มิตรรัก นักแฟนตาซี : EP 28 เปิดหัวเดือน ก.พ. ก่อนพักหนีหนาวสไตล์ผู้ดี - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
มิตรรัก นักแฟนตาซี : EP 28 เปิดหัวเดือน ก.พ. ก่อนพักหนีหนาวสไตล์ผู้ดี

เป็นไงกันบ้างกับ Gameweek 24 ที่มี Double Gameweek เป็นครั้งแรกของซีซั่น โดยขณะที่ผมปั่นบทความนี้ ผมยังไม่ทราบผลแข่งขันนัดตกค้างระหว่างเวสต์แฮม กับลิเวอร์พูล ในคืนวันพุธ แต่ก็ทราบข่าวแล้วว่า “ซาดิโอ มาเน่” จะพลาดลงเล่น ซึ่งน่าจะทำให้กุนซือที่ฝากความหวังไว้ ต้องคอตกไปตามๆ กัน

“ซาดิโอ มาเน่” ลงเล่นเพียงครึ่งชั่วโมงกับวูล์ฟ และต้องเปลี่ยนตัวออกเพราะบาดเจ็บ
(Source : Premier League)

และเนื่องจาก Gameweek 24 ยังไม่สิ้นสุดตามที่ผมเกริ่นไป ดังนั้นเราจะมาโฟกัสแนะนำทีเด็ดสำหรับ Gameweek 25 สุดสัปดาห์กันเป็นหลัก พร้อมกับมีเพิ่มเติมอธิบายเรื่องการเบรกหนีหนาวของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ซึ่งจะมีการนำมาใช้ซีซั่นนี้เป็นครั้งแรกอีกด้วย

Gameweek 25 : วิเคราะห์ทีเด็ด

ผู้รักษาประตู

ดีน เฮนเดอร์สัน (เชฟฯ ยู / 5.0 ล้านปอนด์)

(Source : Football365)

ผู้รักษาประตูมือดี ที่ทีม “ดาบคู่” ยืมตัวมาจาก “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงความสม่ำเสมอของฟอร์มการเล่น การเก็บได้ถึง 8 คลีนชีต และการปักหลักเซฟสำคัญหลายครั้งในนัดที่แล้วที่เจอกับแมนฯ ซิตี้ ทำให้ตำแหน่งในทีมชาติอังกฤษของเขาน่าจะมั่นคงขึ้น

นอกเหนือจากฝีไม้ลายมือ โปรแกรมโหดของเชฟฯ ยู ถือว่าผ่านไปเซ็ตใหญ่แล้ว ต่อจากนี้อีก 6 นัด พวกเขาไม่เจอ Top 6 และพูดได้เต็มปากว่าเจอแต่ทีมที่อันดับต่ำกว่าพวกเขา หากใครที่อยากจะลงทุนกับแนวรับเชฟฯ ยู มองไปที่เฮนเดอร์สัน อาจจะลุ้นแต้มเซฟได้มากกว่าแผงหลัง ที่หวังพึ่งคลีนชีตอย่างเดียวเป็นหลัก

มาร์ติน ดูบราฟก้า (นิวคาสเซิล / 5.0 ล้านปอนด์)

(Source : Chronicle Live)

อีกหนึ่งจอมหนึบ ที่ฟอร์มการเล่นสม่ำเสมอ และมีส่วนสำคัญต่อผลงานของนิวคาสเซิลโดยตรง จำนวนการเซฟที่ตอนนี้ทำได้ 97 ครั้ง ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของลีก และหากดูแค่ 6 เกมหลัง ดูบราฟก้า มีจำนวนเซฟอย่างน้อย 6 ครั้ง (คิดเป็น 2 คะแนน) ได้มากถึง 4 แมทช์

โปรแกรมของ “สาลิกาดง” ถือว่าไม่หนักหนาจนเกินไป 9 แมทช์ข้างหน้า พวกเขามีเจอทีมใหญ่ แค่การเยือนอาร์เซน่อลใน Gameweek 26 เท่านั้น แถม 9 นัดที่ว่า ยังเป็นการเล่นในบ้าน 5 นัด ลุ้นทั้งเซฟ ลุ้นทั้งคลีนชีตกันได้ยาวๆ

กองหลัง

โจ โกเมซ (ลิเวอร์พูล / 5.2 ล้านปอนด์)

(Source : 90Min)

ก่อนนี้เคยลังเลจะแนะนำโกเมซ เพราะแม้จะราคาไม่แพง แต่ไม่ค่อยแน่ใจว่า การกลับมาของมาติป และลอฟเรน จะทำให้ตำแหน่งของเขาสั่นคลอนรึป่าว แต่เมื่อได้ดูฟอร์มของ 2 คนที่กลับมาในเอฟเอ คัพ แล้ว เลยค่อนข้างมั่นใจว่า โกเมซยังมีภาษีเหนือกว่าพอสมควร

ข้อสังเกตสำคัญในการคุมทีมเล่นบอลลีกของคลอปป์ในซีซั่นนี้ คือเขาเน้น และมีการเปลี่ยนแปลงทีมน้อย ถ้าไม่จำเป็น การประสานงานของโกเมซ กับฟาน ไดค์ ที่ทำให้ทีมเก็บคลีนชีตได้ 7 นัดรวด (ก่อนจะมาเสียซิงในนัดกับวูล์ฟ) น่าจะทำให้เขาได้ลงเล่นต่อไป ยิ่งกับโปรแกรมที่ไม่หนัก อีก 8 นัดไม่เจอทีมใหญ่ ยิ่งน่ามีแนวรับ “หงส์แดง” ติดทีมไว้

จามาล ลาสเซลส์ (นิวคาสเซิล / 4.2 ล้านปอนด์)

(Source : Sportskeeda)

กองหลังกัปตันทีม “สาลิกาดง” กลับมาจากอาการบาดเจ็บ และลงเล่นเป็นตัวจริงติดต่อกัน 2 นัดแล้ว การหายหน้าไปนานกว่า 10 แมทช์ ทำให้ราคาของเขาตกลงมาอยู่ในระดับแค่ 4.2 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าหาตัวที่ลงสม่ำเสมอในราคานี้ในเกมได้ยาก

จุดสำคัญ นอกเหนือจากเรื่องของราคา คงเป็นโปรแกรมของนิวคาสเซิล อย่างที่ว่าไปแล้วด้านบน ว่าพวกเขาเจองานไม่หนักกันอีกยาวๆ หากจะเลือกปรับเปลี่ยนพวกริโก้, เคลลี่, เว็บสเตอร์ ที่ผลงานอาจจะไม่เข้าตา ลาสเซลส์ที่ราคาไม่สูงกว่า ถือว่าน่าเสี่ยง

กองกลาง

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล / 5.4 ล้านปอนด์)

(Source : Yahoo News)

ว่ากันตามตรง ถ้าพูดถึงกองกลางจากค่าย “หงส์แดง” แล้ว ทุกสายตามองไปที่ซาล่าห์ และมาเน่แน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่หันมาแนะนำกัปตันทีมจอมขยันในสัปดาห์นี้ เพราะเขาแสดงความสำคัญกับทีมเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งกับช่วงที่คลอปป์เน้นกับเกมลีกให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด จะเป็นตำแหน่งเบอร์ 6 หรือ 8 ชื่อของเฮนโด ถือว่าการันตีตัวจริง

แม้จะไม่ได้เล่นในตำแหน่งเบอร์ 6 มานานเกือบปี แต่เมื่อฟาบินโญ่เจ็บ เฮนโดก็สามารถดูแลตำแหน่งเดิมได้เนียนตา บอลแทงทะลุ และบอล Early Cross ของเขาถือว่าหวังผลได้ หรือยิ่งถ้าฟาบินโญ่ สามารถเคาะสนิมกลับมาลงตัวจริง และเฮนโดกลับมายืนเบอร์ 8 ของทีม โอกาสมีส่วนร่วมกับเกมรุก จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย

วิลฟรีด ซาฮา (พาเลซ / 6.8 ล้านปอนด์)

(Source : The National)

แนวรุกริมเส้นตัวเก่งของ “ปราสาทเรือนแก้ว” ยังคงสร้างผลงานที่ดีส่วนตัวอยู่เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจำนวนประตู และแอสซิสต์ จะมาน้อยไปหน่อย แต่เขาก็ยังเป็นนักเตะที่เป็นตัวขึ้นบอลสำคัญให้กับพาเลซ อยู่อย่างสม่ำเสมอ

โปรแกรมที่เหลืออยู่ของพาเลซ จะไปหนักเอาในช่วงท้ายฤดูกาล โดยเฉพาะ 5-6 นัดหลัง ดังนั้นระหว่างนี้ประมาณ 8 นัด พวกเขามีเจอทีม Top 6 แค่เพียงนัดเดียว และนั่นอยู่ไกลออกไปพอสมควร กับ Gameweek 31 ที่ต้องออกไปเยือนแอนฟิลด์

กองหน้า

โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล / 9.6 ล้านปอนด์)

(Source : The Anfield Wrap)

ห่างหายจากการแนะนำบ๊อบบี้ในคอลัมน์เราไปเสียนาน เพราะมีช่วงที่เขาผลิตสกอร์ได้ไม่ค่อยสม่ำเสมอนัก เลยไม่ค่อยมีกุนซือแฟนตาซีเลือกก่อนหน้านี้ ถึงเขาจะยังได้รับการการันตีเป็นตัวจริงสม่ำเสมออยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ดี หากลองดูในการเล่นช่วงระยะหลัง นับตั้งแต่ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก เมื่อเดือน ธ.ค. ฟิร์มิโน่ ถือเป็นตัวโจ๊กเกอร์ที่กองหลังฝั่งตรงข้ามมักจะปล่อยให้เล็ดลอดจากการประกบ มากกว่าซาล่าห์ และมาเน่ หากใครอยากจะลองเสี่ยงกับตัว “หงส์แดง” ที่แตกต่างออกไปหน่อย False 9 ชาวบราซิเลี่ยน ถือว่าน่าสนใจเอามากๆ

ตีมู ปุ๊คกิ (นอริช / 6.5 ล้านปอนด์)

(Source : My Knowledge Tips)

กองหน้าชาวฟินแลนด์ กลับมายิงต่อเนื่องได้ 2 นัดติดอีกครั้ง สะสมยอดรวมพังประตูขึ้นมาเป็น 11 ลูกแบบเงียบๆ เพราะมีคนเทขายเขาออกไปนานพอสมควรแล้ว จนปัจจุบันมีคนเลือกเขาอยู่ราวๆ แค่ 13% ผิดกับช่วงต้นฤดูกาลที่ขึ้นไปแตะ 40% ขึ้นไป

สถานการณ์ลุ้นหนีตกชั้นของนอริช ยังคงเป็นงานเข็นครกขึ้นภูเขาอยู่ เพราะพวกเขาเสียประตูง่าย และรูปแบบเกมที่สวยงามก็ใช้ไม่ได้ผลเหมือนช่วงแรก อย่างไรก็ดี ข้อดีในช่วงหลังของพวกเขาคือ เกมรุกเริ่มใช้จังหวะน้อยลง และสร้างโอกาสได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสทำสกอร์ให้กับปุ๊คกิ ไปโดยปริยาย

จัดทีม วัดใจ

หลังเบรกแตกไปพอสมควร เมื่อมาเน่ได้รับบาดเจ็บ จนเก็บได้เพียงแค่ 1 คะแนน ทั้งที่มี Double Gameweek แต่ก็ยังเคราะห์ดีอยู่บ้าง ที่ไม่บู๊กด Triple Gameweek ไป

กับ Gameweek 25 สิ่งที่ทำได้ก่อน คือการลองจัดทัพที่มีในมือดู (ระหว่างเขียน ย้ำอีกที ว่าผมยังไม่ทราบผลคู่สุดท้ายของ Gameweek 24 เวสต์แฮม-ลิเวอร์พูล) ว่ามันไปวัดไปวาได้แค่ไหน

มาเน่ที่เจ็บ ทำให้ทางเลือก 11 ตัวที่เหลือดูไม่ค่อยลงตัวนัก
(Source : Fantasy Premier League)

ปัญหาหลักแน่นอนอยู่ที่มาเน่ ตัวทำคะแนนหลักที่ได้รับบาดเจ็บ และคงเป็นไปได้ยากที่จะลงเล่นในแมทช์ Gameweek 25 ได้ แต่ด้วยอาการที่ไม่หนักหนานัก ตามที่คลอปป์อัพเดทมา น่าจะทำให้ตัดสินใจถือเขาไว้กับทีมก่อน เพราะมีช่วงเบรกหนีหนาวมาช่วยพอดี

ทัพที่จัดได้ ดูจะหวังพึ่งนักเตะเลสเตอร์ค่อนข้างเยอะ แถมทีมตัวรอง ยังเจอโปรแกรมที่ไม่ง่ายนัก การจะปรับเปลี่ยนตัว จึงต้องคำนึงถึงนักเตะเหล่านี้ไว้นิดนึง เพราะเราเผื่องบไว้จากการเปลี่ยนครั้งก่อนเยอะเลย (เอาแรชฟอร์ดออก คัลเวิร์ธ-เลวินเข้า)

แมดดิสัน และโซยุนคู เริ่มเป็นเครื่องหมายคำถาม ว่าควรเก็บไว้ต่อรึป่าว
(Source : Yahoo News)

ทางเลือกแรกคือปรับตัวราคาค่อนข้างสูงออก เช่น ถอดแมดดิสันออก ก็สามารถหยิบจับซน, อัลลี่ หรือมาร์กซิยาลเข้ามา หรือหากเลือกถอดวาร์ดี้ออก ก็ใส่อาวุธหนักอย่างอเกวโร่ หรือโอบาเมย็อง เข้ามาได้เลย

ทางเลือกต่อไป คือการถอดตัวราคาถูกออกไป เผื่อจะเอางบที่เหลือมายกระดับทีมได้ ก็อย่างเช่น ถอดเอาเคลลี่ หรือเว็บสเตอร์ออก ก็สามารถใส่กองหลังตัวไหนก็ได้เข้ามาสู่ทีม (ยกเว้นหงส์แดง และเลสเตอร์ ที่โควตาเต็มแล้ว)

“ราอูล ฆิมิเนซ” ที่ฟอร์มสม่ำเสมอ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ หากอยากปรับแดนหน้า
(Source : FantasyBet)

ตัวราคาถูกในแดนหน้าก็สามารถปรับได้เช่นกัน หากเลือกถอดคัลเวิรธ-เลวิน หรือเดโลเฟวออก ก็เติมฆิมิเนซ, คัลลั่ม วิลสัน, อิงส์ หรือปุ๊คกิ เข้ามาแทนได้

ทั้งหมดทั้งมวลที่แชร์ทางเลือกมา ผมคงไม่เปลี่ยนแบบทันทีทันใด ขอเช็คโปรแกรมกลางสัปดาห์คู่เวสต์แฮม-ลิเวอร์พูล และ 4 ทีมที่ลงเล่นคาราบาว คัพ ดูก่อน ทีมจะออกมาหน้าตาแบบไหน เดี๋ยวจะแชร์ให้ได้ชมกันตามช่องทางของเราเหมือนเดิมครับ
กลุ่มแชท ใน LINE OpenChat >> คลิกเลย <<
กลุ่ม facebook >> คลิกเลย <<

ทำความเข้าใจเบรกหนีหนาวพรีเมียร์ลีก

ซีซั่นนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่พรีเมียร์ลีก จะมีเบรกหนีหนาวกับเขาบ้าง
(Source : All Out Football)

ขอพูดเพิ่มเติมนิดนึงถึงการเบรกหนีหนาวที่ไม่เหมือนใครของพรีเมียร์ลีก ซึ่งถูกหยิบเอามาใช้ซีซั่นนี้เป็นซีซั่นแรก และก็มีดราม่าเสียงบ่นของเหล่ากุนซือ อย่างที่เราเห็นข่าวกันไป

โดยปกติแล้ว ประเทศอื่นๆ ในยุโรป เวลาเขาเบรกหนีหนาวกัน เขาจะเลือกช่วงที่มันหนาวเหน็บที่สุด ซึ่งก็ประมาณปลายปี (ปลาย ธ.ค.) จนถึงกลางเดือน ม.ค. แต่พรีเมียร์ลีกเจ้ากรรม เขายังคงต้องมีวัฒนธรรมการเตะ Boxing Day, การเตะสุดสัปดาห์ส่งท้ายปี และการเตะรับขึ้นปีใหม่ มันก็เลยโยกมาเบรกหนีหนาวกันในเดือน ก.พ. ให้ประหลาดลูกตาอย่างที่เห็น

พรีเมียร์ลีกเลือกเบรกในเดือน ก.พ. หาใช่ช่วงที่หนาวเหน็บ เหมือนอย่างที่อื่นเขาทำกัน
(Source : talkSPORT)

นอกจากจะเบรกไม่ตรงกับบ้านเมืองอื่นเขา การ “แบ่งกันเบรก” ก็เป็นไอเดียแปลกๆ ที่พรีเมียร์ลีกผุดขึ้นมา เพื่อคงการมีแมทช์เตะครบทั้ง 2 สัปดาห์ ซึ่งหมายถึงรายได้ถ่ายทอดสด ที่ยังมีเกือบเท่าเดิม

การเบรกหนีหนาวครั้งแรกของพรีเมียร์ลีก จะเกิดขึ้นหลัง Gameweek 25 ที่จะลงเตะกัน 1-2 ก.พ. ที่จะถึงนี้ โดยแบ่งเป็นพวก “เตะก่อนพัก” และ “พักก่อนเตะ”

กลุ่มเตะก่อนพัก (8 ทีม) :
เอฟเวอร์ตัน, พาเลซ, ไบรท์ตัน, วัตฟอร์ด, เชฟฯ ยู, บอร์นมัธ, แมนฯ ซิตี้, เวสต์แฮม

4 คู่ (8 ทีม) ที่จะลงเตะ Gameweek 26 กันก่อน ค่อยไปพักยาว 2 สัปดาห์
(Source : Fantasy Premier League)

8 ทีมที่ว่านี้ จะลงเตะ Gameweek 26 ต่อเนื่องเลยในวันที่ 8-9 ก.พ. ก่อนจะพักยาว 2 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมาเตะ Gameweek 27 ในวันที่ 22-24 ก.พ. กันอีกที

กลุ่มพักก่อนเตะ (12 ทีม) :
วูล์ฟ, เลสเตอร์, เซาธ์แธมป์ตัน, เบิร์นลี่ย์, นอริช, ลิเวอร์พูล, วิลล่า, สเปอร์, อาร์เซน่อล, นิวคาสเซิล, เชลซี, แมนฯ ยู

อีก 6 คู่ (12 ทีม) จะพักเบรกกัน 2 สัปดาห์ก่อน แล้วค่อยมาเตะ Gameweek 26 กันทีหลัง
(Source : Fantasy Premier League)

12 ทีมที่ว่านี้ จะได้พักนาน 2 สัปดาห์ และค่อยกลับมาลงเล่น Gameweek 26 กันในคืนวันที่ 14-17 ก.พ. (มีคู่เตะคืนวันศุกร์ และคืนวันจันทร์ด้วย) และเตะ Gameweek 27 กันต่อเลย ในวันที่ 22-24 ก.พ.

นั่นจึงเป็นที่มา ของเรื่องดราม่าระหว่างลิเวอร์พูล กับเอฟเอ (จริงๆ ทีมอื่นอย่างสเปอร์, เซาธ์แธมป์ตัน, นิวคาสเซิล ก็เข้าข่าย) เพราะโปรแกรมเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์ จะเตะกันในคืนวันที่ 4-5 ก.พ. ซึ่งพวกเขาเริ่มต้นการเบรกหนีหนาวกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการไปเข้าแคมป์เก็บตัว หรือปล่อยให้นักเตะอยู่กับครอบครัว

“เจอร์เก้น คลอปป์” ออกมายืนยัน ว่าจะไม่ส่งชุดใหญ่ลงเล่นเอฟเอ คัพ ในช่วงเบรกหนีหนาว
(Source : BBC)

ใครผิดใครถูก อะไรควรหรือไม่ควร อันนี้คงไม่ใช่เรื่องของเราที่จะไปตัดสิน สิ่งที่เราต้องเตรียมพร้อมให้ดี คือทำความเข้าใจโปรแกรมแต่ละ Gameweek ช่วงนี้ให้ดี เพราะมันจะเป็นประโยชน์ในการจัดทีมแฟนตาซีของเรา ในช่วงเดือน ก.พ. ซึ่งถือเป็นโค้งท้ายๆ ก่อนจะเข้าทางตรงตัดสินผลของฤดูกาล

Picture : Fantasy Premier League, Vbet News, Premier League, Football365, Chronicle Live, 90Min, Sportskeeda, Yahoo News, The National, The Anfield Wrap, My Knowledge Tips, Yahoo News, FantasyBet, All Out Football, talkSPORT, BBC

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save