มิตรรัก นักแฟนตาซี : EP 42 ส่องวงในความเห็น ทำไมสโมสรพรีเมียร์ เสียงแตก! - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
มิตรรัก นักแฟนตาซี : EP 42 ส่องวงในความเห็น ทำไมสโมสรพรีเมียร์ เสียงแตก!

กลับมาอัพเดทข่าวสารของฟุตบอลลีกยุโรปกันเหมือนเดิม โดยเรายังคงรวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ โดยโฟกัสไปที่พรีเมียร์ลีก แต่ก็มีข่าวแวดล้อมจากลีกอื่นมาให้เสพด้วย เพราะมันอาจเป็นบรรทัดฐานการตัดสินใจได้เช่นกัน

ข่าวคราวการกลับมาเตะพรีเมียร์ลีก ยังต้องตามกันต่ออย่างใกล้ชิด
(Source : IndiaToday)

เนื้อหาสำคัญ เป็นการประชุมของพรีเมียร์ลีกครั้งล่าสุดเมื่อ 1 พ.ค. ซึ่งแม้จะไม่มีรายละเอียดอะไรมาก แต่ถัดมา 2-3 วัน ก็มีหลายสื่อเผยรายละเอียดวงใน ซึ่งทำให้เห็นข้อขัดแย้งในการกลับมาเตะพอสมควร มีอะไรบ้าง เดี๋ยวเราแชร์ให้ฟัง

ผลประชุมพรีเมียร์ลีก 1 พ.ค.

ถือเป็นกำหนดการปกติที่จะมีการคุยกันทุกๆ 2 สัปดาห์ สำหรับสมาชิกพรีเมียร์ลีก ซึ่งการประชุมเมื่อ 1 พ.ค. ไม่มีรายละเอียดออกมานัก นอกจากการยืนยันคำเดิม ว่าสมาชิกมีความต้องการกลับมาเตะซีซัน 2019/20 ให้จบ

ถึงโอกาสจะต้องกลับมาเตะแบบปิดสนามสูง แต่พรีเมียร์ลีกก็ยังอยากแข่งต่อให้จบ
(Source : Burnley Football Club)

โดยรายละเอียดการกลับมาซ้อม และการกลับมาเตะ ยังไม่มีรายละเอียดออกมา เพราะต้องดูสถานการณ์ไปก่อน โดยให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของทุกคนที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนั้น ยังมีการคุยกันในส่วนวิธีการที่จะสามารถกลับมาแข่งได้ เพียงแต่ไม่มีการแชร์รายละเอียดออกมา

ความเห็นจากสโมสร

อย่างที่แจ้งด้านบน ว่าแถลงการณ์ของพรีเมียร์ลีกไม่มีรายละเอียดใหม่ให้ติดตาม ส่วนนึงเพราะมันยังไม่มีความชัดเจนของสถานการณ์ตอนนี้ และอีกส่วนนึง เพราะเขารอดูรายละเอียดจากรัฐบาล ที่ต้องมีการอัพเดทรายละเอียดล็อคดาวน์อีกครั้ง หลังของเดิมสิ้นสุด 7 พ.ค.

แต่ก็เป็นปกติ ที่สื่อต่างๆ จะมีรายละเอียดวงในออกมาแชร์กัน ผสมกับคำสัมภาษณ์ของเหล่าผู้บริหารของทีม และนักเตะ ซึ่งทำให้เราเห็นภาพรวมของการตัดสินใจมากขึ้น

จากหน้าสื่อต่างๆ ทีมในโซนท้ายตาราง ดูจะมีหลายปัจจัยกังวลในการกลับมาเตะตามไอเดีย
(Source : talkSPORT)

ประเด็นสำคัญที่ถูกถกเถียงกันอย่างมาก คือพรีเมียร์ลีกอาจนำมาตรการใช้สนามกลาง 8-10 สนามออกมาใช้ เพราะนอกจากจะจัดการแข่งขันในสถานที่ที่พร้อม และหลีกเลี่ยงแฟนบอลเจ้าถิ่น ออกมาออกันนอกสนาม ยังสะดวกต่อความพร้อมของสนาม ซึ่งต้องใช้คนน้อยที่สุด เท่าที่เป็นไปได้

โดยถึงจะมีหลายฝ่าย เห็นด้วยว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้การแข่งขันกลับมาเตะกันได้เร็วที่สุด แต่ก็มีหลายสโมสรที่แสดงความกังวล โดยเฉพาะความได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน ซึ่งจะหายไปทันที เมื่อกลับมาเตะสนามเป็นกลาง

ไบรท์ตัน แสดงท่าทีไม่ค่อยเห็นด้วย หากพวกเขาต้องเสียความได้เปรียบจากการเล่นในรังเหย้า
(Source : 90Min)

สโมสรส่วนใหญ่ที่กังวลเรื่องนี้ อยู่ในโซนหนีตกชั้นกันทั้งนั้น โดยมีไบรท์ตันที่เหลือเกมเหย้า กับทีมใหญ่หลายทีม ที่ออกตัวไม่ปลื้มประเด็นนี้ ส่วนทีมอื่น เช่น วิลล่า หรือเวสต์แฮม เชื่อว่ามีความกังวลตรงนี้เช่นกัน เพียงแต่หันไปพูดเรื่องสุขภาพของผู้คนมากกว่า

นอกจากนั้น ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องสัญญาของนักเตะ ทั้งสัญญาถาวร และสัญญายืมตัว ซึ่งจะมีหลายรายที่หมดสัญญาในเดือน มิ.ย. และสโมสรไม่สามารถบังคับให้นักเตะอยู่กับทีมต่อไปได้ แม้จะมีการเปิดช่องของฟีฟ่า และไอเดียเรื่องการเซ็นสัญญาระยะสั้น 2-3 เดือนก็ตาม

บอร์นมัธ ต้องเคลียร์กับ “ไรอัน เฟรเซอร์” หลังนักเตะสก็อตติชจะหมดสัญญา มิ.ย. นี้
(Source : Goal.com)

ซึ่งทีมที่ได้รับผลกระทบมากกว่าเพื่อน ก็ยังคงเป็นทีมในครึ่งล่างของตาราง พอบวกกับเรื่องสนามกลาง และเรื่องความกังวลในด้านสุขภาพ จึงไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ กับการกลับมาเตะ ซึ่งก่อนนี้คาดว่าตั้งเป้ากันไว้ในเดือน มิ.ย.

ตอนนี้เลยกลายเป็นการยืน 2 ด้าน ระหว่าง 6 ทีมท้ายตาราง กับอีก 14 ทีม โดยหากมีการโหวต พรีเมียร์ลีกต้องการเสียงเอกฉันท์ 14 จาก 20 เสียง ถึงจะผ่านมติในเรื่องสำคัญ

ความเห็นของนักเตะ

นอกเหนือจากความเห็นของเหล่าผู้บริหารของสโมสร ที่มีอำนาจในการตัดสินใจแล้ว ตัวนักเตะหลายราย ก็มีการออกความเห็นออกมาเหมือนกัน จากการสัมภาษณ์ของสื่อต่างๆ ออนไลน์

กุน และลาปอร์ต สองกระบอกเสียง ที่มีความกังวลเรื่องสุขภาพในการกลับมาเตะ
(Source : Manchester City FC)

นักเตะหลายราย เช่น อเกวโร่ หรือลาปอร์ต ออกมาให้ความเห็นคล้ายกัน ว่าถึงแม้พวกเขาจะคิดถึงการกลับมาลงเล่นในสนาม แต่เรื่องของสุขภาพก็เป็นอะไรที่สุ่มเสี่ยง ยิ่งกับคนที่มีครอบครัว, ลูก หรือผู้สูงอายุ รออยู่ที่บ้าน

จุดนี้เป็นอีกสิ่งที่น่ากังวลเหมือนกัน เพราะหากว่ารัฐบาล, พรีเมียร์ลีก และสโมสร ไฟเขียวให้กลับมาเตะได้ แต่นักเตะบางส่วนกลับปฏิเสธ ด้วยข้อกังวลต่อสุขภาพ แล้วมันจะลงเอยกันที่ตรงไหน

จับตาดูพรีเมียร์ลีกต่อ

หลักไมล์สำคัญต่อจากนี้ คงมีอยู่ 2-3 กำหนดการที่น่าสนใจ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการกลับมาเตะของพรีเมียร์ลีก ในอนาคตอันใกล้

แรกสุด คือการอัพเดทสถานการณ์ของรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งแน่นอนว่าจะมีการต่อเวลาล็อคดาวน์จาก 7 พ.ค. ออกไปอย่างแน่นอน เหมือนหลายประเทศ เพียงแต่มันจะมีรายละเอียดผ่อนปรนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งนั่นส่งผลต่อการกลับมาเตะของพรีเมียร์ลีกแน่

การขยายมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาลอังกฤษ มีผลสำคัญต่อพรีเมียร์ลีกแน่
(Source : Etemaad)

กำหนดการถัดไป หลังจากเห็นท่าทีรัฐบาล ซึ่งคาดว่าหลังจาก 7 พ.ค. ราว 7-10 วัน พรีเมียร์ลีกคงมีแถลงการณ์ออกมาอีกรอบ โดยโปรเจ็คท์ที่ถูกเรียกว่า “รีสตาร์ท” อาจมีรายละเอียดให้เห็นกันมากขึ้น จะเป็นการกลับมาซ้อม 18 พ.ค. และเริ่มเตะกันในเดือน มิ.ย. รึป่าว อันนี้ต้องตามดู

โดยนอกเหนือจากไทม์ไลน์ที่คาดหวังจะได้เห็นกันแล้ว น่าจะมีรายละเอียดเรื่องที่หลายฝ่ายกังวล เช่น การใช้สนามกลาง, สัญญานักเตะที่จะหมด มิ.ย. และความปลอดภัยต่อผู้เกี่ยวข้อง ที่จะต้องกลับมาทำงานเกี่ยวข้องกับการแข่งขัน

แม้จะมีหลายทีมเปิดศูนย์ซ้อมแล้ว แต่การอนุญาตให้ซ้อมรวมทีม ยังต้องรอการยืนยัน
(Source : SuperSport)

ปิดท้ายที่สำคัญที่สุด และคงจะออกมาตามหลัง คือโปรแกรมการแข่งขัน ว่าจะจัดสรรยังไง ไม่ให้เกิดการได้เปรียบ-เสียเปรียบ ซึ่งถ้าจะเตะ มิ.ย. จริง ประมาณปลาย พ.ค. โปรแกรมต้องออกมาแล้ว

ลีกอื่นว่าไงบ้าง

นอกเหนือจากบุนเดสลีก้า, กัลโช่ เซเรีย อา และเอเรดิวิซี่ ที่เราว่ากันไปใน EP ก่อน ล่าสุดก็มี “ลีกเอิง” ของฝรั่งเศส ที่ออกมาตัดจบไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากรัฐบาลฝรั่งเศส ยืนยันไม่อนุญาตให้กีฬาอาชีพกลับมาลงเล่น จนถึงเดือน ก.ย. เป็นอย่างน้อย

หลังตัดจบ “เปแอสเช” ครองแชมป์ลีกเอิงซีซันนี้เรียบร้อย จากการดูแต้มต่อนัด
(Source : CGTN)

จุดที่ลีกเอิง ทำได้ดีกว่าเอเรดิวิซี่ คือมีการเลือกวิธี “แต้มต่อนัด” ชัดเจน เพื่อจัดอันดับของทีมในลีก ที่มีลงเล่นไม่เท่ากัน พร้อมกับยึดตำแหน่งแชมป์, โควตาบอลยุโรป และการเลื่อนชั้น-ตกชั้น ตามนั้น

อย่างไรก็ดี ก็มีสโมสรที่เสียผลประโยชน์ และออกมาพูดว่าอาจมีการเรียกร้อง อย่าง “โอลิมปิก ลียง” ที่การเลือกใช้วิธีแต้มหารด้วยจำนวนนัด ทำให้พวกเขาต้องจบอันดับที่ 7 และชวดไปเล่นฟุตบอลยุโรป เพราะหากเลือกตัดนัดที่ 28 ออก แล้วตัดสินจาก 27 นัดเท่ากัน พวกเขาจะจบอันดับ 5 แถมยังมีฟุตบอลถ้วยนัดชิงกับเปแอสเช รออยู่ด้วยอีกต่อ

ลียง ถือเป็นทีมในลีกเอิงที่ได้รับผลกระทบชัดเจน จากการเลือกวิธีคิดคะแนนเพื่อจัดอันดับ
(Source : Goal.com)

ส่วนอีกลีกใหญ่อย่าง “ลา ลีก้า” สเปน ก็เริ่มมีการขยับตัวเช่นกัน กับการเล็งกลับมาซ้อมแบบ Social Distancing ประมาณกลางเดือน พ.ค. เพื่อหวังกลับมาเตะแบบปิดสนามช่วงเดือน มิ.ย. ซึ่งจะคล้ายๆ ที่กัลโช่ เซเรีย อา วางกำหนดการไว้

วิเคราะห์นักเตะทีเด็ด

ผู้รักษาประตู
ดีน เฮนเดอร์สัน (เชฟฯ ยู / 5.3 ล้านปอนด์)

(Source : Goal.com)

เหลือ Gameweek ที่มีเดดไลน์อีกแค่ 2 ครั้ง ดังนั้นอยากปรับได้ก็ต้องปรับไปก่อน โดยเฮนเดอร์สัน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เพราะนอกจากฟอร์มเด่นจนได้ลุ้นถุงมือทองคำ โปรแกรมของ “ดาบคู่” ยังเหลือเยอะกว่าคนอื่น ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ไม่ควรมองข้าม

10 นัดที่เหลือของเชฟฯ ยู ยังเหลือเจอ เชลซี, เลสเตอร์, แมนฯ ยู, สเปอร์, วูล์ฟ ซึ่งมองผ่านๆ ถือว่าหนักหนาเอาการอยู่ เพียงแต่เรื่องของเกมรับ ทีมน้องใหม่จอมเซอร์ไพรส์ทีมนี้ ถือว่าทำได้ดี และยื้อหลายต่อหลายทีมได้โดยตลอด

กองหลัง
ชาร์ลี เทย์เลอร์ (เบิร์นลีย์ / 4.3 ล้านปอนด์)

(Source : Euro Football Rumours)

แบ็คฟอร์มดีของเบิร์นลีย์ ถือเป็นแนวรับราคาประหยัด ที่กุนซือหลายคนมอง เพราะนอกจากการยึดตัวจริงแบบต่อเนื่องยาว นับตั้งแต่เข้าสู่ครึ่งซีซันหลัง เกมรับของทีมยังเหนียวแน่นขึ้นเยอะในช่วงหลัง จนพาให้โป๊บ เก็บ 11 คลีนชีท ครองจ่าฝูงถุงมือทองคำอยู่ในขณะนี้

โปรแกรมของเบิร์นลีย์ถือว่าโอเค เพราะของหนักเหลือแค่กับ แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และวูล์ฟ เกมอื่นๆ พวกเขาน่าจะต่อกรได้ไม่ยาก และรูปแบบเกมที่รัดกุม น่าจะทำให้เสียประตูไม่มากนักเช่นกัน

กองกลาง
อิซไมล่า ซาร์ (วัตฟอร์ด / 6.4 ล้านปอนด์)

(Source : The Times)

ตัวรุกทีมชาติเซเนกัล ใช้เวลาปรับตัวนานพอสมควร ก่อนจะเริ่มตอบแทนค่าตัวระดับสถิติสโมสร ด้วยการทำไปแล้ว 5 ประตู 4 แอสซิสต์ แม้เวลาลงสนามจะไม่ถึงกับมากนัก

ว่ากันด้วยเรื่องโปรแกรมของ “แตนอาละวาด” ความจริงก็งานหนักอยู่ แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นของทีมในช่วงหลัง น่าจะทำให้ความเร็วของแนวรุกเล่นงานทีมอื่นได้พอสมควร ยิ่งหากเกมเยือนทีมอย่างเชลซี หรืออาร์เซน่อล ถูกปรับมาให้มาเล่นสนามกลาง ความเสียเปรียบของโปรแกรม ก็จะลดลงอีก

กองหน้า
โดมินิก คัลเวิร์ธ-เลวิน (เอฟเวอร์ตัน / 6.5 ล้านปอนด์)

(Source : The Boot Room)

กองหน้าคู่ขวัญของอันเชล็อตติ ทำผลงานก่อนเบรกโควิด ได้อย่างโดดเด่น การเล่นหน้าเป้า และมีตัวเสริมอย่างริชาร์ลิสัน และซิกูร์ดสัน ถือว่าลงตัวขึ้นกว่าครึ่งซีซันแรก ซึ่งส่งผลให้ DCL ผลิตสกอร์ได้ต่อเนื่อง เผลอแป๊บเดียวยิงไป 13 ลูกแล้ว

ลึกๆ แล้ว “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ยังพอมีลุ้นโควตายุโรปอยู่บ้าง ยิ่งกับโปรแกรมที่ไม่หนักนัก เหลือเจอ Top 6 แค่ลิเวอร์พูล กับสเปอร์ น่าจะทำให้ทุกคนร่วมกันเร่งฟอร์มกับโปรแกรมที่เหลือ โดยเฉพาะแนวรุกที่เริ่มผลิตสกอร์ต่อเนื่อง

จัดทีม วัดใจ

กับเดดไลน์ Gameweek 36 ที่ผ่านมา ตัดสินใจไม่เปลี่ยนตัวไป เพราะไม่รู้จะปรับตรงไหน แล้วมีประโยชน์ในการเปลี่ยนต่อไป ทีมก็ยังมีหน้าตาเหมือนเดิม

หลังเลือกไม่เปลี่ยนตัวกับเดดไลน์ที่แล้ว ทำให้ทีมยังหน้าตาเหมือนเดิม
(Source : Fantasy Premier League)

กับ Free Transfer ที่เหลือ 3 ครั้ง (2 ที่สะสมไว้ กับ 1 ของ Gameweek 38) ลองมาวางดูคร่าวๆ ก็ขยับไม่ได้มาก ถ้าไม่ลงทุนถอดตัวราคาสูงๆ ออก

ตำแหน่งแรกคือแดนหลัง ซึ่งนักเตะที่น่าสนใจก็มีทั้งอลอนโซ่, ลุนด์สตรัม, โอริเย่ ซึ่งการจะได้มานั้นต้องมีการปรับ 2 จุด เช่น ถอดฟาน ไดค์ ใส่อลอนโซ่ แล้วเอาลุนด์สตรัม หรือโอริเย่ เข้ามาแทนอีแกน

ในแดนกลาง ผมค่อนข้างมั่นใจที่จะคงมี มาเน่, เด บรอยน์, บรูโน่ เอาไว้กับทีมแน่นอน ดังนั้นคงจะยากที่จะใส่ตัวราคาแพงเข้ามา ยกเว้นจะถอดโอบาเมย็องออก แล้วใส่กองหน้าราคาถูกลงมาก เพื่อเติมมืดฟิลด์ลุ้นแต้ม อย่างริชาร์ลิสัน, มาร์กซิยาล หรือบาร์นส์ เข้ามา

ตัวทีเด็ดของ “หงส์แดง” ก็คงต้องเป็นมาเน่ หรือซาล่าห์ ที่มีติดทีมไว้
(Source : WeeTracker)

แดนหน้าคิดว่าอาจจะไม่ขยับคัลเวิร์ธ-เลวิน แล้ว ส่วนโจต้า ถ้าจะเปลี่ยนจริงๆ อาจจะต้องลองของแหวกหน่อยอย่างวู้ด ด้านโอบาเมย็อง ที่เหลือโปรแกรม 10 นัด ก็ยังน่าเก็บไว้ หากไม่ได้อยากเพิ่มกลางคุณภาพเข้ามาอีกตัว

เดดไลน์ของ Gameweek 37 คือวันเสาร์ที่ 9 พ.ค. เวลา 2 ทุ่ม โดยขอย้ำว่าเหลืออีกเพียง 2 เดดไลน์เท่านั้น ให้จัดแจงทีมให้พร้อมไว้ก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าหลังจากเลยกำหนดเดดไลน์ Gameweek 38 ไปแล้ว ทาง FPL จะจัดการกับโปรแกรมที่เหลือยังไง

พรีเมียร์ลีกจะกลับมาเตะเมื่อไหร่ คงต้องลุ้นกันเหนื่อยยิ่งกว่าลุ้นประตูซะอีก
(Source : Financial Times)

ทิ้งท้ายกันด้วยช่องทางพูดคุยของเรากับทุกท่าน นอกเหนือจากการแชร์ทีมที่ผมเปลี่ยนของตัวเอง ก่อนเดดไลน์ในทุก Gameweek แล้ว เรายังมีการอัพเดทข่าวสารให้ทราบโดยตลอด ในกลุ่มแชทถึงตอนนี้จะเงียบเหงาไปหน่อย แต่ก็ยังมีการแลกเปลี่ยนกันเรื่อยๆ เข้ามาจอยกับเราได้ครับ
กลุ่มแชท ใน LINE OpenChat >> คลิกเลย <<
กลุ่ม facebook >> คลิกเลย <<

Picture : Fantasy Premier League, Sky News, IndiaToday, Burnley Football Club, talkSPORT, 90Min, Goal.com, Manchester City FC, Etemaad, SuperSport, CGTN, Euro Football Rumours, The Times, The Boot Room, WeeTracker, Financial Times

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save