เพื่อนๆ ทุกคนคงทราบกันดีว่าการนอนหลับอย่างมีคุณภาพนั้นจะส่งผลดีต่อสุขภาพของคนเราได้มากแค่ไหน การนอนหลับที่มีคุณภาพนั้นหมายถึงการที่ร่างกายเรามีระยะเวลาในการนอนหลับพักผ่อนแต่ละคืนอย่างเพียงพออยู่ที่คืนละ 6-8 ชั่วโมง และมีช่วงเวลาการหลับลึกที่ยาวนานพอคือประมาณ 4 ชั่วโมง ก็จะทำให้เราตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับความสดชื่น มีกำลังวังชา สมองปลอดโปร่งพร้อมรับวันใหม่
แต่การศึกษาวิจัยล่าสุดได้มีการค้นพบสิ่งที่น่าทึ่งจากการนอนหลับที่ดีมากไปกว่านั้นคือ มันจะสามารถช่วยชำระสารพิษตกค้างในสมอง และรักษาสมดุลต่างๆ ในร่างกายได้ด้วย ซึ่งกลไกเหล่านี้จะช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้ดี และทำให้ร่างกายเราแข็งแรง มีความสุขกับการใช้ชีวิตยิ่งขึ้น ซึ่งรายละเอียดการค้นพบนี้จะเป็นอย่างไร ลองมาติดตามอ่านกันเลยครับ
ค้นพบคลื่นบางอย่างที่มีประโยชน์ซึ่งสมองปล่อยออกมาขณะหลับลึก
งานวิจัยจากทีมนักประสาทวิทยาของมหาวิทยาลัยบอสตันในสหรัฐอเมริกา โดยมี ศ. ลอร่า ลูอิส เป็นหัวหน้าทีมวิจัยได้ค้นพบและทำการตีพิมพ์เผยแพร่ลงในวารสารวิชาการ Science ว่า ได้มีการค้นพบว่า “คลื่นเดลต้า” ที่สมองปล่อยออกมาขณะที่ร่างกายหลับลึกนั้นสามารถชำระล้างสารพิษตกค้างในสมองที่เกิดจากกระบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกายออกมาได้อย่างหมดจด เหมือนเป็นการล้างสมองให้สะอาดเลยทีเดียว ซึ่งจะช่วยบำรุงและป้องกันความเสื่อมของเซลล์สมองได้เป็นอย่างดี โดยคลื่นเดต้านี้เป็นคลื่นชนิดพิเศษความถี่ต่ำ จะปรากฏขึ้นในเวลาที่สมองมีการทำงานน้อยๆ เช่นเวลาหลับลึก หรือนั่งสมาธิเท่านั้น ดังนั้นการเข้าถึงคลื่นเดลต้านี้เป็นประจำจึงเป็นกุญแจสำคัญของทำให้ตัวเรามีความสดชื่น สดใส สมองดี มีพลังวังชา และมีสุขภาพที่ดี
กลไกการชำระล้างสารพิษ และสร้างสมดุลในร่างกายของคลื่นเดลต้า
คลื่นเดลต้านี้สามารถชำระล้างสารพิษ และบำรุงสมองขณะร่างกายหลับลึกผ่านกระบวนการกระตุ้นน้ำหล่อเลี้ยงในสมองและไขสันหลังให้ไหลเข้าไปกำจัดสารพิษตกค้างจากกระบวนการเผาผลาญที่ไม่สมบูรณ์ของร่างกาย ซึ่งกระบวนการเผาผลาญที่ไม่สมบูรณ์นี้มักเกิดขึ้นเสมอเมื่อเรามีอายุมากขึ้น โดยสารพิษดังกล่าวประกอบไปด้วยโปรตีนจำพวกเบตา-แอมีลอยด์ (Beta-Amyloid) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมชนิดต่าง เช่น อัลไซเมอร์ และพากินสัน นั่นเอง
นอกจากนี้ในงานวิจัยในยังได้ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างผู้เข้าร่วมงานวิจัย 13 คน ที่นักวิจัยให้พวกเขานอนหลับลึกในเครื่องสร้างภาพสมองสามมิติด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI พร้อมกับสวมหมวกตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) เพื่อทำการศึกษาสมองในเชิงกายภาพโดยตรง และทราบอิทธิพลของการหลับลึกที่มีต่อสมอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นแสดงให้เราเห็นว่าสมองได้ก่อเกิดคลื่นเดลต้าล้างสารพิษในสมองทุก 20 วินาทีในขณะหลับลึก ซึ่งมันเป็นกระบวนการที่น่าทึ่งมากๆ
ไม่เพียงเท่านั้น เลือดที่ได้รับการชำระล้างสารพิษแล้วจะถูกส่งออกจากสมอง พร้อมกับมีการนำเลือดเข้าสู่สมองใหม่เพื่อทำการชะล้างไปเรื่อยๆ จนกว่าการหลับลึกจะสิ้นสุดลง นั่นก็หมายความว่าสมองเราจะฟอกเลือดให้สะอาดขณะที่ร่างกายเราหลับลึกนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนที่มีการนอนหลับที่ดีถึงนอกจากจะมีสมองดี ดูมีชีวิตชีวาแล้ว ผิวพรรณยังเปล่งปลั่งดูอ่อนเยาว์อีกด้วย
การนอนหลับที่ดีจะช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม และอัลไซเมอร์ในคนแก่ได้อย่างแน่นอน
สำหรับใครที่มีความวิตกกังวลว่าเมื่อแก่ตัวไปจะเป็นโรคอัลไซเมอร์ก็จงใส่ใจเรื่องการนอนหลับตั้งแต่วันนี้ เพราะเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจาก ศ. ลูอิส หัวหน้าทีมวิจัยนี้ ซึ่งออกมาเปิดเผยว่าคนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์นั้นจะมีสารพิษจำพวกเบตา-แอร์มีลอยด์สะสมในสมองเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็พบว่าคนที่มีแนวโน้มจะเป็นอัลไซเมอร์ สมองจะมีการก่อเกิดคลื่นเดลต้าน้อยมาก เพราะไม่ได้รับการนอนหลับพักผ่อนที่ดีเรื้อรังมายาวนาน ทำให้กระบวนการชำระล้างสารพิษออกจากสมองไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ศ. ลูอิส ก็ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่าใครที่ต้องทำงานอดหลับอดนอนหามรุ่งหามค่ำเพียงแค่คืน สองคืน ก็ไม่ต้องวิตกกังวลไป เพราะหากมันไม่ได้เป็นการนอนไม่หลับแบบเรื้อรัง ในคืนต่อไปที่คุณมีการนอนหลับที่ดีก็จะได้รับการล้างสารพิษแบบชดเชยให้สะอาดหมดจดได้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลใจไป แต่ถ้าหากอาการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่ดีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นหลายเดือน หรือเป็นปี คุณมีความจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาแล้ว ก่อนที่จะสายเกินแก้ เพราะโรคอัลไซเมอร์นั้นเป็นแล้วรักษาไม่หาย ทำได้แค่ประคองอาการเท่านั้นนะครับ
และนี่ก็คือเกร็ดความรู้ด้านสุขภาพที่น่าสนใจที่เราอยากนำเสนอให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ เราทราบอยู่แล้วล่ะว่าเพื่อนๆ ทุกคนรู้ว่าการนอนหลับที่ดีมีประโยชน์มากแค่ไหน แต่การนำเสนอของเราในครั้งนี้ก็เหมือนเป็นเครื่องยืนยันให้แน่ใจเข้าไปอีกว่าเราทุกคนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนอนหลับอย่างมีคุณภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีนั่นเอง
