สำหรับ บาร์เซโลน่า กับ นักเตะชาวโปรตุเกส นั้น เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมานานหลายยุคหลายแล้ว โดยขุนพลเลือดฝอยทองหลายๆคนมีส่วนร่วมไม่มากก็น้อยที่ทำให้พลพรรค “อาซูลกราน่า” ประสบความสำเร็จ

        ผู้เล่นชาวโปรตุกีสชื่อดังเหล่านี้ เคยมีช่วงเวลาในถิ่นคัมป์ นู โดยบางคนสร้างชื่อจนกลายเป็นตำนานของสโมสร และบางคนก็ล้มเหลวจนต้องอำลาทัพ “เจ้าบุญทุ่ม” ไปแบบไม่น่าจดจำนัก

1. เฟอร์นานโด คูโต้

       ย้อนกลับไปในปี 1996 คูโต้ วัย 27 ปี ย้ายจาก ปาร์ม่า ไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ด้วยสัญญายาว 4 ปี ในยุคที่  เซอร์ บ็อบบี ร็อบสัน ตำนานผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ กำลังกุมบังเหียนในถิ่นคัมป์ นู โดยในปีแรกเขามีอาสลงสนามให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ไปรวมทุกรายการ 35 เกม

        ในฤดูกาลต่อมา ร็อบสัน โดนปลดจากตำแหน่ง และ หลุยส์ ฟาน กัล โค้ชชาวดัตช์ เข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่ง คูโต้ ก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนักโดยเล่นไป 25 เกม จากนั้น ในช่วงซัมเมอร์ อดีตกองหลังทีมชาติโปนตุเกสก็ถูกขายให้กับ ลาซิโอ ก่อนที่เขาจะกลับไปค้าแข้งกับ ปาร์ม่า อีกครั้งในช่วงปลายอาชีพ และแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2008

        ตลอด 2 ปี กับ บาร์เซโลน่า คูโต้ คว้าแชมป์ลาลีกา 1 สมัย, โคปา เดย์ เลย์ 2 สมัย, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ 1 สมัย และ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย

2. วิคตอร์ บาย่า

       บาย่า ย้ายไปเฝ้าเสาในถิ่นคัมป์ นู ปีเดียวกับ เฟอร์นานโด คูโต้ แถมทั้งคู่ยังอยู่กับ บาร์เซโลน่า เป็นเวลา 2 ฤดูกาลเหมือนกันอีกด้วยก่อนที่ อดีตนายด่านทีมชาติโปรตุเกส จะย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับสโมสรที่ปั้นเขามาอย่าง เอฟซี ปอร์โต้

ตลอด 2 ปี กับ บาร์เซโลน่า บาย่า ลงเล่นไปรวมทุกรายการ 50 เกม อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลที่ 2 ภายใต้การนำของเทรนเนอร์ หลุยส์ ฟาน กัล นั้น เขาต้องตกเป็นมือ 2 ของ รุด เฮสป์ โกล์ชาวฮอลแลนด์ และมีโอกาสลงสนามไปเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น

3. หลุยส์ ฟิโก้

       หนึ่งในนักเตะโปรตุเกสที่เป็นตำนานของ บาร์เซโลน่า และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สาวก “เจ้าบุญทุ่ม” เกลียดที่สุดเลยก็ว่าได้ โดย ฟิโก้ ย้ายจาก สปอร์ติง ลิสบอน ในบ้านเกิดมาเล่นในถิ่นคัมป์ นู เมื่อปี 1995 พร้อมกับแจ้งเกิดได้อย่างสุดยอด

        ตลอด 5 ปีกับสโมสร ฟิโก้ กลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของ บาร์ซ่า เขาโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการลงสนามไปมากถึง 249 เกมรวมทุกรายการ ซัดไป 45 ประตู พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย, โคปา เดย์ เลย์ 2 สมัย, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ 1 สมัย และ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย

        อย่างไรก็ตาม ในปี 2000 อดีตปีกทีมเลือดฝอยทอง สร้างความโกรธแค้นให้กับแฟนบอล บาร์เซโลน่า อย่างมากหลังย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด คู่อริตลอดกาล จนสาวก บาร์ซ่า ตราหน้าเขาว่า เป็นคนทรยศ และถึงขนาดปาหัวหมูลงมาในสนามใส่ ฟิโก้ ในเกมที่กลับมาเยือนถิ่นคัมป์ นู เมื่อปี 2002  

4. ซิเมา ซาโบรซ่า

       ซิเมา ได้รับการคาดหมายจากแฟนบอลว่า จะเป็น “หลุยส์ ฟิโก้ คนใหม่” แห่งถิ่นคัมป์ นู เนื่องจากเขามีเส้นทางอาชีพที่เติบโตจากอคาเดมี่ของ สปอร์ติง ลิสบอน เหมือนกัน หลังย้ายมาเล่นกับ “เจ้าบุญทุ่ม” ในปี 1999

        อย่างไรก็ตาม ซิเมา ไม่สามารถแบกรับความคาดหวังอันมหาศาลได้ เขาฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหาย และอยู่กับ บาร์เซโลน่า ได้เพียง 2 ปี ลงเล่นไป 70 เกม ยิงไปเพียง 4 ลูกเท่านั้น ก่อนจะโดนขายให้กับ เบนฟิก้า ในปี 2001

5. ริคาร์โด้ กวาเรสม่า

       อีกหนึ่งอดีตดาวรุ่งมากพรสวรรค์ชาวโปรตุเกสที่ถูกวางตัวให้เป็นทายาทของ หลุยส์ ฟิโก้ ซึ่งหากมองตามความจริงมันก็อดไม่ได้ที่แฟนบอล บาร์เซโลน่า จะคาดหวังว่า กวาเรสม่า จะกลายเป็น “ฟิโก้ คนใหม่” ของพวกเขา

        กวาเรสม่า เป็นเด็กปั้นของ สปอร์ติง ลิสบอน ก่อนจะย้ายมายัง บาร์เซโลน่า ในปี 2003 แต่สไตล์การเล่นที่มักโดนวิจารณ์ว่า เป็นบอลชายเดี่ยว นั้น ดูไม่เข้ากับแท็คติคของ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด เทรนเนอร์ชาวดัตช์ ที่เน้นทีมเวิร์คเป็นหลัก

        ในซัมเมอร์ปี 2004 มันไม่มีอะไรที่เกินความคาดหมายนัก กวาเรสม่า ถูกขายให้กับ เอฟซี ปอร์โต้ หลังอยู่กับ บาร์เซโลน่า ได้เพียงปีเดียว

6. เดโก้

       เดโก้ ย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ มาเล่นกับ บาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด เมื่อปี 2004 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นยุครุ่งเรืองของ “เจ้าบุญทุ่ม” เลยก็ว่าได้ เนื่องจากในทีมชุดนั้นมียอดนักเตะระดับท็อปอย่าง ชาบี, อันเดรส อิเนียสต้า, โรนัลดินโญ่, ลิโอเนล เมสซี่ และ ซามูเอล เอโต้

        เพลย์เมคเกอร์ชาวโปรตุเกส กลายเป็นตัวสร้างสรรค์เกมคนสำคัญของ บาร์เซโลน่า ในเวลานั้นทันที เขาแทบไม่ต้องปรับตัวกับระบบทีมของ ไรจ์การ์ด เลย โดย เดโก้ อยู่ในถิ่นคัมป์ นู นานถึง 4 ปี ลงเล่นไป 161 เกม ซัดไป 20 ประตู

       ในซัมเมอร์ปี 2008 เดโก้ อำลาถิ่นคัมป์ นู ย้ายไปเล่นกับ เชลซี พร้อมกับฝากความสำเร็จในสีเสื้อ บาร์เซโลน่า ด้วยแชมป์ลาลีกา 2 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

7. อังเดร โกเมซ

       โกเมซ เป็นอดีตหนึ่งแข้งเลือดฝอยทองที่ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังกับ บาร์เซโลน่า หลังย้ายจาก บาเลนเซีย มาเล่นกับ “เจ้าบุญทุ่ม” เมื่อซัมเมอร์ปี 2016 ในยุคกุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์

       มิดฟิลด์วัย 27 ปี อยู่กับ บาร์เซโลน่า ได้เพียง 2 ฤดูกาล ลงเล่นไป 78 เกม และยิงไปแค่ 3 ประตูเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยให้กับ เอฟเวอร์ตัน ยืมตัวไปใช้งานเมื่อปี 2018 จากนั้น “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ก็ยอมทุ่มเงิน 22 ล้านปอนด์ คว้าตัว โกเมซ ไปร่วมทีมถาวรในปีต่อมา

8. เนลสัน เซเมโด้

       หลังสูญเสีย ดานี อัลเวส อดีตยอดแบ็คขวาทีมชาติบราซิล ไป บาร์เซโลน่า ก็เจอกับปัญหาเรื้อรังในตำแหน่งดังกล่าวทันที และ เซเมโด้ ก็ถูกคว้าตัวมาเมื่อปี 2017 เพื่ออุดรอยรั่วตรงนั้น ซึ่งแบ็คชาวโปรตุกีส ก็ทำผลงานได้เสมอตัว

        เซเมโด้ ลงเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ไป 124 เกม ซัดไป 2 ประตู ก่อนจะโดนขายให้กับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ด้วยค่าตัวราว 30 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2020

9. ฟรานเชสโก้ ตรินเกา

       อีกหนึ่งดาวรุ่งมาแรงคนล่าสุดของวงการลูกหนังโปรตุเกส ตรินเกา ถูก บาร์เซโลน่า ทุ่มเงิน 30 ล้านยูโร คว้าตัวมาจาก บราก้า เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2020 และในวัยเพียง 20 ปี เขามีโอกาสลงเล่นในให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ในฤดูกาลใหม่นี้ภายใต้การนำของ โรนัลด์ คูมัน โค้ชชาวดัตช์ ไปแล้วถึง 6 เกม

สำหรับ ตรินเกา นั้น เขาเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ในแนวรุกเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์รุก, ตัวริมเส้น และกองหน้าตัวกลาง ซึ่งอนาคตของเขากับ บาร์เซโลน่า นั้น ดูค่อนข้างจะสดใสอยู่มากทีเดียว

Photo : mundodeportivo.com, insider.com, as.com, fcbtransfers.blogspot.com, fcbarcelonanoticias.com, 90min.com, lapelotita.com, zerozero.pt