Google เปิดตัว Google Pixel 5 และ Google Pixel 4a 5G มาพร้อมกับขุมพลัง Snapdragon 765G 5G ทั้งคู่ และกล้องหลังคู่มีเลนส์อัลตร้าไวด์เหมือนกัน ที่เป็นสมาร์ทโฟนกลุ่มแรกจาก Google ที่เข้าสู่ยุค 5G ครั้งแรกด้วยสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีราคาเริ่มต้นสุดเร้าใจเพียง $499 หรือ 15,800 บาทนั่นเอง

Google Pixel 5 เปิดตัวในรอบนี้ไม่มีการแบ่งรุ่นย่อยเป็นรุ่นธรรมดาและ XL อีกต่อไปจะเหลือเพียงแค่รุ่นเดียวเท่านั้น ซึ่งมาพร้อมกับตัวเครื่องอลูมิเนียมชิ้นเดียวที่รองรับการใช้งานชาร์จไร้สายได้ แม้จะเป็นฝาหลังอลูมิเนียมก็ตาม พร้อมขุมพลัง Snapdragon 765G 5G แรม 8GB มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.0″ ความละเอียด Full HD รีเฟรชเรต 90Hz

และกล้องที่มีด้วยกัน 2 เลนส์คือ เลนส์หลักความละเอียด 12MP f/1.7 มีกันสั่น OIS รองรับฟีเจอร์ Super Res Zoom ทำให้การซูมสำหรับถ่ายภาพไม่เสียรายละเอียดของภาพ และกล้องอีกเลนส์เป็นอัลตร้าไวด์ 16MP f/2.2 กว้างถึง 107 องศา รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 4K 60fps ที่ถือเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟนตระกูล Pixel เลย

Google Pixel มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ้ 4,080 mAh ที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดที่ Pixel เคยมีมา รองรับการชาร์จไว 18W พร้อมการชาร์จไร้สาย และแชร์พลังงานให้อุปกรณ์อื่นผ่านไร้สายได้เช่นเดียวกัน. รวมไปถึงด้านการกันน้ำกันฝุ่นยังมีเช่นเดิมด้วยมาตรฐาน IP68 พร้อมจำหน่ายวันที่ 15 ตุลาคม นี้ในราคาเริ่มต้น $699 ประมาณ 22,100 บาท มีสีให้เลือกด้วยกัน 2 สี คือ Just Black และ Sorta Sage

ในด้านของ Google Pixel 4a 5G มาพร้อมกับกล้องหลังและขุมพลังแบบเดียวกับ Google Pixel 5 ทุกอย่าง แต่มีการเปลี่ยนมีการเปลี่ยนมาใช้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่าอยู่ที่ 6.2″ ความละเอียด Full HD และยังคงเป็นหน้าจอ OLED เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนจาก Google Pixel ทุกรุ่น และมีการเปลี่ยนวัสดุเครื่องมาใช้งานเป็นพลาสติกแทนอลูมิเนียม รวมไปถึงไม่รองรับการชาร์จไร้สาย โดยมีแรมลดเลหือเพียง 6GB เท่านั้น. แม้ว่าจะมีหน้าจอที่ขนาดใหญ่กว่า แต่มีการปรับลดขนาดของแบตเตอรี่ลงมาเหลือเพียง 3,885 mAh

แต่ว่า Google Pixel 4a 5G ยังคงมาพร้อมกับจุดแข็งพิเศษในตระกูลลงท้ายด้วย a ด้วยพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. และมีราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้อย่างง่ายดายกลับสเปกที่ยังคงความคุ้มค่าไว้อยู่เพียง $499 หรือ 15,800 บาท พร้อมจำหน่ายวันที่ 15 ตุลาคม 2020 นี้เฉพาะประเทศญี่ปุ่น.

ที่มา GSMArena