เรื่องสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์สักคัน ไม่ใช่แค่ความเท่ห์ หรือความเร็วแรงของตัวรถเสมอไป อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญก็คือรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน ที่เราเห็นได้ชัดเจนในแต่ละ segment ของรถต่างก็ต้องมีตัวเลือกที่เป็นแบบประหยัดน้ำมันหรือพลังงานขึ้น โดยในตอนนี้เองรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพลังงานทางเลือกที่เริ่มมีความนิยมทั่วโลกมากขึ้น. วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาดูกันว่ารถยนต์ไฟฟ้าคุ้มค่าพอที่จะเปลี่ยนหรือไม่
เรามาลองดูค่าใช้จ่ายของรถยนต์ที่เติมน้ำมันกันก่อน เราจะเห็นว่า ราคาถูกที่สุดในประเทศไทย ณ ตอนนี้คือ E85 ที่มีราคาอยู่ที่ 17.89 บาท/ลิตร และน้ำมันที่นิยมในบ้านเรา แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ที่มีราคาอยู่ที่ 21.18 และ 21.45 บาท/ลิตร ตามลำดับ.
เราลองมาคำนวณกันดูว่าถ้าเราเลือกใช้รถยนต์เติมน้ำมันแล้วในระยะทาง 100 กิโลเมตรเราจะเสียค่าน้ำมันไปเท่าไหร่ ?
- รถยนต์ที่มีอัตราสิ้นเปลือง 23 กิโลเมตร/ลิตร ใน 100 กิโลเมตร = 94 บาท เมื่อเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 78 บาท เมื่อเติมน้ำมัน E85
- รถยนต์ที่มีอัตราสิ้นเปลือง 15 กิโลเมตร/ลิตร ใน 100 กิโลเมตร = 154 บาท เมื่อเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 120 บาท เมื่อเติมน้ำมัน E85
- รถยนต์ที่มีอัตราสิ้นเปลือง 14 กิโลเมตร/ลิตร ใน 100 กิโลเมตร = 154 บาท เมื่อเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 128 บาท เมื่อเติมน้ำมัน E85
- รถยนต์ที่มีอัตราสิ้นเปลือง 10 กิโลเมตร/ลิตร ใน 100 กิโลเมตร = 215 บาท เมื่อเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 179 บาท เมื่อเติมน้ำมัน E85
- รถยนต์ที่มีอัตราสิ้นเปลือง 7 กิโลเมตร/ลิตร ใน 100 กิโลเมตร = 307 บาท เมื่อเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 256 บาท เมื่อเติมน้ำมัน E85
สิ่งแรกที่เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนคือ รถยนต์ไฟฟ้าในตอนนี้มีทั้งหมด 4 รูปแบบคือ
1. Battery Electric Vehicles รถยนต์ที่ใช้งานพลังงานไฟฟ้า 100%
2. Plug-in Hybrid Electric Vehicles รถยนต์ที่ใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่อยนต์สันดาปควบคู่กัน แต่พึ่งการชาร์จมอเตอร์ในการขับเคลื่อนผ่านการเสียบชาร์จแบบเดียวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%
3. Hybrid Electric Vehicles รถยนต์ที่ใช้มาพร้อมกับมอเตอร์ที่ช่วยในการขับขี่ โดยใช้เครื่องยนต์สันดาปในการปั่นพลังงานเพื่อส่งไปให้มอเตอร์ไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้าก็จะส่งพลังงานไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่
4. Fuel Cell Electric Vehicles รถยนต์ประเภทนี้คือการใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาดเต็มรูปแบบโดยไม่จำเป็นต้องเสียบชาร์จจากภายนอกหรือนำเครื่องยนต์สันดาปมาปั่นพลังงานในการทำงานซึ่งยังอยู่ในช่วงการพัฒนาอยู่ในตอนนี้
การชาร์จไฟของรถยนต์ไฟฟ้า 1kW ตกอยู่ที่ 2หน่วย โดยค่าไฟในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 4 บาท เมื่อเราลองคำนวณจากรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่ขนาด 40kWh ที่สามารถวิ่งไกลได้ 300 กิโลเมตร เท่ากับว่า ต่อการชาร์จ 1 ครั้งตกเป็นจำนวนเงิน 160 บาท. และถ้าในหนึ่งเดือนเราวิ่งต่ำสุดอยู่ที่ 2,200 กิโมเมตรนั้นหมายความว่าเราเราจะเสียค่าใช้ต่ายในการชาร์จพลังงานไม่เกิน 1,200 บาทเท่านั้น.
เราอาจจะเห็นได้ว่าในเรื่องของการเติมพลังงานนั้นรถยนต์ไฟฟ้าจะใช้ค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าก็จริง แต่เรื่องของตัวรถยนต์ที่มีราคาสูงกว่ามากแบบเห็นได้ชัดในประเทศไทยเองทำให้รถยนต์ไฟฟ้ายังคงไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย รวมไปถึงสถานีเติมพลังงานไฟฟ้าเองที่ยังไม่แพร่หลาย ทำให้การเลือกใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในตอนนี้อาจยังคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ในการใช้งานเป็นรถคันเดียวของบ้าน.
ซึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่สนใจในการเล่นรถยนต์ไฟฟ้าแล้วละก็ ณ ตอนนี้ Plug-in Hybrid เป็นตัวเลือกในการใช้งานที่ดีเลยก็ว่าได้ในบ้านเรา ณ ตอนนี้ จากราคาที่สมเหตุสมผล และสมรรถนะของรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100%