ร่วมคิดถึง “ฟุตบอล” และ “ชีวิต” เมื่อ “R9” โรนัลโด้ ไลฟ์รวม “กาลาคติกอส” - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ร่วมคิดถึง “ฟุตบอล” และ “ชีวิต” เมื่อ “R9” โรนัลโด้ ไลฟ์รวม “กาลาคติกอส”

ช่วงการระบาดของ “โควิด-19” ตัวแสบ ทำเอาเราเจอหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่คิดฝันจะเจอมาก่อน ใครจะคิดว่าเราต้อง “เวิร์ค ฟอร์ม โฮม” ยาวนานติดต่อกันยิ่งกว่าตอนน้ำท่วม, ใครจะคิดว่าเราจะต้องเจอช่วงไม่ขายแอลกอฮอล์นาน 10 วัน หรือใครจะคิดว่า 13-15 เม.ย. ปีนี้ ทำให้เราไม่สามารถเรียก “สงกรานต์” ได้เต็มปาก

นอกจากชีวิตจะไม่ปกติ ฟุตบอลที่ขาดหาย ก็ทำให้แฟนบอลโหยหาซะไม่มี
(Source : Forbes)

นอกเหนือจากกิจวัตรที่ต้องปรับตัว การไม่มีฟุตบอลในลีกดังให้ได้ชมกันยาวนานแรมเดือน ก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่มีใครคุ้นชิน แน่นอนว่าสิ่งแรกที่กระทบคือโปรแกรมการแข่งขัน แต่สิ่งที่ตามมาคือด้าน “ความรู้สึก” ของผู้คนที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล จะผู้บริหาร, ทีมโค้ช, นักเตะ, สตาฟฟ์ทีม หรือแฟนบอล มัน “โหยหา” และ “เหงา” ชะมัด

มัน “เหงา” เกี่ยวกับฟุตบอลขนาดไหน มีมาตรวัดให้เห็นชัดเจน เมื่อราว 2-3 วันก่อน เมื่อ “R9” หรือ “โรนัลโด้” อดีตศูนย์หน้าพระกาฬชาวบราซิล ได้ทำการหวนรำลึกถึงคืนวันยุค “กาลาคติกอส” โดยการชวนอดีต เพื่อนร่วมทีมมาพูดคุยในไลฟ์ IG ซึ่งตามมาด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากมาย

“โรนัลโด้” ทำการชวนอดีตเพื่อน “กาลาคติกอส” มาพูดคุยใน Instagram Live
(Source : Daily Mail)

วันนี้ เลยอดไม่ได้จะหยิบการไลฟ์ครั้งนี้มาคุยกัน ว่ามันมีอะไรให้เราคำนึงถึงกันบ้าง ยิ่งในวันที่เราตอบไม่ได้เลย ว่าเมื่อไหร่เกมลูกหนังจะกลับมาอีกหน

“กาลาคติกอส” คืออะไร?

ย้อนรอยกันหน่อย เผื่อใครยังไม่ทัน คำว่า “กาลาคติกอส” เป็นภาษาสแปนิช ที่แปลว่า “ซูเปอร์สตาร์” ใช้เรียกนโยบายการซื้อตัว และสร้างทีมของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด มหาอำนาจแห่งโลกลูกหนัง ทีมที่ครองแชมป์ยุโรปมากที่สุด

“อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่” (ซ้าย) และ “เฟเรนซ์ ปุสกัส” สตาร์ยุค 50-60
(Source : Pinterest)

ว่ากันว่า นโยบาย “กาลาคติกอส” มีมาตั้งแต่สมัยยุค 50 หรือ 60 นู่น เพราะพวกเขาอยากรวบรวมนักเตะระดับแนวหน้าของโลกไว้ด้วยกัน เราจึงเห็นชื่อของโคตรนักเตะอย่าง อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่, เฟเรนซ์ ปุสกัส, เรย์มง โคป้า ย้ายข้ามประเทศมารวมตัวกัน

แต่ถ้าจะให้พูดถึง นิยามที่ชัดเจนของ “กาลาคติกอส” ในยุคหลัง คงต้องนับหลังปี 2000 ที่ประธานสโมสรของพวกเขา “ฟลอเรนติโน่ เปเรซ” ประกาศทุ่มดึงซูเปอร์สตาร์ระดับแนวหน้าสู่ทีมอย่างน้อยปีละ 1 คน โดยเริ่มจากดีลช็อคโลกอย่างกการทุ่มคว้า “หลุยส​ ฟิโก้” มาจากอริตลอดกาล บาร์เซโลน่า

“ฟลอเรนติโน่ เปเรซ” ประธานผู้ประกาศแนวคิด “กาลาคติกอส” ชัดเจน
(Source : Real Madrid, Sportskeeda)

ถัดจากฟิโก้ เปเรซเสริมนักเตะชื่อดังไม่หยุดหย่อน ซีเนดีน ซีดาน, โรนัลโด้, เดวิด เบ็คแฮม, ไมเคิล โอเว่น, โรบินโญ่, เซร์คิโอ รามอส ถูกซื้อมาในทุกซีซัน รวมถึงพวกที่อยู่กับทีมมาก่อนอย่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส, โคล้ด มาเกเลเล่, เฟร์นานโด มอริเอนเตส และพวกที่ดันขึ้นมาจากอคาเดมี่ อย่าง ราอูล, เฟร์นานโด เอียร์โร่, อิเคร์ คาซิยาส มองไปทางไหน ก็มีแต่สตาร์

ถัดจากยุคนั้น แม้จะมีช่วงสั้นๆ ที่เปเรซไม่ได้เป็นประธาน จนกลับมาเป็นประธานอีกหน มาดริดจะยังคงยึดนโยบายเดิม ด้วยการเติมนักเตะชื่อดังระดับโลกเข้าทีม อย่าง กาก้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ชาบี อลอนโซ่, แกเร็ธ เบล, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช แต่ก็ไม่มีช่วงไหนใช้คำว่า “กาลาคติกอส” ได้เต็มปาก เท่ายุคแรกช่วงปี 2000-2007

ไลฟ์ของโรนัลโด้

อย่างที่ว่าไป ว่าถ้าให้พูดถึง “กาลาคติกอส” คุณจะนึกถึงเหล่านักเตะพระกาฬรุ่นหลังปี 2000 ที่เอกอุทั้งฝีเท้า และภาพลักษณ์ การที่พี่โด้ จัดการไลฟ์ IG แล้วคุยกับเพื่อนร่วมทีมสมัยนั้น มันจึงเป็นเรื่องให้พูดถึงกันอย่างมาก

โรนัลโด้ กับ เบคแฮม

“โรนัลโด้” และ “เดวิด เบคแฮม” สุดยอดในตำแหน่งของตัวเอง ในขวบปีนั้น
(Source : Manchester Evening News)

โรนัลโด้เริ่มชวน “เดวิด เบคแฮม” มาพูดคุยก่อน โดยทั้งคู่รำลึกอดีตด้วยถ้อยคำดีๆ มากมาย พี่เบคส์ พูดถึงพี่โด้ ว่าเป็นคนแรกๆ ที่ทำให้เขาผ่อนคลายกับทีมใหม่ ในวันที่เขาย้ายมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรที่สตาร์ชาวอังกฤษอยู่มาแทบจะทั้งชีวิต

เบคแฮมยังพูดถึงความประทับใจ ที่โรนัลโด้ และโรแบร์โต้ คาร์ลอส ชอบบอกว่าถ้าจะมีนักเตะอังกฤษเล่นให้ทีมชาติบราซิลได้ ก็มีแต่เบคแฮมนี่แหละ ซึ่งเบคส์ไม่อยากเชื่อว่าเป็นจริง เพราะในมุมมองเขา นักเตะ “แซมบ้า” สุดยอดที่สุดในโลกตอนนั้น แต่โรนัลโด้ก็ยืนยันในไลฟ์ ว่าเขายังคิดแบบเดิมตามนั้น เพราะเบคแฮมคือหนึ่งในนักเตะยอดเยี่ยมตลอดกาล

โรนัลโด้ ยกย่องเบคแฮมเสมอ ว่าถ้าเป็นไปได้ “เบคส์” คู่ควรเล่นในทีมชาติบราซิล
(Source : SPORTbible)

ที่โรนัลโด้พูดแบบนั้น เพราะเขาคิดว่าทักษะของเบคแฮมสุดยอด ทั้งการสัมผัสบอล และการผ่านบอลที่แม่นยำ โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไร นอกจากขยับตัวให้ถูกจังหวะ เดี๋ยวบอลก็ลอยมาหาเขาเองแบบสั่งได้

เบคแฮม ยังพูดถึงความทรงจำที่เล่นในทุกสโมสร ช่วยหล่อหลอมให้เขามีแรงกระตุ้นเต็มที่ในการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลในตอนนี้ โดยทั้งเขา และโรนัลโด้ ต่างกำลังทำหน้าที่ในส่วนนี้กันทั้งคู่ (เบคแฮมเป็นเจ้าของอินเตอร์ ไมอามี่ ส่วนโรนัลโด้ถือหุ่นใหญ่ เรอัล บายาโดลิด)

โรนัลโด้ กับ โรแบร์โต้ คาร์ลอส

“โรนัลโด้”​ และ “โรแบร์โต้ คาร์ลอส” 2 นักเตะที่อยู่ในชุดดีที่สุดของบราซิล ชุดนึง
(Source : Daily Mail)

2 สุดยอดนักเตะบราซิเลียน ร่วมรำลึกถึงตอนที่รวมกันในฐานะกาลาคติกอส ว่ามันเป็นโชคดีที่พวกเขาได้เล่นด้วยกัน และมีอารมณ์ร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนในการเล่นร่วมกัน

“ลอเรนโซ่ ซานซ์” (ที่ 2 จากซ้าย) อดีตประธานเรอัล มาดริด ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19
(Source : The Guardian)

นอกจากนั้น ทั้งคู่ยังพูดถึงผลกระทบของโคโรน่าไวรัส ว่ามันส่งผลกระทบมากมาย โดยเฉพาะการต้องสูญเสียชีวิตผู้คน รวมถึง “ลอเรนโซ่ ซานซ์” อดีตประธานของมาดริด ช่วงปี 1995-2000 ยุคก่อนเปเรซ

โรนัลโด้ กับ หลุยส์ ฟิโก้

“หลุยส์ ฟิโก้” นักเตะรายแรกในยุคกาลาคติกอส ที่ “โรนัลโด้” ชื่นชมเสมอ
(Source : Oh My Goal)

ถึงทั้งคู่จะเป็นอดีตนักเตะที่เคยเล่นทั้งกับบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด แต่ทั้งคู่ก็พูดคุยถึงการร่วมงานกันที่มาดริด เป็นสำคัญ โดยทั้งคู่รู้สึกโชคดีที่ได้เล่นร่วมกัน และย้อนอดีตตอนนั้น ว่าแม้ทุกคนจะมีชื่อเสียงในตัวเอง แต่ก็รู้วิธีที่จะถ่อมตัว และเล่นร่วมกัน ซึ่งมันเป็นสิ่งพิเศษมาก

นอกจากนั้น ฟิโก้ยังพูดถึงโรนัลโด้ส่วนตัว ว่าการซ้อมกับพี่โด้นั้นเยี่ยมมาก เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถเป็นผู้ชนะในเกมฟุตบอลได้เสมอ ถึงสุดท้ายโรนัลโด้จะถ่อมตัวว่าพวกเขาไม่ได้ชนะทุกอย่าง เพราะมันเป็นธรรมดาของฟุตบอล ที่มีวันพ่ายแพ้ แต่ยังไงฟุตบอลก็เป็นสิ่งสวยงาม ที่พาทุกคนมาเจอกัน

โรนัลโด้ กับ อิเคร์ คาซิยาส

“อิเคร์ คาซิยาส” เด็กปั้นของสโมสร ซึ่งขึ้นมาเป็นกำลังหลักในยุคกาลาคติกอส
(Source : Twitter)

ประเด็นสำคัญ คือโรนัลโด้ถามถึงอาการหัวใจวายเฉียบพลันของคาซิยาส ซึ่งผู้รักษาประตูตำนานชาวสแปนิช ยอมรับว่าเขาโชคดี ที่มีอาการเกิดขึ้นในสนามซ้อม ทำให้การช่วยเหลือทำได้รวดเร็วทันท่วงที เพราะถ้าเกิดขึ้นที่อื่น ไม่แน่ เขาอาจจะไม่ได้มาคุยกับโรนัลโด้ในวันนี้แบบนี้

คาซิยาส เมื่อตอนเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ตอนซ้อมกับปอร์โต้
(Source : Daily Express)

หลังสอบถามอาการเจ็บป่วยของคาซิยาส โรนัลโด้ก็แชร์ความหลัง ถึงอาการบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเหมือน “สงคราม” สำหรับเขา โดยเฉพาะในช่วงที่เขาค้าแข้งกับอินเตอร์ มิลาน เขาพลาดเกมจำนวนมากในปี 1999-2000 ดังนั้น การกลับมาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2002 และการได้ย้ายไปมาดริด เหมือนเป็นการกลับมาสู่สิ่งที่ถูกที่ควรอีกครั้งในชีวิต

แชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ที่ “โรนัลโด้” ยกให้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต
(Source : Dream Team)

โดยคาซิยาส เสริมว่า ทุกคนแฮปปี้ที่มีโรนัลโด้ที่มาดริด มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม และสร้างความทรงจำที่ดีให้กับทุกคนที่นั่น อย่างไม่ต้องสงสัย

ในมุมแฟนบอล : สิ่งที่เห็น และความรู้สึก

เราคิดถึงฟุตบอลมากกก

จะว่าไปในช่วง 5-10 ปีหลัง เรามีแมทช์ “ตำนาน” เกิดขึ้นหลายต่อหลายหน ทั้งการปะทะกันระหว่างทีมตำนานระหว่างสโมสร หรือเกมรวมดารามาดวลแข้งกัน ซึ่งส่วนใหญ่วัตถุประสงค์ก็เพื่อการกุศุล

แมทช์การกุศลของยูนิเซฟหลายปีก่อน ที่เบคแฮมเป็นตัวตั้งตัวตี
(Source : Pinterest)

แน่นอนว่าเวลามีแมทช์แบบนี้ มันก็ชวนให้เราอยากติดตามชมอยู่ไม่น้อย เพราะมันเหมือนเป็นการกลับมาดูอดีตนักเตะที่เราเคยเฝ้าดูหน้าจออยู่ทุกสัปดาห์ กลับมาโม่แข้งกันอีกครั้งให้หายคิดถึง จะคิดถึงตัวนักเตะ หรือคิดถึงการเล่นร่วมกัน ก็สุดแล้วแต่

แต่ในวันที่สถานการณ์ไม่ปกติแบบนี้ จากฟุตบอลถี่ยิบที่มีให้ดูกันหลายคู่ต่อวัน กลายเป็นตารางแข่งขันอันว่างเปล่า แบบไม่รู้กำหนดกลับมา การได้เห็นแค่การพูดคุยไลฟ์ครั้งนี้ กลับทำให้เราคิดถึง “ฟุตบอล” มากแทบขาดใจ

บรรยากาศอันคึกคักของฟุตบอล ที่แฟนบอลทั่วโลกคิดถึงเหลือเกิน
(Source : Dream Team)

ไม่แบ่งแยกเป็นตัวนักเตะ หรือทีม ไม่ว่าคุณจะเชียร์ทีมอะไร หรือแม้คุณจะเป็นแฟนทีมบาร์เซโลน่า รับรองว่าความรู้สึก “คิดถึงฟุตบอล” ก็มากไม่แพ้กัน

ชีวิตที่ช้าลง ทำให้เราคิดถึงกันมากขึ้น

ก่อนนี้ มันมักจะมีคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อย ว่าคนสมัยนี้ อะไรก็รอไม่ได้ และนึกถึงกันน้อยลง ไม่เหมือนยุคก่อน ที่โลกออนไลน์ยังไม่เข้ามามีบทบาท จะคุยทีต้องเขียนจดหมาย ต้องโทรเข้าโทรศัพท์บ้าน เดินทางก็ไม่สะดวกสบาย ต้องใช้ความพยายาม

สถานการณ์ “โควิด-19” ทำให้การใช้ชีวิตของเราช้าลง และเว้นระยะห่างต่อกัน
(Source : Business Insider)

ในช่วงเวลานี้ “Social Distancing” ทำให้เราต้องกลับมาใช้ชีวิตช้าลง จะไปไหนก็ไม่ได้ ไปหากันก็ไม่ง่าย ถึงจะทำชีวิตลำบาก หรือน่าเบื่อไปบ้าง แต่มันก็ทำให้เราได้ใช้ชีวิตช้าลง และมีเวลาคิดถึงกันมากขึ้น เหมือนที่พี่โด้ เขาคิดถึงอดีตเพื่อนร่วมทีม ที่ไม่ได้พบปะกันเท่าไหร่

การได้เห็นภาพการพูดคุย และแชร์อดีตที่ยอดเยี่ยมด้วยกัน ไม่สงวนลิขสิทธิ์เลย ที่เราจะใช้โอกาสนี้ พูดคุยกับเพื่อน หรือคนที่เรารักให้มากขึ้น เพราะเรื่องเวลา ไม่เป็นข้ออ้างอีกต่อไป

พลังแง่บวก มีคุณค่าทางจิตใจ

อย่างที่ทราบกันว่า “กาลาคติกอส” เป็นแหล่งรวมซูเปอร์สตาร์ มาเล่นร่วมกัน ทั้งอีโก้ และความเป็นปัจเจกของแต่ละคน ย่อมมีไม่น้อย แต่การที่พวกเขาให้เกียรติซึ่งกันและกัน ชื่นชมใน่แง่บวกต่อกัน ทำให้ทุกคนเล่นร่วมกันได้ และมีความทรงจำดีๆ เหลือให้พูดถึงเพียบ

ถึงจะรวมสตาร์คับคั่ง แต่แข้งแต่ละรายก็รู้วิธีเล่นร่วมกัน ด้วยความคิดแง่บวก
(Source : ZonaSoccer)

การพูดคุยกับนักเตะแต่ละคนของโรนัลโด้ ถึงไม่ได้มีความเฮฮาปาร์ตี้ มีเพียงการแชร์ความทรงจำในแง่บวกซึ่งกันและกันให้พูดถึง แต่มันก็ทรงพลังเพียงพอ จะทำให้เราสนใจใคร่ฟัง

ถึงเราในฐานะ “คนนอก” จะไม่มีทางเข้าใจความเป็นไปทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นจริงในตอนนั้น แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจ และพลังดีๆ ที่ส่งผลต่อจิตใจของผู้สนทนา และผู้ฟัง

ถึงตอนนี้หน้ากากจะปิดบังรอยยิ้ม แต่ใจเราก็สร้างมันให้ผู้อื่นสัมผัสได้เช่นกัน
(Source : Forbes)

ถึงสถานการณ์ตอนนี้ การคิดในแง่ดีมากๆ อาจจะใกล้เคียงกับคำว่า “โลกสวย” แต่การเติมพลังบวกเขามาหน่อย ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ยิ่งกับวันที่ใครหลายคนต้องการกำลังใจ มากกว่าที่เคยเป็น

Picture : FootyRoom, El País, Pinterest, Real Madrid, Forbes, Daily Mail, Sportskeeda, Manchester Evening News, SPORTbible, The Guardian, Oh My Goal, Twitter, Daily Express, Dream Team, Business Insider, ZonaSoccer

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save