กลายเป็นข่าวช็อควงการฟุตบอล หรือจะเรียกว่าวงการบุคคลสำคัญของโลกเลยก็ว่าได้ กับการจากไปของ “ดิเอโก้ อาร์มันโด มาราโดน่า” อัจฉริยะลูกหนังของโลก ซึ่งถูกยกย่องเทียบเคียงกับ “เปเล่” มาตลอด ไม่ว่าฟุตบอลจะพัฒนาสู่ยุคโมเดิร์นแค่ไหนก็ตาม
มาราโดน่า ซึ่งงานเกี่ยวกับฟุตบอลงานสุดท้ายคือการคุมทีม “จิมเนเซีย เดอ ลา พลาต้า” สโมสรในลีกบ้านเกิด มีอาการป่วยและต้องผ่าตัดสมองเร่งด่วนเมื่อต้นเดือน พ.ย. นี้ และกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นหลังการผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี
อย่างไรก็ดี มีข่าวรายงานด่วนมาในช่วงดึกคืนวันพุธที่ 25 พ.ย. ตามเวลาบ้านเรา ว่าเขาเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ภายในบ้านพักที่เมืองติเกร ประเทศอาร์เจนติน่า
ข่าวการเสียชีวิตของ “เสือเตี้ย” สร้างความโศกเศร้าให้กับทุกคนในวงการลูกหนังโลก โดยแต่ละคนได้ใช้ช่องทางโซเชียล มีเดียของตัวเอง แสดงความอาลัย และกล่าวถึงหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยเราขอหยิบเอาคำพูดบางช่วงบางตอนของบุคคลสำคัญ มาให้ได้อ่านระลึกถึงเขากันตรงนี้
เปเล่ : ตำนานลูกหนังชาวบราซิล ผู้ถูกตั้งคำถามมาตลอดว่าเขาหรือมาราโดน่า ใครยอดเยี่ยมกว่ากัน
“ผมสูญเสียเพื่อนที่ยิ่งใหญ่ ส่วนโลกสูญเสียตำนานไป”
“มันมีหลายสิ่งหลายอย่างเหลือเกิน ที่อยากพูด แต่สำหรับตอนนี้ ขอให้พระเจ้ามอบความเข้มแข็งให้กับครอบครัวมาราโดน่าทั้งหมด”
“ซักวันนึง ผมหวังว่า เราจะได้เล่นฟุตบอลด้วยกันอีกครั้งบนสวรรค์”
ลิโอเนล เมสซี่ : ยอดแข้งในโลกลูกหนังปัจจุบัน ผู้ซึ่งมาราโดน่าเคยพูดไว้เมื่อ 14 ปีก่อน ว่าเมสซี่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนของเขาในทีมชาติอาร์เจนติน่า
“มันเป็นวันน่าเศร้าสำหรับชาวอาร์เจนไตน์ทุกคน และสำหรับฟุตบอล”
“เขาจากไป แต่ไม่ได้หายไปไหน เพราะเขาจะเป็นนิรันดร์”
ครีสเตียโน่ โรนัลโด้ : อีกหนึ่งสุดยอดนักเตะในโลกปัจจุบัน ที่คิดว่ามาราโดน่าเป็นตำนานของทุกผู้ทุกคนในโลก
“วันนี้ ผมคงต้องบอกลาเพื่อน ส่วนโลก พวกเขาต้องบอกลาอัจฉริยะตลอดกาล”
“หนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ต่างจากนักมายากล”
“เขาจากไปเร็วไปหน่อย แต่ได้ทิ้งความยอดเยี่ยมไว้เป็นมรดก ที่ไม่สามารถทดแทนได้”
“ไปสู่สุขคติ เราจะไม่มีวันลืมคุณ”
เป๊บ กวาดิโอล่า : อดีตนักเตะลูกหม้อบาร์เซโลน่า ผู้เคยติดสอยห้อยตามพ่อไปชมฝีเท้ามาราโดน่าที่คัมป์นู ถึงจะเป็นเวลาไม่นาน เพราะมาราโดน่าบาดเจ็บหนัก และเมื่อเขาเข้าเป็นนักเตะอคาเดมี่ มาราโดน่าก็ย้ายไปนาโปลีเสียแล้ว
“เขามอบความสุข และทำให้ฟุตบอลดีขึ้นกว่าที่เคยเป็น”
“สิ่งที่เขามอบให้นาโปลี และทีมชาติอาร์เจนติน่าในปี 1986 เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ”
“พักผ่อนให้สบาย ในฐานะของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขอมอบกอดแด่ครอบครัวของเขา”
“บนสนาม เขาไม่เหมือนใคร เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวแห่งยุค, มันเป็นข่าวที่เศร้ามาก”
เจอร์เก้น คล็อปป์ : กุนซือชาวเยอรมัน ที่ยอมรับว่ามาราโดน่ามีส่วนสำคัญในชีวิตของเขาแทบจะทั้งชีวิต
“ผมอายุ 53 ปี ดังนั้นเขาอยู่ในชีวิตผมทั้งชีวิต”
“ตอนที่ผมยังเด็ก อาจจะซัก 8, 9 หรือ 10 ขวบ ผมได้เห็นการเล่นเขาครั้งแรก ตอนนั้นเขาอายุ 16 หรือ 17 นี่แหละ”
“ในทุกวีดีโอ ลีลาการเล่นกับบอล ในตอนนั้นเขาเปรียบเหมือน “ผู้เล่นที่แท้จริง” สำหรับผม”
“หากคุณต้องการคำตอบ – ผมคิดว่าเปเล่, มาราโดน่า, เมสซี่ คือที่สุดในระดับชาติ”
“ผมได้ดูสารคดีของมาราโดน่าเมื่อไม่นานนี้ ดิเอโก้เป็นทั้งคนที่สนุกสุดเหวี่ยง แต่มีหลายครั้งที่เขาต้องกัดฟันดิ้นรน”
“หากจะให้พูด, ผมคงคิดถึงเขาในทั้ง 2 แบบ”
เดวิด เบ็คแฮม : อีกหนึ่งไอคอนฟุตบอลยุคโมเดิร์น ซึ่งรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ที่มาราโดน่าทิ้งไว้
“วันน่าเศร้าของอาร์เจนติน่า และวันที่น่าเศร้าของโลกฟุตบอล หากเราระลึกถึงสิ่งที่ชายคนนี้ทำเอาไว้ให้พวกเรา”
“เขาคือคนที่เล่นด้วยแพสชั่น, สปิริต และไม่มีอะไรอธิบายได้มากกว่าคำว่า อัจฉริยะที่แท้จริง”
“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่เคยได้พบดิเอโก้ และหวังว่าเขาจะไปสู่สุคติ”
เอียน รัช : ตำนานศูนย์หน้าชาวเวลส์ของลิเวอร์พูล ซึ่งเคยปะทะฝีเท้ากับมาราโดน่า ระหว่างตัวเขาค้าแข้งกับยูเวนตุส และมาราโดน่าอยู่นาโปลี
“พูดไม่ออก! ผมจะจำสิ่งสุดท้ายที่คุณพูดกับผม!!”
“หลับให้สบายเพื่อนของผม! สำหรับผม คุณเป็นที่สุดเสมอ”
รัชเคยเล่าไว้ว่า นาโปลีเคยอยากเซ็นเขาไปร่วมทีมเดียวกับมาราโดน่า แต่ลิเวอร์พูลไม่อยากปล่อยตัวเขา โดยทั้งคู่เคยเล่นกันในแมทช์รวมดารา และครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้เจอกัน มาราโดน่าเคยมาตอบ เมื่อรัชโพสท์รูปคู่ลงโซเชียล
มาราโดน่า reply ในคอมเมนท์ว่า :
“ผมสนุกมาก ที่เคยร่วมทีมกับคุณตอนทัวร์ เราเปรียบเหมือนคู่หูที่ไม่มีใครหยุดได้!”
“ขอบคุณมากๆ นะเอียน, ผมยอมรับและชื่นชมคุณเสมอเพื่อน!”
“ผมชอบรูปคู่นี้มาก”
พอล แกสคอยน์ : อดีตมิดฟิลด์พรสวรรค์ทีมชาติอังกฤษ ที่เคยดวลกับมาราโดน่าในระดับสโมสร เมื่อครั้งเขาค้าแข้งให้ลาซิโอ ส่วนมาราโดน่าอยู่ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งกับเซบีญ่า
“มันเป็นข่าวเศร้าสำหรับทุกคนในวงการกีฬา”
“ผมเคยรู้จักเขาเป็นการส่วนตัว ยังจำได้ตอนที่เราอยู่ด้วยกันนอกโรงแรม”
“ผมพูดว่า ขอยืมไฟแช็คหน่อยได้มั้ย? แล้วถึงเห็นว่าคนที่คุยด้วยคือดิเอโก้! ผมล่ะขำก๊ากเลย”
“ผมเคยเล่นกับเขาตอนที่ลาซิโอ เจอกับเซบีญ่า”
“ผมยิงได้ แล้วบอกเขาว่า “ดิโอโก้ โชว์ให้ดูหน่อยซิ” เขาขยิบตาตอบกลับ”
“แล้วหลังจากนั้นเขาก็ทำประตูได้จากฟรีคิก เป็นประตูที่โคตรสวย”
“ขอส่งความระลึกถึงไปยังครอบครัวเขา RIP นะดิเอโก้ คุณจะเป็นที่คิดถึงแน่นอน”
อังเดร วิลลาส โบอาส : กุนซือมาร์กเซย ที่ออกมาให้ไอเดียที่ยิ่งใหญ่ ถึงสิ่งที่ฟุตบอลควรทำเพื่อมาราโดน่า
“ผมอยากให้ฟีฟ่ายกเลิกหมายเลข 10 ในทุกการแข่งขัน ทุกทีม”
“มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่เราจะทำเพื่อคารวะเขา”
“เขาเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของโลกของฟุตบอล”
เคลาดิโอ คานิกเกีย : คู่หูคนสำคัญในทีมชาติอาร์เจนติน่า และโบคา จูเนียร์ ของมาราโดน่า
“ผมเสียใจอย่างที่สุดกับข่าวร้ายนี้ เขาเป็นพี่น้องทางจิตวิญญาณกับผม”
“ผมหวังว่าพวกคุณจะเข้าใจ ผมไม่รู้จะพูดอะไรตอนนี้”
“ผมแค่อยากจะบอกครอบครัวของเขาว่า ผมร่วมแชร์ความเจ็บปวดนี้ด้วยเช่นกัน”
โลธาร์ มัทเธอุส : ตำนานลิเบอโร่ชาวเยอรมัน ผู้เคยเล่าว่า มาราโดน่าเคยพยายามติดต่อทุ่มเงินเพื่อดึงเขาไปเล่นที่นาโปลี โดยการเสนอเงินสดเป็นค่าเซ็นสัญญา (สมัยก่อนยังไม่ค่อยมีค่าเซ็นสัญญาแยก) ซึ่งมัทเธอุสปฏิเสธมัน แต่ยอมรับว่าดีใจอย่างมาก ที่มาราโดน่าชื่นชมเขาขนาดนั้น
“บนสนาม มันคือเวทมนตร์”
“ตอนที่เขามายังมิวนิค เพื่อเล่นนัดอำลาสนามของผม มันมีความหมายกับผมอย่างมาก”
“ผมเองก็ถูกเชิญไปร่วมนัดอำลาสนามของเขาเหมือนกัน”
“มันบ่งบอกทุกอย่างถึงความรู้สึกระหว่างเรา เป็นความเคารพอย่างยิ่ง”
ย้อนพูดถึงผลงานอันแสนมหัศจรรย์ มาราโดน่าคือผู้ที่แบกทีมชาติอาร์เจนติน่า จนสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโก ต่อด้วยการพาทีมเข้าชิงชนะเลิศอีกหนในครั้งถัดมาที่อิตาลี (1990) ก่อนจะพ่ายให้กับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน ไปหวุดหวิด
ว่ากันว่าทั้ง 2 ครั้งที่ทีม “ฟ้าขาว” เข้าชิง มาราโดน่าร่ายฝีเท้าดั่ง “เทพพระเจ้า” อยู่เหนือราชานักเตะทั้งมวลรวมถึงเปเล่ ที่มีองค์ประกอบครบถ้วนกว่าเขามาก ในยุคคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 3 สมัยก่อนยุค 70
ถึงหลายครั้งเขาจะแสดงความสุดโต่ง และเรื่องอื้อฉาวออกมา ไม่ว่าจะเป็นประตู “แฮนด์ ออฟ ก็อด” ใส่อังกฤษ หรือการไม่ผ่านการตรวจโด๊ปในฟุตบอลโลก 1994
แต่ลีลาบนพื้นสนามหญ้าสีเขียว ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาคือ “ที่สุดของที่สุด” อย่างการโซโล่เข้าไปยิงอังกฤษ ในแมทช์เดียวกับการใช้มือทำประตูอันลือลั่น ดังนั้นจึงไม่แปลก หากใครจะนิยามถึงเขาว่า มี “เทวา” และ “ซาตาน” อยู่ในร่างเดียว
เรื่องราวของ “เสื้อเตี้ย” หรือ “ดิเอโก้ มาราโดน่า” สิ้นสุดลงแล้วในวัย 60 ปี พิธีศพของเขาจะถูกจัดอย่างสมเกียรติ รัฐบาลอาร์เจนติน่าประกาศให้ทั่วประเทศไว้อาลัย 3 วัน ถือเป็นการให้ความเคารพแก่ตำนานคนสำคัญ ที่เคยทำให้คนทั้งประเทศมีความสุขสุดขีด และคนทั้งโลกต้องตื่นตะลึง
RIP Diego Armando Maradona
1960 – 2020
Picture : Sportsnet, Eurosport, Scroll.in, La Vanguardia, RT, Pinterest, Daily Express, AS USA, These Football Times, The Empire of The Top, AS English, The Independent, NewsWep, FIFA, Goal.com, Telegraph, beIN SPORTS, Sportschau