คาร์ลอส โรอา : บอลโลก, ศาสนา, โรคมะเร็ง และวันโลกแตก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
คาร์ลอส โรอา : บอลโลก, ศาสนา, โรคมะเร็ง และวันโลกแตก

วันก่อนได้มีโอกาสเขียนย้อนเกี่ยวกับอดีตที่ผ่านมาของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ก็มาย้อนนึกดูว่าเราเคยเชียร์ทีมอื่นนอกเหนือจากพวกเขาบ้างหรือเปล่า?

ก็ได้คำตอบมาพอสมควร ว่าสมัยก่อนก็เคยชื่นชอบ ดอร์ทมุนด์ จากที่เคยดูสมัยช่อง 3 ถ่ายทอดสด เพราะชุดสวย, เคยปลื้มปาร์ม่า เพราะนอกจากจะเสื้อสวย ยังมีนักเตะน่าเชียร์หลายคน หรือเคยชอบเจฟ ยูไนเต็ด อิชิฮาร่า ก็เพราะสีเสื้อ และเคยเล่นตอนวินนิ่งเวอร์ชั่นเจลีก

นอกเหนือจากสโมสรต่างๆ ที่นิยมชมชอบผ่านการดู และเล่นเกม ฟุตบอลทีมชาติก็เป็นอีกหมวดหมู่ ที่เรามักจะหาทีมเชียร์กันตอนฟุตบอลโลก หรือยูโร ซึ่งทำให้นึกย้อนไปว่า ผมเคยชื่นชอบ “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนติน่า อยู่หลายสมัยเลย ติดตามมาตั้งแต่ “ดิเอโก้ มาราโดน่า” จนมาถึงบอลโลกปี 1998 ที่มีนักเตะน่าเชียร์หลายคน ทั้งบาติสตูต้า, ซาเน็ตติ, ออร์เตก้า หรือเวรอน จอมทัพคนเก่ง

ติดตามเชียร์อาร์เจนติน่า ตาม “เสือเตี้ย” ดีเอโก้ มาราโดน่า มาหลายสมัย
(Source : Mundo Albiceleste)

อีกคนที่หากเราไม่นึกถึง ก็เกือบลืมเขาไปเหมือนกัน เขามีชื่อว่า “คาร์ลอส โรอา” ผู้รักษาประตูที่ก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์ที่ฝรั่งเศส ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ก่อนมาสร้างชื่อด้วยฟอร์มอันเหนียวแน่น โดยมีนัดที่แฟนบอลทั่วโลกจดจำกันได้ คือการเซฟจุดโทษ ช่วยให้ยอดทีมจากอเมริกาใต้ ชนะอังกฤษไปได้

ความจริงแล้ว ว่าด้วยบุคลิก และฝีมือในการเฝ้าเสา รวมถึงเส้นทางการค้าแข้ง โรอานั้นถูกจดจำได้บ้าง แต่ไม่มากมายน่าเล่านักหรอก แต่ถ้าพูดถึงเรื่องอื่นในชีวิตแกแล้ว บอกเลยว่าเอาไปเขียนหนัง หรือนิยายซักเรื่องได้เลย

“คาร์ลอส โรอา” ผู้รักษาประตูมือ 1 ของอาร์เจนติน่า ในฟร้องค์’98
(Source : Sports News)

โรอา เกิดที่เมืองซานตา เฟ่ เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของอาร์เจนติน่า โดยเขาเติบโต และเริ่มต้นเล่นอาชีพกับสโมสร “ราซิ่ง คลับ” หนึ่งในสโมสรใหญ่ของประเทศ ฝีมือแกดีมาตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง จนได้ประเดิมสนามในลีกสูงสุดด้วยวัยเพียง 19 ปี

นอกเหนือจากฝีมือที่ได้ติดตัวมาเป็นเหมือนพรสวรรค์แล้ว เรื่องอุปสรรคในชีวิต ก็ดูจะชอบพิสูจน์เส้นทางของโรอาอยู่เรื่อย เพราะหลังจากแจ้งเกิดได้ไม่นาน เจ้าตัวก็เกิดต้องเป็นมาลาเรียขึ้นมา หลังจากติดเชื้อมาจากการทัวร์ทวีปแอฟริกา เล่นเอาต้องรักษาตัวอยู่นาน เพราะมันสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตได้

โรอา ในสีเสื้อของ “ราซิ่ง คลับ” สโมสรแรกของเจ้าตัว
(Source : En Una Baldosa)

หลังฟื้นจากอาการป่วยหนัก และกลับมาลงเล่นได้สม่ำเสมอ โรอาก็เริ่มเตะตาในระดับทีมชาติ และก้าวขึ้นไปติดทีมชุดปรี-โอลิมปิก เมื่อตอนอายุ 22 ปี แต่น่าเสียดายที่ทีมฟ้า-ขาว ไปไม่รอด ทำให้โรอา อดไปโชว์ฝีมือในโอลิมปิกที่บาร์เซโลน่า ซึ่งอาจจะเป็นเวทีให้เขาไปเตะตาแมวมองจากลีกสเปน ที่มักนิยมนักเตะจากอเมริกาใต้

จากราซิ่ง คลับ โรอาย้ายไปอยู่กับ “ลานุส” และต้องใช้เวลาพักใหญ่เลย กว่าจะมีโอกาสก้าวขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ ก็เล่นเอาอายุตั้ง 27 แต่ก็โชคเข้าข้างเหมือนกัน เพราะมันเป็นรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1998 นั่นเอง

โรอา กับขุนพล “ฟ้า-ขาว” ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1998
(Source : Soccer Nostalgia)

เส้นทางของอาร์เจนติน่า ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะ 4 นัดแรก พวกเขาชนะแค่นัดเดียว นั่นทำให้กุนซือ “ดาเนียล พาสซาเรลล่า” ต้องปรับทีม โดยนอกเหนือจากให้โอกาสศูนย์หน้าดาวรุ่งจากปาร์ม่า ที่ชื่อ “เอร์นาน เครสโป” เขายังมอบตำแหน่งมือ 1 ให้โรอา ซึ่งโกล์โนเนมจากลานุส ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

ผลงานของทีมดีขึ้น เก็บแต้มได้ต่อเนื่อง ฟอร์มของโรอาก็เด่นชัดขึ้น จนในที่สุดเขาก็ได้ขยับขยายย้ายไปเล่นในยุโรปกับ “เรอัล มายอร์ก้า” ทีมน้องใหม่ของลาลีก้า ซึ่งกำลังจะมีกุนซือใหม่ที่ชื่อ “เฮคตอร์ คูเปร์”

โรอา ในสีเสื้อของ “เรอัล มายอร์ก้า” ทีมที่เขาประสบความสำเร็จสูงสุด
(Source : Diario AS)

ซีซั่นแรกของโรอากับมายอร์ก้า ไปได้สวย เขาเป็นกำลังสำคัญพาทีมน้องใหม่จบอันดับ 5 ในลาลีก้า แถมยังทะลุเข้าชิงโคป้า เดล เรย์ ก่อนจะพ่ายบาร์เซโลน่า ของ “หลุยส์ ฟาน กัล” หวุดหวิด จากการดวลจุดโทษตัดสินถึง 8 คน โดยคนที่ 5 ของมายอร์ก้า ก็คือโรอาเอง ซึ่งเขาสังหารไม่พลาด

มายอร์ก้า ในนัดชิงโคปา เดล เรย์ ปี 1998 คนข้างโรอา คือ “อีบัน คัมโป้” นั่นเอง
(Source : R.C.D. Mallorca)

นอกเหนือจากผลงานสโมสร ผลงานทีมชาติในรอบคัดเลือกบอลโลก ก็ไปได้สวย ทีมทะลุเข้าเล่นรอบสุดท้ายในฐานะอันดับ 1 ของโซนอเมริกาใต้ ซึ่งโรอาก็ยึดมือ 1 เหนียวแน่น ไปจนถึงรอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศส

รอบแรกของขุนพลฟ้า-ขาว ถือว่าสวยหรู พวกเขาเก็บ 9 แต้มเต็ม โดยโรอาสามารถเก็บคลีนชีตได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้ง 3 นัด ทะลุเข้ารอบน็อคเอาท์ เข้าไปเจอกับอังกฤษ

แมทช์กับทีม “สิงโตคำราม” ถือเป็นการแจ้งเกิดอีกขั้นของโรอา แม้เขาจะโดน “เบบี้โกล” ไมเคิล โอเว่น สอยประตู แต่ท้ายสุดเป็นอาร์เจนติน่า ที่มีจำนวนคนมากกว่า หลัง “เดวิด เบ็คแฮม” โดนไล่ออก ผ่านเข้ารอบไปได้ด้วยการชนะจุดโทษตัดสิน โดยโรอา เซฟลูกยิงของทั้ง “พอล อินซ์” และ “เดวิด แบ็ตตี้” ได้สำเร็จ

จังหวะเซฟจุดโทษ “เดวิด แบ็ตตี้” ที่พาอาร์เจนติน่า ผ่านอังกฤษไปได้
(Source : Goal.com)

ถึงแม้ท้ายสุด ขุนพล “ฟ้า-ขาว” จะต้องสิ้นสุดเส้นทางในรอบต่อไป เมื่อ 10 คนของพวกเขา โดนทีเด็ดลูกยิงงดงามของ “เดนนิส เบิร์กแคมป์” ในช่วงนาทีสุดท้าย พ่ายไป 1-2 แต่ก็ทำให้โรอา เป็นที่รู้จัก และเตะตาหลายสโมสรใหญ่ในยุโรป

ลูกยิงเปี่ยมทักษะของ “ไอซ์เบิร์ก” ที่หยุดเส้นทางในฟุตบอลโลกของ “ฟ้า-ขาว”
(Source : Daily Mail)

เสร็จทัวร์นาเมนท์ใหญ่ที่สุดในชีวิต โรอากับมายอร์ก้า ยังคงเดินหน้าสร้างผลงานระดับสุดยอดต่อไป เพราะทีมขยับอันดับขึ้นไปจบสูงถึงอันดับที่ 3 เป็นรองแค่บาร์ซ่า และเรอัล มาดริด

นอกจากผลงานในลีกกระฉูด มายอร์ก้ายังทะลุเข้าไปถึงรอบชิงในศึก “คัพ วินเนอร์ส คัพ” หนสุดท้าย ก่อนจะพ่ายให้กับ “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ ที่อุดมไปด้วยนักเตะเกรดเอ ทั้งเนสต้า, มิไฮโลวิช, เน็ดเวด, มันชินี่, ซาลาส, วิเอรี่ และเพื่อนร่วมชาติของโรอา อย่างอัลเมย์ด้า

โฉมหน้า “ลาซิโอ” คู่ชิงของมายอร์ก้า ซึ่งยอดทีมจากอิตาลี ชนะไป 2-1
(Source : ESPN)

กราฟชีวิตดูเหมือนกำลังจะพุ่งขึ้น จนมีข่าวหนาหูว่ามีหลายสโมสรอยากจะยื่นข้อเสนอซื้อตัวโรอา โดยชื่อทีมที่ดูชัดเจนในภายหลัง จากทั้งปากเจ้าตัว และสื่อต่างๆ อย่าง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ที่ว่ากันว่า เกือบจะยื่นเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านปอนด์ ดึงเขาไปร่วมทีม

อย่างไรก็ดี เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยง เพราะอยู่ดีๆ โรอาแกก็ประกาศขอเลิกเล่นฟุตบอล ด้วยเหตุผลว่า “โลกจะแตก” โอ้ว…

แม้กำลังอยู่ในช่วงพีค แต่โรอาก็ประกาศข่าวช็อคเลิกเล่น เพราะ “เดี๋ยวโลกก็แตก”
(Source : These Football Times)

แม้จะแขวนถุงมือทั้งที่ยังพีค แต่เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้คิดถึง หรือเสียดายเกี่ยวกับฟุตบอลเลยในเวลานั้น เขาแอบไปปลีกวิเวกอยู่กับครอบครัว ที่หมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองคอร์โดบ้า ประเทศสเปน ทำเพียงนั่งสมาธิ และเตรียมจิตใจให้พร้อมต่อสิ่งที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ดีเมื่อเวลาผ่านไปซักพัก ไม่รู้เพราะแกเปลี่ยนใจ หรือมีอะไรดลใจ โรอาตัดสินใจกลับมาสู่วงการฟุตบอลอีกครั้ง โดยระบุว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เขากลับมาเล่นกับสังกัดเดิมอย่างมายอร์ก้า

ช่วงเวลาที่แกหายตัวไป อะไรก็เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ทีมมีมือ 1 คนใหม่อย่าง “ลีโอ ฟรังโก้” นอกจากนั้นโรอาเอง ยังมีข้อแม้แปลกประหลาด เมื่อแกปฏิเสธเล่นแมทช์วันเสาร์ เพราะเป็นวันที่แกต้องไปโบสถ์ องค์ประกอบต่างๆ ทำให้การลงเล่นไม่สม่ำเสมอ และลดระดับย้ายไปลีกรองกับ “อัลบาเซเต้”

ในสีเสื้อ “อัลบาเซเต้” ทีมในลีก้า 2 ที่โรอาย้ายไปร่วมทีม
(Source : Football Arena Blog)

ทุกอย่างเหมือนจะกลับมาเข้ารูปเข้ารอย ถึงจะอยู่ลีกรอง แต่เขาก็มีความสุขดี จนกระทั่ง “มะเร็งอัณฑะ” มาเยี่ยมเยือนทดสอบแกอีกหน แต่เขาก็ผ่านมันมาได้ ด้วยทัศนคติว่า ทุกอย่างคือการทดสอบของพระเจ้า และแน่นอนว่ามันจะมีหนทางให้เขาผ่านไปได้

โรอาย้ายไปปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับ “โอลิมโป” ทีมในลีกรองของอาร์เจนตินา และระหกระเหินไปรับงานโค้ชกับสโมสรเล็กๆ มากมาย ทั้งในประเทศ และในสเปน

โรอา เคยสัมภาษณ์ถึงช่วงชีวิตตอนนั้นว่า เขารู้ว่ามันไม่ใช่สถานที่ที่เพอร์เฟคสำหรับการจะทำงานโค้ช แต่เขาก็รู้สึกตื่นเต้น ที่ได้สอนดาวรุ่ง และช่วยให้พวกเขาพัฒนา และเขาก็มีความสุขดีกับสิ่งที่เป็น แบบวันต่อวัน

โรอา กับงานปัจจุบัน โค้ชผู้รักษาประตูกับ “ซานโฮเซ่ เอิร์ธเควก” ในเมเจอร์ลีก
(Source : San Jose Earthquakes, International Sports Images)

ช่วงหลายปีหลัง จากการโค้ชทีมเล็กๆ ในลีกรอง โรอาก็ได้ขยับขยายไปเป็นโค้ชผู้รักษาประตู ให้กับหลายทีม อย่างริเวอร์เพลต กับแบนฟิลด์ ในอาร์เจนติน่า, กัวดาลาจาร่า ในเม็กซิโก และปัจจุบันกับ ซานโฮเซ่ เอิร์ธเควก ในศึกเมเจอร์ ลีก อเมริกา โดยติดสอยห้อยตามกุนซือ “มัตเตอัส อัลเมย์ด้า” เพื่อนเก่าที่เคยเล่นร่วมกันในทีมชาติอาร์เจนติน่า

แน่นอนว่าเรื่องราว นับจากแขวนถุงมือ เส้นทางของเขาไม่มีอะไรหวือหวา และถูกบอกเล่าจากสื่อนัก สิ่งที่เราจดจำ ก็คงมีในมุมความสามารถในช่วงเวลาสั้นๆ หรือเรื่องราวมากมายที่ทำให้เขาต้องสู้เพื่อมีชีวิต และเล่นฟุตบอลต่อ

แต่หากเราถอยออกมาซักก้าวจากเรื่องราวทั้งหมด แล้วลองมองดู ชีวิตของโรอา ก็ทำให้เรารู้ถึงคุณค่าของการ “ไม่ยึดติด” และปล่อยวางจากชื่อเสียงรอบตัว ได้ดีเหมือนกัน

โรอา ในช่วงที่ทำงานเป็นโค้ชให้สโมสรลีกเล็กๆ ซึ่งเขาบอกว่ามีความสุขดี
(Source : FourFourTwo)

เพราะทุกคำสัมภาษณ์ของเขา เขาไม่เคยเสียดายเส้นทางของตัวเองเลย เขาคิดว่าทุกสิ่งมีเหตุที่เกิด ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์เสมอ แค่โฟกัสกับสิ่งที่มีอยู่ และใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองเป็น จะเป็นที่จดจำแค่ไหน ในมุมใด เขาอาจจะยักไหล่ และมีความสุขกับที่มันเป็น แค่นั้นเอง

Picture : Yahoo Sports, San Jose Earthquakes, International Sports Images, Mundo Albiceleste, Sports News, En Una Baldosa, Soccer Nostalgia, Diario AS, R.C.D. Mallorca, Goal.com, Daily Mail, ESPN, These Football Times, Football Arena Blog, FourFourTwo

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save