มิติ มีลักษณะนูนขึ้นมา และมียอดแหลมวางเรียงตัวกันอย่างหนาแน่นบนระยะห่างที่เท่าๆ กัน
ฝั่งข้างเท้าด้านนอก
ฝั่งข้างเท้าด้านนอกมีจะมีวัสดุชิ้นยางบริเวณด้านหน้าเท่านั้น เพื่อช่วยในการควบคุมการเลี้ยงพาบอลกระชากออกทางด้านนอกได้อย่างแม่นยำ รวมถึงยังตอบโจทย์ต่อการยิงแบบปั่นไซร้ก้อยให้มีประสิทธิภาพ
ถัดมาบริเวณช่วงกลางลำตัว จะเป็นวัสดุ Demonskin แบบเพียวๆ เนื่องจากบริเวณนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสบอลในการใช้งานจริง และการที่ตัวรองเท้าบริเวณนี้ใช้เป็นหนังสังเคราะห์แบบเพียวๆ ก็เพื่อให้วัสดุมันสามารถสร้างความกระชับกับข้างเท้าด้านนอกของผู้เล่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ผมอยากให้ลองสังเกตลักษณะสรีระช่วงกลางของตัวรองเท้าให้ดี จะเห็นได้ว่ามีรูปทรงที่ค่อนข้างเรียว กระชับ คล้ายกับรูปทรงของรองเท้าประเภทความเร็ว ยิ่งเป็นการตอกย้ำได้ดีว่า Predator Mutator 20.1 จะให้ฟีลลิ่งความกระชับในการสวมใส่ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมแน่นอน
ฝั่งข้างเท้าด้านใน
กลับมาที่ฝั่งข้างเท้าด้านใน พื้นที่ฝั่งนี้จะเต็มไปด้วยพื้นผิวที่มีวัสดุชิ้นยางจำนวนมาก กินพื้นที่ลึกเข้าไปจนถึงกึ่งกลางของข้างเท้า เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการสัมผัสและควบคุม ทั้งจังหวะการจับบอลแรกหรือการแปบอลด้วยข้างเท้าด้านในให้ทำได้อย่างแม่นยำ และการที่มีวัสดุชิ้นยางเต็มพื้นที่ขนาดนี้ มันจะยังเป็นตัวช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับการแปบอลได้ดีอีกด้วย
พื้นที่หลังเท้าของอาดิดาส Predator Mutator 20.1 จะผลิตจากชิ้นส่วนของวัสดุผ้าถักแบบที่ไม่ถูกเคลือบผิวด้วย Demonskin จึงยังมีคุณสมบัติที่ยืดขยายตัวออกในแนวกว้างได้ดีเพื่อให้ตัวรองเท้าขยายตามสรีระหลังเท้าของผู้เล่นได้บ้าง แต่จากภาพจะสังเกตเห็นว่าความกว้างของช่วงหลังเท้านั้นมีไม่มากนัก
ระยะห่างของรูร้อยเชือกแต่ละระดับก็ไม่ห่างกันจนเกินไป ก่อนที่ด้านบนจะขยายออกเล็กน้อยดังนั้นการดึงกระชับแนวร้อยเชือกจะเป็นปัจจัยหลักที่จะกำหนดความกระชับและฟีลลิ่งการสวมใส่บริเวณด้านบนของหลังเท้านั่นเอง
เส้นเชือกที่ติดตัว Predator Mutator 20.1 มานั้นจะเป็นเส้นเชือกแบบมาตรฐานดั้งเดิมของอาดิดาส คือเส้นเชือกที่มีขนาดไม่กว้างนัก เนื้อผ้าช่วงกลางเส้นจะแข็งพอสมควร ทำให้การจับระเบียบเส้นเชือกทำได้ไม่ยาก ก่อนที่ปลายเส้นเชือกจะขยายออกและเนื้อผ้านิ่มขึ้นเพื่อทำให้การผูกปมเชือกนั้นแน่นหนาและยากที่จะคลายตัวเองในระหว่างการใช้งาน
ส่วนหุ้มข้อของ Predator Mutator 20.1 ยังเป็นรองเท้าประเภทหุ้มข้อสูง (High ankle) แต่ถูกออกแบบใหม่ให้แตกต่างจากหุ้มข้อของ Predator 19.1 อย่างเห็นได้ชัด โดยหุ้มข้อของ Predator Mutator 20.1 นั้นจะมีความดิบๆ เพียวๆ มากขึ้น ด้วยวัสดุผ้าถักทั้งชิ้นซึ่งไม่ถูกเคลือบผิวด้วยวัสดุสังเคราะห์ Demonskin ทำให้หุ้มข้อของรองเท้ารุ่นนี้มีความยืดหยุ่นและให้ความสบายในการสวมใส่
โดยเฉพาะส่วนด้านหลังที่เอาชิ้นส่วนวัสดุยางที่เคยแปะอยู่ตรงบริเวณซัพพอร์ตเอ็นร้อยหวายจะเห็นได้ว่า Predator Mutator 20.1 นั้นไม่มีชิ้นส่วนดังกล่าวแล้ว และได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นวัสดุสังเคราะห์เสริมเข้ามาแทน เป็นตัวช่วยประคองให้ส้นเท้ามีทรวดทรงและซัพพอร์ตกับแนวเอ็นร้อยหวาย แม้จะดูไม่แน่นหนาเหมือนเกราะส้นเท้าของ Predator 19.1 แต่เชื่อว่าใส่สบายกว่าเดิมแน่นอน
เกราะป้องกันส้นเท้าและเอ็นร้อยหวายแบบภายนอก (External heel counter) ยังคงจัดเต็มด้วยชิ้นวัสดุพลาสติกที่มีความหนาและแข็ง ทำหน้าที่โอนกระชับซัพพอร์ตรอบๆ ส้นเท้าของผู้เล่นช่วยสร้างความมั่นคงในจังหวะการลงน้ำหนักที่ส้นเท้าและการเคลื่อนที่บนพื้นสนาม
จุดเด่นของเกราะส้นเท้า Predator Mutator 20.1 นั้นอยู่ที่การดีไซน์พื้นผิวให้มีลักษณะเป็น “หนาม” ขนาดเล็กๆ เต็มไปหมด ช่วยเสริมความดุดันให้กับรองเท้ารุ่นนี้ และยังเข้ากับธีมจุดเด่นหลักได้อย่างลงตัว
จากที่ได้สัมผัสเกราะหุ้มส้นของรองเท้ารุ่นนี้ด้วยมือตัวเองแล้ว ขอบอกเลยว่าเป็นเกราะหุ้มส้นที่วัสดุพลาสติกมีความหนาและแข็งมากที่สุด ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้
แผ่นรองพื้นด้านใน (Insole)
แผ่นรองพื้นด้านใน (Insole) ผลิตจากโฟม EVA ทั้งชิ้น สามารถถอดแยกออกมาได้เนื้อโฟมมีความนุ่มแบบแน่นๆ แต่เท่าที่สัมผัสแล้วแอบรู้สึกว่าแผ่นรองพื้นบางลงกว่าเดิมเลยไปลองเอาแผ่นรองพื้นของรองเท้ารุ่น X 19.1 ก็พบคำตอบว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แผ่นรองพื้นด้านในของ Predator Mutator 20.1 บางกว่าอย่างสังเกตได้เลย
ผิวหน้าสัมผัสด้านบนเป็นหน้าผ้ากำมะหยี่ ลองสัมผัสด้วยมือแล้วรู้สึกถึงความฝืดตามมาตรฐานจึงมั่นใจได้ว่าแผ่นรองพื้นชิ้นนี้จะช่วยป้องกันอาการลื่นไถลของฝ่าเท้าในระหว่างการใช้งานได้ดีเหมือนกับของรองเท้าฟุตบอลอาดิดาสรุ่นอื่นๆ ตรงส้นมีชื่อรุ่น Predator 20.1 สกรีนเอาไว้ด้วยสีแดง ชัดเจน
ชุดพื้นและปุ่มรองเท้าแบบ FG
ชุดพื้นและปุ่มรองเท้าแบบ FG ของ Predator Mutator 20.1 ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด สิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือชุดพื้นเป็นแบบ “แยกชิ้น” ระหว่างชุดพื้นด้านหน้าและชุดพื้นด้านหลัง และยังมาพร้อมกับปุ่ม FG ดีไซน์ใหม่เช่นกัน แต่อาดิดาสยังตั้งชื่อเรียกชุดพื้นและปุ่มชุดนี้ว่า “Controlframe” เหมือนเดิม
จุดเปลี่ยนแรกที่น่าสนใจก็คือชุดพื้นแบบแยกชิ้น ซึ่งถือได้ว่าเคยเป็นเอกลักษณ์ของ Predator ยุคเก่าๆ มาก่อน การใช้ชุดพื้นแบบแยกชิ้นเช่นนี้..ข้อมูลทางเทคนิคระบุว่าจะทำให้ผู้เล่นนั้นมีอิสระในการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ได้คล่องตัวและนุ่มนวลกว่า ไม่แข็งทื่อเหมือนกับชุดพื้นที่เป็นวัสดุพลาสติกชิ้นเดียวกันทั้งแผง เหมาะสมกับรองเท้าฟุตบอลประเภทคอนโทรลเช่นนี้
ถึงแม้ว่า Predator Mutator 20.1 จะไม่มีโครงสร้างฐานพื้นช่วงกลางแบบภายนอกก็ตาม แต่ด้านในก็ยังมีวัสดุพลาสติกทำหน้าที่เป็นโครงสร้างอยู่ ผมได้ลองใช้มือออกแรงหักงอชุดพื้นตามลักษณะการสปรินซ์ด้วยปลายเท้าดูแล้ว พบว่าชุดพื้นมีความแข็ง ต้านแรงกระทำได้และตอบสนองกลับมาเป็นแรงสปริงได้อย่างรุนแรง กล้าพูดว่าชุดพื้นช่วงกลางของรองเท้ารุ่นนี้เป็นชุดพื้นแบบแยกชิ้นที่ให้การตอบสนองต่อแรงหักงอได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
ปุ่มแบบ FG ทั้งหมดของ Predator Mutator 20.1 ก็ได้รับการออกแบบใหม่ แต่ยังมีจำนวนปุ่มเท่าเดิม คือปุ่มด้านหน้ามี 7 ปุ่ม แบ่งเป็นแนวขอบรองเท้าฝั่งละ 3 ปุ่ม หน้า กลางหลังและปุ่มตรงกลางฝ่าเท้า 1 ปุ่ม
รูปร่างของปุ่มเล็กลง มีพื้นที่หน้าตัดน้อยลง และถูกออกแบบใหม่ให้มีลักษณะคล้าย “หยดน้ำ” หรือจะดูคล้าย “เขี้ยว” ก็น่าจะได้ ลองสังเกตจะเห็นได้ว่าปุ่มแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่มีด้านโค้งยาวๆ และส่วนที่เป็นมุมและปลายแหลม รูปทรงปุ่มแบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะพื้นสนามได้ดีขึ้น ปุ่มจิกพื้นได้ลึกว่าเดิม และเพิ่มแรงบิดในจังหวะการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ได้อย่างรุนแรงแม่นยำ
ส่วนปุ่มตรงกลางฝ่าเท้าเป็นปุ่มรูปร่าง “ไดมอนต์” 4 มุมแบบปกติ จะทำหน้าที่รักษาสมดุลในจังหวะการลงน้ำหนักตรงกลางฝ่าเท้า
ปุ่มด้านหลังก็เช่นกัน มี 4 ปุ่มตามปกติ แต่เปลี่ยรูปทรงให้เล็กลง มีลักษณะเป็น “เขี้ยว” หรือ “หยดน้ำ” เหมือนกับปุ่มด้านหน้า มีด้านที่เป็นส่วนโค้งยาวๆ หันหน้าออกทางด้านนอกเหมือนกันทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นยังสามารถใช้ส่วนส้นเป็นจุดหมุนได้อยู่ แต่การเพิ่มมุมแหลมของปุ่มเข้ามาจะเป็นตัวช่วยสร้างแรงยึดเกาะ โดยเฉพาะจังหวะการลงน้ำหนักส้นเท้า ที่การวางเท้าหลักเพื่อบรรจงปั่นไซร้โค้งให้กับลูกฟุตบอล ปุ่มที่ส้นเท้าจะต้องรับภาระได้ดีทั้งการยึดเกาะ และการบิดข้อเท้าตามการสวิงเท้าอีกข้าง ซึ่งปุ่มที่ส้นของ Predator Mutator 20.1 ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ
หลังจากที่ได้สัมผัสกับทุกรายละเอียดของ Predator Mutator 20.1 อย่างใกล้ชิดแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมครั้งนี้ อาดิดาสตั้งใจทำการเปิดตัวและโปรโมทอย่างยิ่งใหญ่ หากใครติดตาม Predator มาโดยตลอด จะรู้ดีว่านานมากแล้วที่อาดิดาสไม่ได้เน้นโปรโมทตอนเปิดตัว Predator สักเท่าไหร่ ตอนที่กลับมาใช้ชื่อ Predator ตอนปี 2018 อีกครั้งนั้น ผมก็ยังไม่รู้สึกว่า Predator 18 นั้นได้รับการโปรโมทถึงเพียงนี้
หลักฐานทุกอย่างที่ตอบว่าทำไมเหล่าสาวก หรือแฟนบอล หรือนักบอลทั่วโลกต้องตื่นเต้นกับการมาของ Predator Mutator 20 ในครั้งนี้ ได้ถูกแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วบนตัวรองเท้ารองเท้าฟุตบอลรุ่นนี้
อาดิดาสจะวางจำหน่าย Predator Mutator 20.1 ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2020 เป็นต้นไป ในราคา 7,800 บาท ผู้ที่สนใจสามารถไปสัมผัสและลองสวมใส่รองเท้ารุ่นนี้ รวมถึงรองเท้ารุ่นอื่นๆ ในซีรี่ย์ Predator Mutator 20 ด้วยตัวเอง ที่ร้าน อาดิดาส แบรนด์เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์, อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ สยามพารากอน, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th, และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วไป
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Siamboots สังคมคุณภาพของคนรักรองเท้าฟุตบอล..อันดับหนึ่งของเมืองไทย
บทความและภาพจาก Siamboots
