ถึงมีการขยับตัวของเหล่านักเตะ และผู้คนที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลอยู่บ้างในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่จะออกไปทางการช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และสาธารณสุขซะมาก เพราะกำหนดการกลับมาเตะ ยังคงไม่สามารถระบุได้
(Source : Diario AS)
อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากการเคลื่อนไหวต่างๆ ในช่วงที่ทุกคนอยู่ติดบ้าน มันก็มีข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการ “เลื่อนเตะไปถึงเมื่อไหร่?” อยู่บ้างเหมือนกัน ดังนั้นเราไปสรุปประเด็นน่าสนใจกันหน่อยดีกว่า
ปัจจัยน่าสนใจ ต่อการกลับมาเตะ
ถึงในอังกฤษ นักเตะจะยังต้องแยกตัวอยู่บ้านใครบ้านมัน และต้องมีโปรแกรมเรียกความฟิตทั้งส่วนตัว และส่วนของทีมผ่านวีดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ แต่ในบางประเทศ เช่น เยอรมัน นักเตะเริ่มกลับมาซ้อมกันในศูนย์ซ้อมปิดของทีมแล้ว ถึงจะยังไม่มีการยืนยันกำหนดการกลับมาเตะ
(Source : The Sun)
การที่บางประเทศทำแบบนั้นได้ ก็เพราะสถานการณ์ในบางประเทศ หรือบางส่วนของประเทศ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการกลับมาซ้อม ต้องได้รับความเห็นชอบของสมาคมฟุตบอล และรัฐบาลด้วย
ฟังดูแนวโน้มดีขึ้น แต่ถ้าถามถึงการกลับมาเตะกันนั้น ทุกอย่างยังมีแต่การคาดเดา โดยเฉพาะหากอ้างอิงจากคำพูดของ “จิอันนี่ อินฟานติโน่” ประธานฟีฟ่า ซึ่งออกมาย้ำว่า ถ้าจะมีการกลับมาเตะ มันต้องมั่นใจว่าปลอดภัย 100% เพราะเป็นเรื่องที่เสี่ยงไม่ได้
(Source : FIFA)
ส่วนในระดับการตัดสินใจของแต่ละลีก เชื่อเลยว่ามีการพูดคุย และเสนอไอเดียในระดับผู้บริหารกันต่อเนื่อง เพียงแต่มันยังไม่ใช่การประกาศอย่างเป็นทางการ ดังนั้นทุกท่าน ต้องเสพข่าวอย่างระมัดระวังต่อไป
ไอเดีย “เมื่อไหร่ กลับมาเตะ?”
มีข่าวลือ และแนวคิดออกมาอยู่เรื่อยครับ แต่จะให้ชี้ชัดคงยังตอบยาก อย่างไรก็ดี ก็มีข่าวที่มีนัยยะอยู่เหมือนกัน ว่าทุกฝ่ายพร้อมยืดหยุ่นให้ซีซันนี้กลับมาเตะ และอาจจะกระทบกับการพักก่อนจะเริ่มซีซันหน้า (2020/21) ที่จะเหลือสั้นกุด
(Source : CNN)
โดยตอนนี้ มีความคิดว่า ประมาณปลายเดือน มิ.ย. หรือ ก.ค. อาจจะมีความเป็นไปได้ที่เกมพรีเมียร์ลีกอาจจะกลับมาเตะได้ จะแบบเต็มรูปแบบ หรือปิดสนาม อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และปัจจัยความปลอดภัยทางการแพทย์
ซึ่งไอเดียนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 สัปดาห์ ในการแข่งขันโปรแกรมทั้งหมด 9-10 นัดให้จบหมด โดยอาจจะต้องเตะ 2 เกมต่อสัปดาห์โดยตลอด ส่วนจะมีเกมอุ่นเครื่องก่อนหน้านั้นหรือไม่ ตามที่บางสื่อเล่นข่าว ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยความพร้อม และกรอบเวลาแหละ
(Source : Philadelphia Inquirer)
ต่อเนื่องจาก การแข่งขันเกมลีก เกมฟุตบอลยุโรปทั้ง UCL และยูโรป้า ลีก ก็อยากจะแข่งให้มันเสร็จสิ้นเช่นกัน โดยอาจจะเล็งไปที่ต้นเดือน ส.ค. แล้วตัดการเล่นแต่ละรอบเป็นนัดเดียวรู้ผล เพื่อให้ทุกอย่างจบเร็วขึ้น และส่งผลกระทบน้อยที่สุด ต่อการเปิดซีซันใหม่
โดยซีซันใหม่ อาจจะมีเวลาพักกันไม่ถึงเดือน แล้วเริ่มเตะราว ก.ย. โดยตลาดซื้อขายนักเตะ และการยืดสัญญานักเตะที่จะหมดสัญญา มิ.ย. นี้ ก็ให้ยืดหยุ่นตามกำหนดการนี้ไปด้วย
เล่ามายืดยาว แต่ก็ขอจบเหมือนเดิม ว่านี่คือ “การคาดการณ์” เท่านั้น รอ Official อีกที จะดีที่สุดครับ
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
หยิบมาให้อ่านกันหน่อย 2 เรื่อง โดยเรื่องแรก คือการรวมพลังของนักเตะพรีเมียร์ลีก ใช้ชื่อแคมเปญว่า #PlayersTogether ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของนักเตะ เพื่อระดมทุนช่วยเหลือ NHS (หน่วยงานสาธารณสุขของอังกฤษ) และหน่วยอื่นที่เกี่ยวข้อง
(Source : Twitter)
โดยตัวตั้งตัวตี เริ่มจากการพูดคุยของกัปตันแต่ละสโมสรก่อน โดยมี “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” กัปตันทีมลิเวอร์พูล เป็นคนริเริ่ม และใช้การติดต่อสื่อสารผ่านออนไลน์ จนเกิดความร่วมมือ และแถลงการณ์สนับสนุนไปในทิศทางเดียวกัน
เรื่องที่ 2 เป็นแนวผ่อนคลายกันมั่งครับ เพราะหลังจากเราเห็นหลายลีก อย่างในลาลีก้า สเปน จัดการแข่งขันเกมฟุตบอลออนไลน์กันมาแล้ว ในอังกฤษก็มีการจัดแข่ง FIFA 20 ขึ้นด้วย โดยมีสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ FA เป็นโต้โผเอง
(Source : Twitter)
โดยจะมีการเชิญ 16 นักเตะทีมชาติอังกฤษ ทั้งทีมชาย, ทีมหญิง และทีมยู-21 เข้ามาแข่งขันสร้างความบันเทิงให้ผู้ชมทางบ้าน ใช้ชื่อว่า #FootballsStayingHome Cup โดยรอบ 16 ทีมแข่งกันไปแล้วมื่อวันศุกร์ (11 เม.ย.)
[Source : YouTube (England)]
ผู้เล่นที่น่าสนใจ ที่เข้าร่วมแข่งขัน ก็มีทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน เมาท์, ท็อดด์ แคนท์เวลล์, เจมส์ แมดดิสัน, เจดอน ซานโช ฝั่งทีมหญิง ก็มี 3 ราย ได้แก่ ลูซี่ บรอนซ์, จอร์แดน น็อบบส์ และเอลลี่ โรบัค
วิเคราะห์นักเตะทีเด็ด
ผู้รักษาประตู
รุย ปาทริซิโอ (วูล์ฟ / 5.2 ล้านปอนด์)
นายด่านชาวโปรตุกีซ เป็นอีกหนึ่งรายที่ฟอร์มโดดเด่นขึ้นในระยะหลัง โดยเขาคล้ายคลึงกับเด เกอา ตรงที่สามารถเก็บได้ถึง 4 คลีนชีต ใน 5 นัดหลังสุด โดยใน 5 นัดที่ว่า มีถึง 4 นัด ที่เขาเซฟได้ 3-5 ครั้งต่อเกม ได้คะแนนเพิ่มเติมไปอีก
โปรแกรมที่เหลือของวูล์ฟ ก็ถือว่าไม่หนักหนา กับ Top 6 พวกเขาเหลือแค่เยือนเชลซี กับเหย้ากับอาร์เซน่อล กับพวกอันดับสูงหน่อย ก็จะมีเกมกับเอฟเวอร์ตัน และเชฟฯ ยู นอกนั้นพวกเขาจะเจอทีมในอันดับครึ่งล่างทั้งนั้น ซึ่งถือว่าเอื้ออำนวยต่อการเลือกไม่น้อย
กองหลัง
เซซาร์ อัซปลิกัวเอต้า (เชลซี / 5.9 ล้านปอนด์)
กองหลังเบอร์แรกที่น่าสนใจของ “สิงห์บลู” คืออลอนโซ่แน่นอน แต่ด้วยราคาที่สูงขึ้นไปอีกหน่อย เลยขอลองแนะนำทางเลือกเป็นอัซปลิกัวเอต้า กองหลังที่ลงเล่นมากที่สุดของเชลซีในซีซันนี้ และจำนวนยิงไป 2 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ก็ถือว่าไม่เลว
นอกเหนือจากจุดเด่นที่เล่นได้ยืดหยุ่นทุกตำแหน่ง และฟอร์มสม่ำเสมอ โปรแกรมของเชลซีก็ถือว่าโอเค ของแข็งมี ลิเวอร์พูล กับแมนฯ ซิตี้ ขวางอยู่ รวมถึงวูล์ฟ แต่นัดอื่นๆ ค่อนข้างเจอของเบา สามารถเลือกใช้ในระยะยาวได้
กองกลาง
เจมส์ วอร์ด-พราวส์ (เซาธ์แธมป์ตัน / 5.7 ล้านปอนด์)
เป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยมีใครมองเท่าไหร่ เพราะทั้งฟอร์มทีม “นักบุญ” และฟอร์มของวอร์ด-พราวส์ ในช่วงหลังไม่ค่อยสู้ดีนัก โดยแม้มิดฟิลด์รายนี้จะทำไป 4 ประตู 4 แอสซิสต์ แต่ระยะหลัง ก็ไม่ค่อยผลิตแต้มนัก
แต่ที่แนะนำ ก็เพราะราคาที่อยู่ในเกณฑ์กลางๆ ซึ่งคาดว่ากุนซือหลายท่านกำลังมองหานักเตะราคาประมาณนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการถอดของแพงออก เพื่อหมุนเงินไปตำแหน่งอื่น หรืออยากปรับพวกตัว 5 ล้านต้นๆ ขึ้นมาอีกหน่อย ถึงโปรแกรมจะยังมีทั้ง ซิตี้, ยูไนเต็ด และอาร์เซน่อล แต่นัดที่เหลือถือว่าสู้ได้ ดังนั้นวอร์ด-พราวส์ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้ได้
กองหน้า
คริส วู้ด (เบิร์นลีย์ / 6.1 ล้านปอนด์)
กองหน้าร่างใหญ่ ยิงเรื่อยๆ มาเรียงๆ รวมแล้ว 11 ประตู และยังคงเป็นความหวังสูงสุดในแดนหน้าของทีม ถึงซีซันนี้ จะเปลี่ยนคู่หูบ่อยครั้งไปหน่อย เพราะบาร์นส์เจ็บบ่อย บวกกับฟอร์มที่ดีขึ้นมาของโรดริเกวซ ซึ่งความจริงก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
การที่วู้ดเป็นตัวเลือกหลัก ก็ถือเป็นจุดน่าสนใจแรก เพราะฟุตบอลของเบิร์นลีย์ ไม่ได้ซับซ้อน และมักจะไปจบที่คู่กองหน้าเสมอ ยิ่งเมื่อดูจากโปรแกรมที่เหลือ ซึ่งเป็นจุดน่าสนใจที่ 2 ก็ถือว่าน่าลุ้น เพราะนอกเหนือจาก วูล์ฟ, เชฟฯ ยู, แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล นัดอื่นจะเจองานเบาทั้งสิ้น
จัดทีม วัดใจ
เดดไลน์ Gameweek 33 ผ่านไป โดยผมทำการเปลี่ยนเอาแม็คไกวร์ เข้ามาแทนโซยุนคู หน้าตาทีมปัจจุบัน ก็จะประมาณนี้
(Source : Fantasy Premier League)
ต่อเนื่องจากการคิดวางแผนล่วงหน้า งบประมาณที่เหลือ 0.3 ล้านปอนด์ ขยับอะไรไม่ได้มาก ในแดนกลาง ตัวที่น่าถอดคงจะเป็นแคนท์เวลล์ แต่ก็จะได้ประมาณ เฟล็ค, นอร์วู้ด หรือเชลวีย์ ซึ่งยังไม่ถึงกับน่าตื่นเต้นนัก
แดนหน้า จะถอดโจต้าออกก็น่าเสียดาย เพราะนอกจากฟอร์มดี โปรแกรมก็โอเค แต่ถ้าเลือกจะถอดออกจริงๆ ก็สามารถใส่วู้ดเข้ามาแทน ซึ่งโปรแกรมโอเคเช่นกัน
(Source : talkSPORT)
หรือถ้าจะคิดการใหญ่ อาจจะต้องถอดตัวแพงอย่างโอบาเมย็องออก แล้วเลือกตัวที่ราคาถูกลง แล้วเอางบที่เหลือไปเปลี่ยนแคนท์เวลล์ เป็นตัวที่ราคาสูงขึ้น เช่น ริชาร์ลิสัน, บาร์นส์ เป็นต้น
เดดไลน์ Gameweek 34 คือวันเสาร์นี้ (18 เม.ย.) ตอน 17.30 น. กับสิทธิ์ 2 Free Transfer ที่มี ถ้าคิดจะเปลี่ยนจริงๆ คงต้องคิดกันหลายตลบหน่อย ยังไงจะแชร์ให้ได้ทราบกันที่ 2 ช่องทางสื่อสารเดิมครับผม
กลุ่มแชท ใน LINE OpenChat >> คลิกเลย <<
กลุ่ม facebook >> คลิกเลย <<
(Source : Daily Express)
ช่วงนี้ ก็ยังคงต้องห่างหายฟุตบอลไปอีกพักใหญ่ ยังไงเราจะติดตามข่าวสารมาฝากแน่นอน ไม่หายไปไหน ใครเหงา อยากจะมาร่วมพูดคุย หรือแจมกิจกรรมสนุกสนาน ผมก็จะพยายามหามาให้จอยกันในกลุ่มแชท
ดูแลสุขภาพกันให้ดี ออกกำลังกายบ้างจะดีมาก แล้วพบกันใหม่!
Picture : Fantasy Premier League, Diario AS, The Sun, FIFA, CNN, Philadelphia Inquirer, Twitter, 90min, Chelsea Season, Southern Daily Echo, Premier League, talkSPORT, Daily Express
Live Rerun : YouTube (England)
