จากสถานการณ์วิกฤติโควิด 19 ทำให้ทุกคนบนโลกต้องปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ใหม่ หรือที่เรียกว่า New Normal ซึ่งนั่นอาจทำให้วิถีชีวิตของเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้ว่าในอนาคตจะมีการคิดค้นวัคซีนและยารักษาโรคโควิด 19 ได้แล้ว แต่ความเคยชินกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้เราเคยชินกับการเว้นระยะห่างทางสังคมกันมากขึ้นจะยังคงอยู่ต่อไปอีกนาน เพราะทุกคนได้ทราบแล้วว่าเราสามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้แม้ไม่ต้องใกล้ชิดกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เรายังไม่มีวัคซีนโควิด 19 เทคโนโลยีต่างๆ จึงทยอยถูกนำมาใช้งานเพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถทำงานร่วมกันจากระยะไกล รวมถึงการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้โควิดกลับมาระบาดซ้ำ ดังเช่นเทคโนโลยีแว่น AR จาก LLVISION ที่เราจะพาเพื่อนๆ มารู้จักในครั้งนี้ แว่นตัวนี้ไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร และการทำงานร่วมกันเท่านั้น มันยังสามารถใช้วัดอุณหภูมิจากระยะไกลได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานทราบว่าใครที่อยู่รอบตัวเรามีแนวโน้มว่าจะป่วยโควิด จะได้หาทางหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้ หากใครอยากรู้ว่าแว่นตัวนี้ทำอะไรได้อีกบ้าง ก็ตามมาดูกันเลย

บริษัท LLVISION เจ้าของเทคโนโลยีแว่น AR

ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักแว่น AR ตัวนี้ เราจะขอพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักบริษัท LLVISION เจ้าของเทคโนโลยีแว่น AR ตัวนี้กันก่อน LLVISION คือบริษัทเทคโนโลยีไอทีจากประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี AI และ AR โดยสามารถประสานทั้งสองเทคโนโลยีนี้เข้าด้วยกันจนกลายเป็นสินค้าและบริการที่หลากหลายทั้งในรูปแบบฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ เช่น ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบตรวจวัดในโรงงานอุตสาหกรรม และบริการตรวจวัดด้านสุขภาพ เป็นต้น  ที่ผ่านมามีลูกค้ามาใช้บริการจาก LLVISION แล้วกว่า 5,000 บริษัทจากทั่วโลก

และในช่วงต้นปีนี้เอง LLVISION ได้จับมือกับ SAP จัดทำโครงการ AR FSM เพื่อนำเสนอเทคโนโลยี AR สุดล้ำมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้คนทำงานในยุคโควิด โดยเทคโนโลยี AR ที่ว่านี้มาในรูปแบบแว่น AR ที่มีชื่อว่า GLXSS SE-AR  อันล้ำสมัยนั่นเอง

ความสามารถในการควบคุมการระบาดโควิด 19 ของแว่น GLXSS SE-AR

GLXSS SE-AR สามารถตรวจวัดอุณหภูมิของเป้าหมายหลายจุดพร้อมกันได้อย่างแม่นยำในระยะ 3 เมตร โดยใช้อัลกอลิทึมจับแทบสเปกตรัมคู่ พร้อมปรับแก้ error เทียบกับวัตถุดำ (หากเป็นคนก็จะจับที่บริเวณหน้าผาก) ทำให้มีค่าความแม่นยำในการวัดอยู่ที่บวกลบ 0.3 องศาเซลเซียสเท่านั้น

นอกจากความสามารถในการตรวจวัดอุณหภูมิแล้ว ยังสามารถใช้จดจำและจำแนกใบหน้าผู้คนได้อย่างแม่นยำในระยะ 8 เมตร โดยตัวแว่นได้ติดตั้งระบบประมวลผล 1T Floop/W และใช้ชิปประมวลผลแบบเอดจ์ทำให้สามารถรองรับการตรวจจับใบหน้าแบบเรียลไทม์ได้ถึง 200 คนต่อนาทีเลยทีเดียว

ซึ่งผลการตรวจวัดอุณหภูมิและใบหน้านั้นสามารถเชื่อมโยงกันละสร้างเป็นฐานของมูลสำหรับแต่ละคนที่แว่นจับภาพได้ว่าพบเจอที่ไหน เวลาเท่าไหร่ ตอนนั้นเขาคนนั้นมีแนวโน้มว่าป่วยหรือไม่ และสามารถส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังแพลตฟอร์มการจัดการได้อย่างสะดวก

ความสามารถอำนวยความสะดวกในการทำงานระยะไกลของแว่น GLXSS SE-AR

แว่น GLXSS SE-AR ตัวนี้มีน้ำหนักเบามากเพียง 33.4 กรัมเท่านั้น สามารถกันฝุ่นกันน้ำได้ในระดับ IP67 และผ่านการทดสอบด้วย MIL-STD มาแล้ว สามารถใช้งานร่วมกับแว่นตาทั่วไป หมวกกันน็อค และอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ได้อย่างไม่เป็นอุปสรรค โดยแว่นตัวนี้จะมอบมุมมองบุคคลที่หนึ่งพร้อมความสามารถในการทำงานต่างๆ ที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์การแชร์คลิปวิดีโอ ฟีเจอร์การประชุมด้วยภาพและเสียงแบบหลายคนพร้อมกัน

ไม่เพียงเท่านั้น แว่น GLXSS SE-AR ยังมีฟีเจอร์ AR real time สำหรับการติดตามการเคลื่อนที่วัตถุแบบอัตโนมัติรองรับการรับภาพ ข้อความ ไฟล์หลักแบบสองทางอีกด้วย โดยรูปภาพและข้อความที่รับมาจะปรากฏบนหน้าจอของแว่นตาโดยอัตโนมัติ

และข้อดีอย่างสุดท้ายนี้จัดให้คนทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ เพราะแว่น GLXSS SE-AR ตัวนี้มีแพลตฟอร์มArise Industrial สามารถทำไปใช้หน้างานได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งในเรื่องการจัดการกระบวนการทำงาน การจัดการเครื่องจักรและทรัพย์สินต่างๆ ของโรงงาน โดยมี AI ให้คำปรึกษาด้วย

https://www.youtube.com/watch?v=X6blzIWimnQ

และนี่ก็คือแว่น GLXSS SE-AR แว่นอัจฉริยะสำหรับคนทำงานยุคโควิด 19 ที่เราอยากจะมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคอเทคโนโลยีทุกคน ก็หวังว่าคนไทยอย่างเราจะมีโอกาสได้ใช้แว่นตัวนี้กันเร็วๆ นะครับ หากใครสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถคลิกเข้าไปดูที่เว็บไซต์ของบริษัทที่ลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย

ที่มา – llvision

Text – Sujate Wanchat