หลังจากเปิดประเดิมซีซัน 2 กันไปใน EP ที่แล้ว ก่อนจะมาพูดถึงเหล่านักเตะน่าสนใจใน EP นี้ เราขอย้อนแปะลิงค์สำหรับหลายคน ที่อยากจะรู้จัก Fantasy Premier League มากกว่านี้ก่อน เพราะผมเคยทำคอนเทนท์แนะนำไว้ครบแล้ว

แฟนตาซีคืออะไร, ทำไม Fantasy Premier League น่าเล่น, เริ่มต้นเล่นยังไง >> คลิกไปอ่าน Intro 101 ได้ที่นี่เลย <<

ฟังก์ชันเบื้องต้นของ FPL, เทคนิคการจัดทีมเบื้องต้น, กฎกติกาการเล่น, การจอยลีกย่อย >> คลิกไปอ่าน Intro 201 ได้ที่นี่เลย <<

ส่องความน่าสนใจซีซัน 2020/21 และกลยุทธ์หลักในการจัดทีมให้มีประสิทธิภาพ >> คลิกไปอ่าน SS 2 EP 1 ได้ที่นี่เลย <<

กลับมาพูดเรื่องของ EP นี้กันต่อ โดย EP นี้ เราจะเน้นหนักไปที่กลุ่มนักเตะที่น่าสนใจเพื่อเป็นทางเลือกในการจัดทีมของคุณ เพราะตั้งแต่ตอนนี้จนถึงเดดไลน์ Gameweek 1 คุณสามารถปรับเปลี่ยนตัวได้โดยไม่ต้องเสียแต้มติดลบ ดังนั้นการเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับซีซันใหม่ทุกองค์ประกอบ มีความจำเป็นมาก

ตัวนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ เราจะขอละไว้ไม่พูดถึง เพราะทุกคนน่าจะทราบสรรพคุณของพวก บรูโน่, เด บรอยน์, ซาล่าห์, มาเน่, โอบาเมย็อง, แวร์เนอร์, เทรนท์ กันอยู่แล้ว เราขอมาโฟกัสนักเตะตัวรองที่น่าสนใจแทน เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นักเตะเหล่านี้สามารถสร้างความแตกต่างให้กับเราได้เช่นกัน

จัดการยังไงกับ 2 ทีมแมนเชสเตอร์

ก่อนจะไปแนะนำนักเตะที่ว่า เรามีพูดถึงปัญหาที่ทำให้กุนซือหลายท่านปวดหัวกันก่อน กับการ Blank ใน Gameweek 1 ของ 2 ทีมจากแมนเชสเตอร์ ซึ่งส่งผลต่อการจัดทีม และจัดสรรงบประมาณของเรา เลยอยากจะพูดวิธีจัดการตรงนี้หน่อยนึง

เลือกติดทีมไว้แต่ต้น

วิธีจัดการแรกแบบไม่ต้องคิดมาก คือการเลือกนักเตะที่เราอยากได้จาก 2 ทีมนี้ อยู่ในทีมตั้งแต่ต้น ข้อดีสำคัญคือการไม่ต้องไปกังวลกับราคาขึ้น-ลงของนักเตะหลังผ่านเดดไลน์ Gameweek 1 เพราะอย่าลืมว่า แค่การปรับเพียง 0.1 อาจจะทำให้คุณพลาดเป้าหมายที่ต้องการได้ หากไม่มีงบสแปร์ไว้

ข้อเสียแน่นอนอยู่แล้ว นั่นคือคุณจะขาดคีย์แมนทำแต้มใน Gameweek 1 เพราะตัวยอดนิยมจากทั้ง 2 ทีม เช่น บรูโน่ (10.5 ล้านปอนด์) หรือ เด บรอยน์ (11.5 ล้านปอนด์) ถือเป็นการลงทุนหลักในทีม ดังนั้นต้องจัดสรรนักเตะที่เหลือให้ได้ แล้วยอมจับเอานักเตะ 2 ทีมนี้ไปนั่งสำรอง

ไม่เลือก แต่เปลี่ยนเข้าทีหลัง

วิธีนี้น่าจะได้รับความนิยมมากกว่า เพราะเราจะสามารถจัดทีมที่พร้อมเต็มสูบสำหรับ Gameweek 1 ได้มากกว่า ตามสไตล์เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

สิ่งสำคัญของวิธีนี้ คือคุณต้องวางทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า ทั้งการคำนวณงบประมาณในการจะดึงเอานักเตะจาก 2 ทีมแมนเชสเตอร์เข้าสู่ทีมในภายหลัง ซึ่งมีโอกาสสูงมาก ที่คุณต้องยอมเปลี่ยนตัวเมเจอร์ในทีมออก เช่น ซาล่าห์, มาเน่, โอบาเมย็อง, ซน เฮือง มิน

จุดเสี่ยงนอกจากราคานักเตะขึ้น-ลง ซึ่งจะมีการปรับกันทุกวันตอนเช้า ตามกลไกปัจจัยที่ FPL ตั้งไว้ ยังรวมถึงความลังเล หากตัวเมเจอร์ที่ตั้งใจจะเปลี่ยนออก ดันทำผลงานได้โดดเด่น เพราะโอกาสที่คุณจะเก็บตัวเมเจอร์ไว้ แล้วเปลี่ยนเอาตัวจากยูไนเต็ด หรือซิตี้เข้ามาเพิ่ม แทบจะเป็นไปได้ยาก งบไม่น่าพอ

อัดเต็มสูบ แล้วรอใช้ตัวช่วย

วิธีสุดท้ายเป็นแบบ “ใจใหญ่” กับการตัดสินใจใช้ตัวช่วยอย่าง “Wildcard” กันตั้งแต่ต้นซีซัน ซึ่งข้อดีแน่นอน คือคุณสามารถจัดทีมแบบไม่ต้องเผื่องบประมาณไว้ เมื่อ 2 ทีมแมนเชสเตอร์พร้อมเมื่อไหร่ ใช้ตัวช่วย ก็เหมือนได้จัดทีมฟรีสไตล์เต็มที่อีกครั้ง

ส่วนข้อเสีย ถือว่ามีไม่น้อย เพราะคุณจะเสียตัวช่วยสำคัญไป เพราะอย่าลืมว่า Wildcard ใช้ได้แค่ครั้งเดียว ไปจนถึงช่วงตลาดฤดูหนาวเดือน ม.ค. ถึงจะใช้ได้อีก 1 ครั้ง ดังนั้นระหว่างทางหลังจากนี้ คุณอาจจะเจอมรสุมตัวในทีมฟอร์มร่วงหล่นจนอยากจะปรับใหญ่ แต่พอไม่มีตัวช่วย ทุกอย่างติดขัดแน่นอน

นักเตะทีมน้องใหม่

เข้าเรื่องนักเตะกันซักที โดยจะขอเริ่มจาก 3 ทีมน้องใหม่ก่อน เพราะนอกจากเป็นทีมที่กุนซือไม่ได้เห็นฟอร์มเปรียบเทียบจากซีซันก่อน นักเตะเหล่านี้ยังมักราคาไม่สูง หากจับตัวที่ให้ผลลัพธ์ดีได้แบบเชฟฯ ยู ในซีซันที่แล้ว ก็ถือเป็นช่องทางกอบโกยผลลัพธ์อย่างงาม

ลีดส์ ยูไนเต็ด

ผู้รักษาประตู+กองหลัง

แนวรับของลีดส์ถือว่าเหนียวแน่นในศึกแชมป์เปียนชิพ แต่กับมาตรฐานของพรีเมียร์ลีก คงเป็นการบ้านหนักที่บิเอลซ่าต้องปรับให้ทีมยืนระยะเหนียวแน่นให้ได้กว่าเดิม

ตำแหน่งผู้รักษาประตู เป็นการแย่งชิงกันระหว่างมือ 1 เดิม “กิโก้ คาซิลญ่า” (4.5 ล้านปอนด์) กับผู้มาใหม่ดาวรุ่งซึ่งยึดตำแหน่งในตอนท้ายอย่าง “อิลลาน เมสลิแอร์” (4.5) โกล์ร่างโย่งชาวฝรั่งเศส โดยคาดว่ารายหลังจะได้ลงเฝ้าเสาก่อน

ในแผงหลัง “ลุค อายลิ่ง” (4.5) แบ็คฝั่งขวาที่เติมเกมรุกได้สนุก เป็นตัวที่น่าสนใจที่สุด อย่างไรก็ดี หากทีมขาดแคลนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ หรือบิเอลซ่าหันมาเล่นเซ็นเตอร์ 3 ตัว เขาอาจจะถูกหุบเข้ามาเล่นได้เช่นกัน เพราะทีมไม่สามารถเซ็น “เบน ไวท์” ถาวร และตัวมาใหม่อย่าง “โรบิน โคช” (4.5) ยังไม่แน่ใจว่าจะปรับตัวได้ทันทีมั้ย

แบ็คซ้าย “สจ๊วต ดัลลัส”​ (4.5) เป็นอีกตัวที่น่าสนใจ และน่าจะยึดตัวจริงยาวแน่นอน ส่วนใครที่ชอบกองหลัง ที่อาจจะขยับไปเล่นสูง “เอซยาน อลอยสกี้” (4.5) เป็นอีกตัวที่น่าสนใจ แต่ต้องเช็คให้ดีว่าเป็นตัวจริงของทีมหรือไม่

ส่วนตัว 4.0 ที่คนถามถึงบ่อยอย่าง “แบร์รี ดั๊กลาส” (4.0) ต้องเผื่อใจไว้หน่อย เพราะปกติเจ้าตัวเป็นแค่สำรอง อาจจะมีโอกาสลงเล่นมากขึ้น หากอายลิ่งจำเป็นต้องหุบไปเล่นเซ็นเตอร์

กองกลาง

ตัวรุกจอมเก๋า “ปาโบล เอร์นานเดซ” (6.0) ราคาสูงไปนิด ถึงฝีเท้าจะยังเยี่ยม แต่ด้วยอายุที่มาก โอกาสลงเล่นต่อเนื่องนานๆ อาจจะน้อยลง ตัวที่น่าสนใจเลยอาจเป็น “แจ็ค แฮร์ริสัน” (5.5) และ “เฮลเดอร์ คอสต้า” (5.5) ที่มีส่วนกับเกมรุกด้วยเช่นกัน

ตัวอื่น “มาเตอุสซ์ คลิช” (5.5) มิดฟิลด์โปแลนด์ ถือว่ามีสถิติที่น่าสนใจ ยิงในลีกซีซันที่แล้วไป 7 ลูก อาจเป็นตัวสอดแทรก ส่วน “คัลวิน ฟิลลิปส์” (5.0) ซึ่งติดทีมชาติอังกฤษไปล่าสุด เป็นตัวจริงให้ทีมแน่ แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางเล่นเกมรับ และยืนต่ำ

กองหน้า

จากเดิมที่มีแค่ “พาทริค แบมฟอร์ด” (5.5) ดาวซัลโวของทีม ที่เล่นในลักษณะ False 9 คนเดียว การเติม “โรดริโก้ โมเรโน่” (6.0) เข้ามา ถือว่าน่าสนใจมาก แถมราคาก็ไม่แพง

เวสต์บรอมวิช อัลเบียน

ผู้รักษาประตู+กองหลัง

“แซม จอห์นสตัน” (4.5) อดีตนักเตะแมนฯ ยู คือมือ 1 ถาวรของทีม ส่วนในเกมรับ ตัวที่ลงเล่นสม่ำเสมอ แถมมีสถิติทำประตูได้พอสมควรคือ “เซมี่ อาจายี่” (5.0) แต่ค่าตัวก็เปิดมาค่อนข้างสูง

เซ็นเตอร์อีกตัวที่ลงเล่นสม่ำเสมอคือ “ไคล์ บาร์ทลีย์” (4.5) ซึ่งเคยเล่นให้กับสวอนซี ในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว โดยมี “ดาร่า โอ’เชีย” (4.5) เป็นอีกตัวที่ได้เล่นโดยตลอดในระยะหลัง น่าจะยึดตัวจริงของทีมเช่นกัน

ส่วน “อาเหม็ด เอกาซี่” (4.5) ที่หลายคนจำได้จากตอนที่ WBA ยังอยู่ในพรีเมียร์ลีก การลงเล่นในซีซันที่แล้วไม่สม่ำเสมอนัก มีเป็นตัวจริงบ้าง แต่ก็นั่งสำรองของบาร์ทลีย์บ่อย

กองกลาง

แน่นอนว่าจอมทัพที่มีสถิติยอดเยี่ยมคือ “มาเธอุส เปไรร่า” (6.0) ซึ่งทีมซื้อขาดมาแล้ว ถึงราคาในแฟนตาซีจะสูงหน่อย แต่ก็น่าสนใจด้วยคุณภาพฝีเท้า เพียงแต่อาจจะต้องพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกนิดนึง

ตัวคุ้นเคยที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันคือ “แมตต์ ฟิลลิปส์” (5.5) เพราะแกมีธรรมชาติเล่นรุกมากกว่ารับ “เจค ลิเวอร์มอร์” (5.0) รายนี้ตัวจริงแน่นอน แต่จะหนักไปทางเล่นเกมรับซะมาก ส่วน “โรแม็ง ซอว์เยอร์”​ (5.0) มิดฟิลด์ทักษะน่าสนใจ แต่อาจจะต้องดูก่อนว่าเอาตัวรอดในพรีเมียร์ลีกได้แค่ไหน

กองหน้า

บิลิชใช้ระบบหน้าตัวเป้าตัวเดียว และสลับกันลงเล่นค่อนข้างเยอะ โดย “ชาร์ลี ออสติน” (5.5) และ “ฮัล ร็อบสัน-คานู” (5.5) จะได้โอกาสมากกว่า “เคเน็ธ โซฮอร์” (5.0) อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 คนมีสถิติการยิงประตูที่ไม่ถึงกับเปรี้ยงปร้างเท่าไหร่

ฟูแล่ม

ผู้รักษาประตู+กองหลัง

“มาเร็ค โรดัก” (4.5) ขึ้นมายึดมือ 1 ของทีมในระยะยาวได้เรียบร้อยแล้ว ส่วนแผงหลัง ตัวที่น่าเลือกที่สุดหนีไม่พ้น “โจ ไบรยัน” (5.0) แบ็คฟอร์มฮ็อต ที่นอกจากจะได้ลงเล่นตลอดแล้ว ยังมีทีเด็ดจากการผลิตแอสซิสต์มากมาย แถมยังเล่นเซ็ตพีซได้อีกต่างหาก

ตัวจริงอีก 2 รายหลัก คงเป็น “ทิม เรียม” (4.5) และ “เดนิส โอดอย” (ยังไม่มีราคา) ที่ทีมน่าจะต่อสัญญาเก็บเจ้าตัวไว้กับทีมต่อ ส่วนตัวเลือกอื่น “มิเกล เฮคเตอร์” (4.5) น่าจะดูดีที่สุด และมีโอกาสลงตัวจริงมากหน่อย

กองกลาง

ตัวที่น่าสนใจที่สุดเป็น “แอนโธนี น็อคฮาร์ท” (5.5) และ “อีวาน คาวาเลโร่” (5.5) ที่มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากกว่ามิดฟิลด์รายอื่น แถมด้วย “ทอม เครนนีย์” (5.5) ซึ่งแม้ตอนขึ้นพรีเมียร์ลีกครั้งก่อน จะเล่นไม่ออก แต่ก็ยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีม ยิงประตูได้เรื่อยๆ และอาจจะพร้อมพิสูจน์ตัวเองบนเวทีสูงสุดอีกหน

“จอช โอโนมาห์” (5.0) อดีตเด็กเก่าสเปอร์ ดูวูบวาบดี แต่ความสม่ำเสมอยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วน “แฮร์ริสัน รีด” (4.5) กับ “เควิน แม็คโดนัลด์” (5.0) ยังไม่ค่อยน่าจิ้ม เพราะตำแหน่งไม่แน่นอน และมีส่วนร่วมกับการผลิตแต้มน้อยกว่า

อีกตัวที่น่าพูดถึงคงเป็น “มาริโอ เลมิน่า” (4.5) อดีต “นิว ป็อกบา” ซึ่งฟูแล่มยืมตัวมา ไม่แน่ใจว่าฟอร์มการเล่นสมัยอยู่ยูเวนตุสจะกลับมามั้ย เพราะถึงเขาจะเป็นตัวรับ แต่ก็มีจังหวะบ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ และยิงไกลดีเหมือนกัน ราคาถูกขนาดนี้ ถ้ายึดตัวจริงได้ก็น่าจับตา

กองหน้า

ความจริงแล้วทั้ง “อเล็กซานด้า มิโตรวิช” (6.0) และ “บ็อบบี้ รีด” (5.5) ถูกใช้งานเป็นตัวจริงบ่อยครั้งทั้งคู่ แต่ด้วยส่วนต่างราคาแค่ 0.5 ทำให้มิโตรวิชน่าเลือกกว่ามาก ด้วยตำแหน่งการยืนเป็นหน้าเป้า และสถิติทำประตูที่ไว้ใจได้ ซีซันที่ผ่านมาก็ยิงระเบิด 26 ประตู

นักเตะราคาต่ำสุด

อย่างที่เราพูดถึงกันไปใน EP ที่แล้ว ว่านักเตะราคาต่ำสุดนั้นเป็นที่หมายปอง เพราะถึงบางคนจะเลือกแผน “ทิ้งบางตัว” แต่ก็อยากเลือกตัวที่มีโอกาสได้ลงมากที่สุด เผื่อจะประหยัดงบ และมีแต้มติดมือด้วย เราเลยจะลองแนะนำนักเตะประเภทนี้ที่น่าสนใจดูซักหน่อย

ผู้รักษาประตู

ออร์ยาน นีแลนด์ (วิลล่า / 4.0 ล้านปอนด์)

ผู้รักษาประตูราคาต่ำสุด คงมีแค่เพียงนีแลนด์เท่านั้นที่เลือกแล้วมีลุ้นลงเล่น เพราะ “ทอม ฮีตัน” ยังเจ็บอยู่ และข่าวที่ว่าวิลล่าจะเสริมโกล์เข้ามาเพิ่ม ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่

ข้อควรระวังคือฮีตันกำลังจะกลับมาฟิตในเร็วๆ นี้ และวิลล่า Blank ในนัดแรก ดังนั้นโอกาสใช้ประโยชน์จากนีแลนด์จะน้อยไปอีก และเมื่อเลือกเข้ามาแล้ว คงขยับเปลี่ยนตัวออกได้ยาก ด้วยราคาที่ต่ำสุดแบบนี้

กองหลัง

ไทริค มิทเชลล์ (พาเลซ / 4.0 ล้านปอนด์)

แบ็คซ้ายดาวรุ่ง ได้ลงเล่นปลายซีซันที่ผ่านมาหลังจาก “พาทริค ฟาน อานโฮลท์” เจ็บไป ซึ่งถึงตอนนี้แบ็คจอมบุกชาวดัทช์ ก็ยังไม่หายดี และมีแนวโน้มเหมือนกันที่มิทเชลล์จะได้ลงตัวจริงไปก่อน ยิ่งดูจากการอุ่นเครื่องของพาเลซ 2-3 นัดหลัง

จุดที่ต้องลุ้น คือผลงานปลายซีซันที่แล้วที่ได้โอกาส ยังไม่ถึงกับดีนัก และมี “ไจโร รีเดอวัลด์” สามารถขยับมาเล่นแบ็คซ้ายจำเป็น ได้อีกหนึ่งทางเลือก

ส่วน “นาธาน เฟอร์กูสัน” แบ็คดาวรุ่งราคา 4.0 ที่ทีมเสริมเข้ามา ตอนนี้ยังคงบาดเจ็บเข่าอยู่ ยังไม่มีการอัปเดตว่าจะพร้อมลงเล่นนัดแรกหรือไม่

เบน จอห์นสัน (เวสต์แฮม / 4.0 ล้านปอนด์)

แบ็คขวาดาวรุ่งทำผลงานได้ดีในช่วงปลายซีซัน หลังแบ็คซีเนียร์พากันเจ็บ ช่วงต้นซีซันใหม่นี้ ซาบาเลต้า และเอ็นกาเกียไม่อยู่กับทีมแล้ว ดังนั้นในทีมเหลือแค่ “ไรอัน เฟรเดอริกส์” รายเดียวเป็นก้างขวางคออยู่

ดูจากเกมอุ่นเครื่อง 3 นัดที่ผ่านมาของทีม มอยส์เลือกใช้แบ็คขวาสลับกันลงเล่น น่าจะต้องเดาใจกันต่อ ว่าสุดท้ายแล้วเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรก ใครจะได้รับเลือกก่อน

ตัวเลือกอื่น : แบร์รี ดักลาส (ลีดส์), นีโค วิลเลียมส์ (ลิเวอร์พูล), จาร์ราด แบรนท์เวท (เอฟเวอร์ตัน), แบนาร์โด้ (ไบรท์ตัน)

กองกลาง

เดล สตีเฟ่นส์​ (ไบรท์ตัน / 4.5 ล้านปอนด์)

มิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอล และตัดเกม ลงเล่นเป็นแกนหลักของทีมในหลายนัดซีซันที่แล้ว ข้อเสียแน่นอนคือใบเหลืองที่รับไปถึง 8 ใบ และการมีส่วนร่วมกับการทำประตูน้อยนิด

นอกเหนือจากสตีเฟ่นส์แล้ว “อีฟ บิสซูม่า” เป็นอีกตัวราคา 4.5 ของไบรท์ตันที่น่าจับตามอง เพราะแม้จะยังเล่นโฉ่งฉ่าง แต่ก็ดูจะมีส่วนร่วมกับเกมรุกมากขึ้น อาจจะได้ลงตัวจริงต่อเนื่องมากขึ้น ยิ่ง “อารอน มอย” ย้ายออกไปแล้ว

แอนโธนี กอร์ดอน (เอฟเวอร์ตัน / 4.5 ล้านปอนด์)

จากที่ดูการใช้งานของอันเชล็อตติมาในช่วงท้ายซีซันที่แล้ว กอร์ดอนดูจะเป็นที่ชื่นชอบพอสมควร แถมยังกล้าเล่น กล้ามีส่วนร่วมกับเกมรุก ซึ่งเป็นที่มาของการมี 1 แอสซิสต์บนเวทีพรีเมียร์ลีก

อย่างไรก็ดี คงต้องดูสถานการณ์การเสริมทัพของเอฟเวอร์ตัน ที่ดูจะเติมกลางโหดๆ เข้ามาเพียบ หากตัวเลือกมีเยอะ เจ้าหนูกอร์ดอนที่ชอบถ่างไปเล่นด้านข้าง ก็จะมีโอกาสลงเล่นน้อยลงไปด้วย

ตัวเลือกอื่น : โอริโอล โรเมอู (เซาธ์แธมป์ตัน), เจมส์ แม็คคาร์ธี (พาเลซ), เคอร์ติส โจนส์ (ลิเวอร์พูล), มาริโอ เลมิน่า (ฟูแล่ม)

กองหน้า

คีแนน เดวิส (วิลล่า / 4.5 ล้านปอนด์)

ในแดนหน้า ราคาต่ำสุด 4.5 มีแค่ 4 ราย และเดวิสก็ดูมีลุ้นได้ลงตัวจริงมากที่สุด เพราะ “เวสลีย์” ก็ยังไม่หายเจ็บยาว ส่วน “เอ็มวาน่า สมัตต้า” ก็ดูจะยังแผลงฤทธิ์ไม่ออก

ข้อเสียสำคัญคือ แม้เดวิสเป็นกองหน้าตัวชนที่ดี แต่การจบสกอร์ไม่เฉียบคมเอาซะเลย คงต้องดูว่าซีซันใหม่เมื่อได้โอกาสแล้ว เขาจะสามารถผลิตสกอร์เพื่อยึดตัวจริงได้มั้ย

ตัวเลือกอื่น (รวม 5.0 ล้านปอนด์ด้วย) : เคนเน็ธ โซฮอร์ (เวสต์บรอม), ไมเคิล โอบาเฟมี่ (เซาธ์แธมป์ตัน), เรียน บริวสเตอร์ (ลิเวอร์พูล – ถ้าถูกยืมตัวไปทีมอื่นในลีก)

นักเตะที่คุณอาจมองข้าม

ผู้รักษาประตู

จอร์แดน พิคฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน / 5.0 ล้านปอนด์)

ถึงช่วงหลัง ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษจะฟอร์มไม่ค่อยคงเส้นคงวาเท่าไหร่ แต่ถ้าดูจากความพยายามที่จะปรับเกมรับให้แน่นขึ้นของอันเชล็อตติ บวกกับโปรแกรมช่วง 10 นัดแรกที่ไม่ถึงกับหนักเกินไป พิคฟอร์ดถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ด้วยราคาที่ครึ่งๆ กลางๆ (คนเอางบไปลงกับตำแหน่งอื่น) ทำให้พิคฟอร์ดถูกมองข้ามไปพอสมควร มีคนเลือกเพียง 3.5% เท่านั้น โดยกุนซือหลายท่าน น่าจะหันไปเลือกตัวราคา 4.5 มากกว่า

กองหลัง

เบน ไวท์ (ไบรท์ตัน / 4.5 ล้านปอนด์)

ช่วงแรกมีการคาดการณ์ว่าไวท์จะย้ายออกจากไบรท์ตันแน่ แต่กลายเป็นพ็อตเตอร์ เลือกเก็บเจ้าตัวไว้ หลังปฏิเสธเงินก้อนใหญ่ และมอบสัญญาใหม่ให้หลังจากนั้น ทำให้น่าสนใจว่าไวท์อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมมากขึ้น

จุดเด่นของไวท์คือเล่นได้นิ่งเกินอายุ ถึงจะต้องพิสูจน์ตัวเองบนเวทีพรีเมียร์ลีกอีกเยอะ แต่เขาก็แสดงให้เห็นพัฒนาการที่ชัดเจนในซีซันที่ผ่านมา ซึ่งลงเล่นให้ลีดส์ครบทุกนัดในเกมลีก

เอริค ดายเยอร์ (สเปอร์ / 5.0 ล้านปอนด์)

หลังจากพ้นโทษแบนยาวช่วงปลายซีซัน มูรินโญ่ก็ดูจะไว้ใจขยับดายเยอร์ลงไปเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริง แม้จะต้องดูกันอีกที ว่าสุดท้ายคู่เซ็นเตอร์ตัวจริงจะเป็นใคร โดยมี “โทบี้ อัลเดอร์ไวเรล” และ “ดาวินซอน ซานเชซ” เป็นอีก 2 แคนดิเดต

ความไม่คล่องตัวของเขา ดูจะเป็นปัญหาน้อยลงในการเล่นเกมรับ และต้องไม่ลืมว่าเขามีทีเด็ดขึ้นไปเล่นลูกเซ็ตพีซที่ดีเช่นกัน ถ้าได้ลงตัวจริงยาวๆ ก็น่าสนใจ

ร็อบ โฮลดิ้ง (อาร์เซน่อล / 4.5 ล้านปอนด์)

ถ้าไม่นับโชคร้ายบาดเจ็บบ่อยครั้ง โฮลดิ้งถือเป็นกองหลังที่เหนียวแน่นใช้ได้ รูปร่างสูงใหญ่แต่ก็มีความเร็ว และการยืนระบบเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 ตัว ก็ดูจะเหมาะสมกับสไตล์การเล่นของเขา

สถานการณ์การลงตัวจริงของโฮลดิ้ง คงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เพราะอาร์เซน่อลก็เพิ่งเสริมกาเบรียลมาอีกคน บวกกับพวกตัวที่ยังเจ็บอยู่อย่างมุสตาฟี หรือปาโบล มารี นอกจากนั้น การย้ายทีมหรือไม่ของเมดแลนด์-ไนลส์ อาจเป็นผลกระทบเช่นกัน หากเทียร์นีย์ต้องขยับไปเล่นวิงแบ็ค สล็อตเซ็นเตอร์ก็จะว่างมากขึ้น

นอกจากนั้น ตัวโฮลดิ้งเองก็มีข่าวย้ายทีมเช่นกัน ซึ่งต้องดูกันอีกทีว่าหากย้ายไปแล้ว แนวรับทีมใหม่จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ว่าน่าเลือกมั้ย

กองกลาง

นาธาน เร้ดมอนด์ (เซาธ์แธมป์ตัน / 6.5 ล้านปอนด์)

มิดฟิลด์ร่างเล็กจอมขยัน ราคาประมาณนี้มาเกือบทุกปี และแกก็ทำผลงานได้ไม่เลว เพราะหากไม่ได้รับบาดเจ็บ เร้ดมอนด์มักเป็นตัวเลือกแรกเสมอ ไม่ว่าทีมจะเล่นในระบบหน้าเป้าตัวเดียว หรือหน้า 2 คน

ท้ายซีซันที่ผ่านมาเป็นช่วงฟอร์มสดของเร้ดมอนด์ แต่แค่อาจจะไม่มีแต้มแฟนตาซีมากนัก เพราะแกมักจะเป็นคนเล่นในจังหวะก่อนหน้าจะมีการแอสซิสต์ หรือจบสกอร์ ราคา 6.5 ถือว่าไม่ถูก แต่ก็ไม่แพงจนเกินไป หากยังรักษาฟอร์มไว้ได้

นาบี เกอิต้า (ลิเวอร์พูล / 5.5 ล้านปอนด์)

มิดฟิลด์ตัวลุย และชอบเล่นระหว่างไลน์ เป็นมิติกองกลางที่แตกต่างของลิเวอร์พูล เพียงแต่เจ้าตัวเจ็บบ่อยไปหน่อย เลยยังไม่ได้แจ้งเกิดเต็มตัวเสียที ที่ดูทรงดี คือช่วงหลังโควิด-19 และตอนอุ่นเครื่องปรีซีซัน ซึ่งเจ้าตัวดูฟิตและเฉียบคมขึ้น

เรื่องการันตีตัวจริงยังเป็นเครื่องหมายคำถาม เพราะฟอร์มนัดคอมมูนิตี้ ชิลด์ ก็เล่นไม่ค่อยออก แต่ถ้าคลอปป์ตัดสินใจเลือกใช้งาน คาดว่าจะเป็นมิดฟิลด์ที่มีลุ้นทำแต้มมากที่สุด หากไม่นับ 2 ตัวหลักอย่างซาล่าห์ กับมาเน่

ดาเนียล โพเดนซ์ (วูล์ฟ / 5.5 ล้านปอนด์)

มิดฟิลด์จอมพลิ้วสัญชาติโปรตุเกส ย้ายมาร่วมทีมวูล์ฟตอน ม.ค. และได้เริ่มลงเล่นมากขึ้นช่วงปลายซีซัน โดยนอกจากจะลากเลื้อยได้สนุกสนานแล้ว ยังเริ่มปรับจังหวะให้เป็นตัวอันตรายในพิ้นที่สุดท้ายได้ด้วย

จุดที่สุ่มเสี่ยงของโพเดนซ์ หนีไม่พ้นการต้องแย่งชิงตำแหน่งกับ “อดาม่า ตราโอเร่”, “ดิโอโก้ โจต้า” และ “เปโดร เนโต้” แต่คาดว่าถ้าเขาทำผลงานได้เหมือนปลายซีซันที่แล้ว นูโน่อาจจะใช้งานเขาบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ

กองหน้า

เช อดัมส์ (เซาธ์แธมป์ตัน / 6.0 ล้านปอนด์)

หากมองไปที่ศูนย์หน้าของ “นักบุญ” ทุกคนอาจจะคิดถึง “แดนนี่ อิงส์” แต่ถ้าดูฟอร์มโดยรวมท้ายซีซันที่ผ่านมาแล้ว นับตั้งแต่อดัมส์ปลดล็อคยิงประตูแรกในลีกใส่แมนฯ ซิตี้ เขาก็โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมต่อเนื่องไม่แพ้กัน

คาดว่าอดัมส์จะสตาร์ทเป็นตัวจริงก่อนเชน ลอง และโอบาเฟมี่ ซึ่งถ้าเขาเริ่มได้ดุดันเหมือนเดิม และมีประตูมาฝากบ้าง โอกาสยืนตัวจริงต่อเนื่องมีแน่นอน เพราะเขาก็ดูเป็นตัวชน ที่เหมาะกับการเพิ่มอิสระให้อิงส์มากกว่าอีก 2 หน่อ

คริส วู้ด (เบิร์นลีย์ / 6.5 ล้านปอนด์)

จริงๆ ศูนย์​หน้าร่างใหญ่ชาวนิวซีแลนด์ เป็นนักเตะอีกรายที่กุนซือแฟนตาซีนิยม เพราะแกก็ยิงต่อซีซัน ถึงหลัก 10 ประตูมา 3 ปีติด เพียงแต่ซีซันนี้เริ่มต้นด้วย Blank ทำให้หลายคนมองข้าม แถมกุนซือหลายท่าน ก็หันไปโฟกัสสแปร์นักเตะจาก 2 ทีมแมนเชสเตอร์มากกว่าด้วย

มองโปรแกรมโดยภาพรวมของเบิร์นลีย์ ถือว่าพวกเขาไม่เจอของหนักจนเกินไป การเจอกับทีมใหญ่ช่วงแรก ก็มักเป็นการเล่นในบ้าน ซึ่งปกติพวกเขาทำผลงานได้ดี วู้ดเลยยังเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม และน่าจะเป็นตัวแหวกที่น่าลุ้น ในช่วงต้นซีซัน

โอ้โห! ทำเป็นเล่นไป EP นี้ถือว่าเนื้อหายาวที่สุด ตั้งแต่เคยทำ “มิตรรัก นักแฟนตาซี” มาเลย แต่ก็หวังว่าจะครบถ้วนวัตถุประสงค์สำคัญ ที่อยากให้กุนซือทั้งหลาย ได้มีทางเลือกนักเตะมากขึ้น เพราะซีซันนี้จัดตัวไม่ง่ายเลย

EP หน้า เราจะมาโฟกัสกันที่ Gameweek 1 ที่จะเริ่มเตะกัน 12 ก.ย. แล้ว ส่วนใครยังไม่ได้จอยลีก “The.Macho League” ขอให้รีบจอยด่วนเลย ของรางวัลมากมายรออยู่ โค้ดจอยย้ำกันอีกที >> reyrkp

Picture : Fantasy Premier League, Football FanCast, Sports Mole, Wikipedia, Glasgow Live, Goal.com, The Boot Room, Leeds Live, TEAMtalk, The Independent, Birmingham Live, Football League World, HITC, Evening Standard, NewsChain, ESPN, 90Min, Ninety Minutes Online, Crystal Palace Football Club, West Ham United, Daily Mail, Liverpool Echo, Football365, Thisisfutbol, Metro, ClubCall, This Is Anfield, Express & Star, Southampton FC