เตะกันถี่ยิบแทบไม่เว้นแต่ละวันเลยนะครับ สำหรับศึกพรีเมียร์ลีก แน่นอนว่านอกจากตามดูกันจนดึกดื่นติดต่อกัน ชาวแฟนตาซียังปวดหัวต้องปรับเปลี่ยน และจัดทีมกับแบบนัดชนนัด มีเวลาเว้นว่างจากนัดสุดท้ายของ Gameweek ก่อน กับนัดแรกของ Gameweek ปัจจุบันแค่ 1-2 วันเท่านั้น

(Source : 90Min)
เข้าสู่โค้งสุดท้ายที่เหลือแค่ 5 นัด Gameweek 34+ ถือว่ามีความสำคัญต่อหลายต่อหลายทีม ทั้งอันดับในฟุตบอลจริงของพรีเมียร์ลีก และอันดับของเหล่ากุนซือแฟนตาซี เพราะการฉีกทำแต้มนำหรือตาม อาจตัดสินผลของซีซัน ซึ่งแน่นอนว่า “ตัวช่วย” มีความสำคัญมาก
ดังนั้น วันนี้เราจะพูดถึงการใช้ตัวช่วยกันอีกซักหน สำหรับใครที่ยังดองตัวช่วยไว้จนถึงช่วงนี้ นอกเหนือจากนั้น การวิเคราะห์ทีเด็ด และการจัดทีมให้ชม รวมถึงการสรุปผล The.Macho League เดือน มิ.ย. ก็มีให้ติดตามได้รัวยิกใน EP นี้ เช่นกัน
สรุปผลประกอบการ

(Source : Fantasy Premier League)
คะแนน Gameweek 33+ : 70 คะแนน*
คะแนนรวม : 1,920 คะแนน
อันดับรวม : 184,618
อันดับชาวไทย : 1,504
อันดับ The.Macho League : 132
(*หมายเหตุ : อันดับและคะแนนยังไม่จบ GW นับคะแนนถึงจบคู่คืนวันอาทิตย์ 5 ก.ค.)
ผลประกอบการยังคงไม่สิ้นสุด Gameweek เช่นเคย เพราะยังมีคู่มันเดย์ ไนท์ ระหว่างสเปอร์กับเอฟเวอร์ตัน ถึงทีมผมจะไม่มีตัวให้ลุ้นคะแนนแล้ว แต่แน่นอนว่าคะแนนของคนอื่น จะทำให้อันดับของเราเปลี่ยนแน่นอน
ทีมในวีคที่ผ่านมา ถือว่าทำคะแนนได้ยอดเยี่ยม แต่เรื่องเลือกกัปตันยังพลาดเช่นเคย เพราะการแหวกจิ้มแรชฟอร์ด ให้ผลลัพธ์ต่างจากตัวยอดนิยมอย่างบรูโน่ เกินครึ่งทีเดียว

(Source : Irish Mirror)
ตัวอื่นก็ทำแต้มได้ดีทีเดียว เทรนท์กับฟาน ไดค์ เก็บคลีนชีต, มาเน่ทำประตูได้ และตัวเซอร์ไพรส์อย่างเชลวีย์ เก็บได้ถึง 10 คะแนน แอบเสียดายหน่อยก็ตรงตัวสำรอง ที่ดันมาฮ็อตพร้อมกัน ซาก้ากับอีแกน ทั้งคู่ทำได้ถึง 10 คะแนน อดไป!
อันดับโดยรวมดีขึ้นกว่าเดิม เป็นแนวโน้มที่ดี เพราะไม่เหลือ Wildcard อยู่แล้ว ก็ต้องลุยกันต่อด้วยทีมที่มีนี่แหละ
Gameweek 34+ : วิเคราะห์ทีเด็ด
ผู้รักษาประตู
เบน ฟอสเตอร์ (วัตฟอร์ด / 4.9 ล้านปอนด์)

ฟอร์มของ “แตนอาละวาด” ยังไม่กระเตื้องขึ้นหลังกลับมาจากเบรกโควิด-19 แต่โปรแกรม 3 นัดถัดจากนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ลูกทีมของเพียร์สัน จะดิ้นรนเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด เพราะพวกเขาเจอกับ นอริช, นิวคาสเซิล และเวสต์แฮม ก่อน 2 นัดสุดท้าย ต้องเจอของจุก อย่างแมนฯ ซิตี้ และอาร์เซน่อล
ฟอสเตอร์ถือว่าฟอร์มเหนียวแน่นมาตลอด ถึงจะมีพลาดบ้าง แต่ฟอร์มส่วนตัวโดยรวมถือว่าดี แกเก็บไปได้แล้ว 9 คลีนชีต ถึงตอนหลังจะไม่ค่อยมีให้เห็น แต่จากจำนวนเซฟรวมเกินหลัก 100 ครั้งไปแล้ว ทำให้พอจะคาดหวังได้ โดยเฉพาะการเจอกับนอริชที่ร่อแร่เต็มทน
กองหลัง
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล / 6.5 ล้านปอนด์)

ถ้านับว่าแดนหลัง ใครมีโอกาสโดนโรเตชั่นน้อยสุดของ “หงส์แดง” ก็ต้องตอบว่าเป็นเวอร์จิลนี่แหละ เพราะนอกจากทีมยังคงเน้นเก็บคลีนชีตเพื่อดันให้อลิสซง ลุ้นถุงมือทองคำ ตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟยังมีตัวเจ็บเยอะ พี่แกเลยไม่น่าจะได้พักจนจบซีซัน
โปรแกรมของลิเวอร์พูลมียากง่ายผสมกัน ข้อดีคือพวกเขาพยายามกระตุ้นตัวเองให้จริงจังต่อไป หลังโดนแมนฯ ซิตี้ ถล่มมา การไปเยือนไบรท์ตัน ก่อนจะเปิดบ้านรับเบิร์นลีย์ น่าจะเป็น 2 นัดที่เวอร์จิลมีลุ้นคลีนชีตต่อเนื่อง โดยแกถือเป็นนักเตะที่เก็บคลีนชีตได้สูงสุดในลีก 15 นัดเข้าให้แล้ว
แซร์จ โอริเย่ (สเปอร์ / 5.0 ล้านปอนด์)

ยังไม่ทราบผลเกมกับเอฟเวอร์ตัน ของ “ไก่เดือยทอง” แต่คาดว่าพวกเขาน่าจะปรับเกมรับได้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น และกับโปรแกรมที่เหลือ ที่ไม่หนักจนเกินไป แบ็คขวาที่ยึดตัวจริงมาตลอดอย่างโอริเย่ ก็น่าหยิบจับเข้าทีม
จุดเด่นสำคัญ แน่นอนว่าอยู่ที่การขึ้นเกมรุกอยู่ตลอด จนทำไปแล้ว 7 แอสซิสต์ แต่ข้อดีถัดมา คือซีซันนี้ แกสลัดอาการเจ็บบ่อยไปได้เป็นปลิดทิ้ง ลงเล่นเป็นตัวหลักให้ทีมต่อเนื่อง กับการไปเยือนบอร์นมัธ ที่ฟอร์มยังทรุด น่าจะมีลุ้นทั้งคลีนชีต และการมีส่วนร่วมในเกมรุก
กองกลาง
อับดุลลาย ดูกูเร่ (วัตฟอร์ด / 5.5 ล้านปอนด์)

จากโปรแกรมที่ว่าไปตั้งแต่แนะนำฟอสเตอร์ เลยอยากจะแนะนำกองกลางวัตฟอร์ดซักตัว ซึ่งกวาดสายตาลองดู ก็ไม่มีใครดูมีลุ้นเท่าดูกูเร่อีกแล้ว เพราะตัวน่าลุ้นอีกรายอย่างซาร์ ก็ดูฟอร์มวูบวาบหดหายไปพร้อมกับการเบรกโควิด-19 จนทีมต้องมาลุ้นหนีตกชั้นอย่างที่เห็น
จุดเด่นของดูกูเร่ยังคงเหมือนเดิม แกเติมมามีส่วนร่วมกับเกมรุกบ่อยครั้ง แถมเป็นตัวที่สอดเข้ากรอบเขตโทษ เพื่อเก็บตกลุ้นทำประตูอยู่ตลอด เพียงแต่ระยะหลังมันไม่แม่นยำเท่าไหร่ กับการเปิดบ้านรับมือนอริช ที่เกมรับย่ำแย่ ถ้าไม่ชนะนัดนี้ จะไปชนะนัดไหนกันล่ะคร้าบ
มิคาเอล อันโตนิโอ (เวสต์แฮม / 6.9 ล้านปอนด์)

หลายคนอาจจะเริ่มเหลียวไปมองซูเซ็ค กองกลางราคาเพียง 4.8 ล้านปอนด์ ที่ยิงประตูได้ 2 นัดติด แต่ต้องไม่ลืมนักเตะจอมแกร่งอย่างอันโตนิโอ เพราะแม้ราคาจะแพงไปหน่อย แต่แกก็ยิงติดต่อกัน และถูกใช้งานเป็นกองหน้ามาโดยตลอด 3-4 นัดหลัง
ปัญหาสำคัญของอันโตนิโอ คืออาการบาดเจ็บ ที่ทำให้เขาพลาดเกมส่วนใหญ่ในครึ่งซีซันแรก แต่พอกลับมาเล่นได้ต่อเนื่อง พละกำลังของเขาก็มีประโยชน์กับทีมเสมอ กับโปรแกรมหนีตาย 5 นัดที่เหลือ ที่มีหนักแค่เยือนแมนฯ ยู นัดเดียว การเลือกเขาไว้ยาวๆ ถือว่าน่าวัดใจ
เควิน เด บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้ / 10.8 ล้านปอนด์)

เสียฟอร์มไปเล็กน้อย สำหรับ “เรือใบสีฟ้า” หลังโรเตชั่นทีม แล้วบุกไปแพ้พลิกล็อคต่อเซาธ์แธมป์ตัน โดยหนึ่งในคนที่โดนพักไปคือเด บรอยน์ ซึ่งกรำศึกมาหนัก จึงค่อนข้างแน่นอนว่าเกมที่จะกลับมาเปิดบ้านเจอนิวคาสเซิล เป๊บจะกลับมาเลือกใช้จอมทัพรายนี้อีกครั้ง
แน่นอนว่าฟอร์มที่โดดเด่นขึ้นมาของโฟเด้น ก็น่าสนใจ เพราะนัดแพ้เซาธ์แธมป์ตัน กองกลางดาวรุ่งชาวผู้ดี ก็ได้พักเช่นกัน แต่คิดว่าทุกท่านมีเด บรอยน์ อยู่แล้ว เลยอยากจะแนะนำว่าให้เน้นกับพี่เขาได้เลย กลับมาเอติฮัด น่าจะมีสกอร์มาฝาก
กองหน้า
เมสัน กรีนวู้ด (แมนฯ ยู / 4.5 ล้านปอนด์)

สุ่มเสียงจะโดนโรเตชั่นอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงขนาดนี้ และโชลชามักจะถอดออกมาไม่ให้เล่นเต็มเกม เลยชื่อว่าไอ้หนูกรีนวู้ดมีลุ้นลงตัวจริงสร้างผลงานเยี่ยมต่อ ในนัดเยือนวิลล่า แถมถัดจากนั้น โปรแกรมของ “ปีศาจแดง” ก็ถือว่าไม่หนัก หากยิงได้ต่อเนื่อง คงไม่มีใครกล้าดร็อป
ความมั่นใจเกินวัย เป็นอาวุธสำคัญของกรีนวู้ด ที่สามารถทำประตูได้เฉียบขาดทั้ง 2 เท้า แถมการหาพื้นที่ว่าง และประสานงานกับรุ่นพี่รายล้อมตัว ก็ทำได้ดี นาทีนี้มีติดทีมไว้ก่อน นอกจากประหยัดงบ ยังได้ลุ้นแต้มต่อเนื่อง
โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล / 9.4 ล้านปอนด์)

ขอปิดท้ายด้วยการแนะนำของแปลกหน่อย ที่ว่าแปลกเพราะแม้การเล่นร่วมกับเพื่อนๆ ของฟิร์มิโน่ จะไม่มีใครตั้งข้อสงสัย แต่เรื่องยิงประตู ซีซันนี้แกเงียบไปหน่อย โดยเฉพาะในช่วงหลัง ที่ไม่ยิงในพรีเมียร์ลีกมาแล้วถึง 10 นัด
ที่หันมาแนะนำ เพราะบ๊อบบี้มีจุดเด่นในการทำประตูนัดเยือน (ซีซันนี้ยังยิงในแอนฟิลด์ เฉพาะในพรีเมียร์ลีก ไม่ได้เลย) ยิ่งการที่เจ้าตัวได้พักในนัดที่ผ่านมา แล้วเห็นชัดเจนว่าเกมของทีมแชมป์ไม่ไหลลื่น ดังนั้นเชื่อเลยว่าแกได้สตาร์ท และมีส่วนร่วมในการทำประตู แต่จะมีแต้มมาฝากมั้ยนั้น อันนี้ต้องวัดดวงเอา
จัดทีม วัดใจ
หลัง Gameweek 33+ ทีมของผมไม่ใช้สิทธิ์ Free Transfer เพื่อกะมาเปลี่ยนกันเน้นๆ 2 ตัวในนัดนี้ ก็ต้องไปเล็งกันก่อน ว่าที่มีอยู่ จะขยับปรับเปลี่ยนไปทางไหนได้บ้าง

(Source : Fantasy Premier League)
ตัวช่วยที่ผมมีอยู่คือ Bench Boost และ Triple Captain ซึ่งถือว่าน่าใช้กับ Gameweek 34+ ด้วยกันทั้งคู่ เพราะทีมที่มีอยู่ไม่ขี้เหร่ น่าจะลุ้นแต้มได้หมด 15 ตัว หรือจะเลือกของแรงจัด x3 ไปกับเด บรอยน์ ก็ดูน่าสนใจ
ทางเลือกการเปลี่ยนตัว ถือว่าหนักใจอยู่ เพราะตัวที่เล็งเอาออกอย่าง อีแกน, เชลวีย์ หรือซาก้า ทำแต้มหรูหรา 10 คะแนนเท่ากันเด๊ะ เหมือนรถเสียเจอช่างแล้วอาการหายขึ้นมาเชียว จึงอาจจะต้องมองการปรับตัวอื่นไว้ด้วย

(Source : Trends365)
ถ้าไม่นับที่ทำแต้มนัดที่ผ่านมาได้ดี ทั้ง 3 คนที่ว่ามา มีโปรแกรมหนักไปหน่อย โดยหากเลือกหมุนเปลี่ยน 2 ตัว ก็จะได้ตัวดีๆ เข้ามาแทนในตำแหน่งกองหลัง-กองกลาง เช่น หางบมาเติม แล้วเปลี่ยนอีแกน เป็นอัซปลิกัวเอต้า หรือเปลียนเชลวีย์ เป็นวิลเลียน/พูลิซิซ เป็นต้น
การหมุนงบ ย่อมหมายถึงการปรับเอาตัวราคาสูงออก คัลเวิร์ธ-เลวิน ปรับเป็นกรีนวู้ดถือว่าน่าสนใจ แต่ติดตรงที่มีแมนฯ ยู ครบ 3 รายแล้ว ถ้าอยากได้กรีนวู้ด อาจต้องยอมปรับแรชฟอร์ดออกแทน แล้วเอางบก้อนโต ไปลงกับกองหลัง หรือกองกลาง ที่ว่าไป
(Source : Fox Sports)
เท่าที่ลองมอง หากจะใส่ตัวราคาหนักเข้ามาเพิ่ม อาจจะเลือกไปที่กองกลางมากกว่า เพราะแนวรับมี 2 นักเตะลิเวอร์พูล และแม็คไกวร์ อยู่แล้ว การไปเติมของแพงเข้าไปอีก จะฝากความหวังกับแนวรับจนเกินไป ลุ้นจากมิดฟิลด์ ดูจะมีลุ้นกว่า
เหลือเวลาให้ตัดสินใจไม่มาก แต่ก็ต้องขบคิดให้ดีอีกที ทั้งการเปลี่ยนตัว และการเลือกว่าจะใช้ตัวช่วยมั้ย ดังนั้นติดตามทีมไฟนอลของผมได้ที่ช่องทางติดต่อสื่อสารเดิมได้เลย
กลุ่มแชทใน LINE OpenChat >> คลิกที่นี่ <<
กลุ่มเฟซบุ๊ค >> คลิกที่นี่ <<
การใช้ตัวช่วย
เสริมกันอีกที กับการใช้ “Chips” หรือ “ตัวช่วย” ซึ่งคาดว่าหลายคนดองเก็บไว้ และเริ่มออกลูกลังเลว่าจะใช้มันเมื่อไหร่ดี เพราะแมทช์แข่งขันก็เหลือไม่มากแล้ว
ส่วนตัวแนะนำว่า Wildcard เป็นตัวกำหนดสำคัญ หากยังไม่ได้ใช้งาน ควรวาง Gameweek ที่ใช้ให้แน่นอน ถ้าแน่ใจแล้วก็ใช้ได้เลย แล้ววีคถัดไปก็เล็งใช้ Bench Boost ต่อ จากการวาง 15 ตัวที่พร้อมรบจาก Wildcard

(Source : Fantasy Premier League)
เทคนิคการใช้ Bench Boost ไม่มีอะไรมาก แต่พยายามเน้นว่านักเตะที่เรามี 15 คน มีโปรแกรมที่เอื้อที่สุด เท่าที่จะมากได้ เช่น Gameweek 34+ แมนฯ ซิตี้เปิดบ้านเจอนิวคาสเซิล, ลิเวอร์พูลเยือนไบรท์ตัน, เชลซีเยือนพาเลซ, แมนฯ ยูเยือนวิลล่า ทีมใหญ่แต่ละทีมเจอโปรแกรมที่โอเค ก็ดูเป็นวีคที่น่ารักน่าลุ้น (ลองพิจารณาดูเองอีกทีเนอะ)
Triple Captain ขึ้นอยู่กับความมั่นใจส่วนบุคคล กับโปรแกรมที่นักเตะตัวทำแต้มหลักจะต้องเจอในนัดนั้น เพราะมันจะไม่มี Double Gameweek แล้ว ดังนั้นมั่นใจนัดไหน ก็ใส่เลย เช่น เห็นเด บรอยน์ เล่นในบ้านเจอนิวคาสเซิล น่าระเบิดฟอร์ม เป็นต้น

(Source : PSG Talk)
ปิดท้ายที่ Free Hit นอกจากจะต้องดูโปรแกรม และวางแผนร่วมกับตัวช่วยอื่น การเมียงมองดูเพื่อนร่วมลีกย่อยก็ถือว่าสำคัญ ถ้าสามารถดึงเก็บไว้ใช้ใน Gameweek ท้ายๆ แล้วได้เปรียบ ก็สามารถเก็บไว้เป็นหมัดเด็ดได้ ประมาณว่าคุณมีอะไร ผมเปลี่ยนตามให้มีได้หมด
The.Macho League
หลังกลับมาเตะให้หายเหงา เดือน มิ.ย. เป็นการห้ำหั่นชิงแชมป์เดือนที่สนุกเร้าใจทีเดียว ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น “%” ทีมชื่อสั้นๆ จำง่าย ซึ่งเคยเกือบซิวแชมป์ The.Macho Cup มาแล้ว ที่สามารถฝ่าด่านหิน ทำแต้มตลอดเดือน 316 คะแนน ซิวเสื้อฟุตบอลของแท้ไปครอง

(Source : Fantasy Premier League)
เดือน ก.ค. ยังมีเสื้อฟุตบอลของแท้ให้ได้ลุ้นกันต่อเป็นเดือนสุดท้าย และความเข้มข้นน่าจะมากเป็นทวีคูณ เพราะเดือนส่งท้ายมีถึง 6 Gameweek ใครจะได้แชมป์ไป ต้องแข็งแกร่งมาก รวมถึงมันยังจะเป็นการตัดสินแชมป์ซีซันของ The.Macho League อีกด้วย ห้ามกระพริบตา

(Source : 90Min)
ครบถ้วนรายละเอียดกันไปแล้ว โดยสัปดาห์นี้ “มิตรรัก นักแฟนตาซี” จะมาพบกัน 2 หน ตามโปรแกรมบอลที่ถี่เหลือเกิน นอกจากวันอังคาร (7 ก.ค.) ที่คุณอ่านอยู่นี้ วันศุกร์ (10 ก.ค.) เราจะมาเจอกันอีกที อย่าลืมติดตามเชียว!
Picture : Fantasy Premier League, The Busby Babe, 90Min, Irish Mirror, Football365, This Is Anfield, Spurs Web, Watford Observer, Forever West Ham, Sporting Life, Metro, Liverpool FC, Trends365, Fox Sports, PSG Talk