BMW 3-series ความสำเร็จจากจุดเริ่มต้น 1975 ถึง 2020 - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
BMW 3-series ความสำเร็จจากจุดเริ่มต้น 1975 ถึง 2020

BMW ซีรี่ย์ 3 ถือเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของความนิยมและดีไซน์ที่จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังเป็นรถยนต์ที่เหล่าผู้ที่ชื่นชอบความเร็วต้องหันมามอง. โดยในวันนี้ผมจะพาทุกคนมาชมสุดยอดจากจุดเริ้มต้นของความสำเร็จในปี 1975 จนถึงปัจจุบันว่า BMW ซีรี่ย์ 3 ทำไมถึงเป็นรถยนต์ที่ผู้คนต่างฝันอยากครอบครองในทุกยุคสมัย.

BMW E21 จุดเริ่มต้นของ BMW ซีรี่ย์ 3 ถูกผลิตตั้งแต่ปี 1975 – 1983 รถยนต์ซีดาน 2 ประตู สานต่อความสำเร็จจาก 02 ซีรี่ย์เป็น 3 ซี่รี่ย์ ที่มีเอกลักษณ์กว่าใครด้วยการออกแบบโดย Paul Bracq ที่เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากในยุคจากรูปลักษณ์ที่แตกต่างล้ำสมัยกว่ารถยนต์รุ่นอื่นในยุค 70s พร้อมเครื่องยนต์ M10 4สูบ 1.6ลิตร, 2.0ลิตร และ M20 6สูบ 2.0ลิตร, 2.3ลิตร แรงม้าสูดสุด 143 แรงม้า พร้อมเกียร์ออโต้ 3 สปีด และ เกียร์ธรรมดา 4 และ 5สปีด

E21

การออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆของทาง BMW ซีรี่ย์ 3 ก็ยังคงความเอกลักษณ์จากรุ่นสู่รุ่นอยู่เช่นเดิม ทั้งการออกแบบภายในและภายนอกที่ใช้พื้นฐานจาก E21 ทำให้ลายเส้นต่างๆของตัวรถยนต์แทบไม่ต่างจากกัน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนต่างหลงลักษณ์ในรูปโฉมของ BMW ที่มีความดั้งเดิมและความล้ำสมัยในทุกๆรุ่น.

BMW E30 สานต่อความสำเร็จจาก E21 ที่อาจมีหลายคนที่เข้าใจผิดว่า BMW E30 คือ BMW ซีรี่ย์ 3 รุ่นแรกจากชื่อรหัสของตัวรถเอง โดย BMW E30 ถือเป็นอีกหนึ่งรถที่ถูกออกแบบให้มีทั้งแบบ 2 ประตู 4ประตู ไปจนถึงโฉม 5ประตู ที่หามองได้ยากในสมัยนี้. BMW E21 เริ่มต้นการผลิตตั้งแต่ปี 1982 – 1994 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ M10, M20, M40, M42 และ S14 แรงม้าสูงสุด 238 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซลครั้งแรกในซีรี่ย์ 3 ด้วยเครื่องยนต์ M21 2.4ลิตร พร้อมเกียร์ออโต้ 3, 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 4, 5 สปีด สำหรับรุ่น M3 ที่ใช้พื้นฐานการพัฒนาจาก BMW E30 รุ่น 2ประตูในการผลิต.

E30

โดย E30 ได้รับการออกแบบโดย Claus Luthe ผู้ออกแบบรถยนต์ E28 รถไซส์กลาง 4 ประตู ที่ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงในปัจจุบัน ได้ทำการออกแบบ E30 ให้มีความโฉบเฉี่ยวและมีความเป็นสปอร์ตมากขึ้นจากรุ่น E21 ที่หลายคนต่างยกย่องให้ BMW E30 คือหนึ่งในรถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้ดีเยี่ยมเหนือกาลเวลา รวมถึงในไทยเอง BMW E30 ถือเป็นอีกหนึ่งในรถยนต์ที่ขายดีที่สุดแห่งปี 2528 เป็นรองแค่ Peugeot 305GL เท่านั้น. ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นอีกหนึ่งรถที่มีความต้องการสูงมากทั้งโฉม 4ประตู และ 2ประตู.

BMW E36 โฉมที่บ้านเราต่างเรียกว่านกแก้ว ที่ยังคงเอกลักษณ์การวางไฟฟ้าเหมือนกับ E30 แต่มีการปรับให้ดูเข้าสมัยมากยิ่งขึ้น พร้อมรูปทรงที่มีความสปอร์ตและมีหลากหลายไซส์ให้ผู้บริโภคได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของตั้งแต่ E36 sedan, coupe, convertible, baur, touring, และครั้งแรกกับรูปโฉม Compact ที่มีตัวรถสั้นกว่า Coupe ถึง 22.5 เซนติเมตร ที่ใช้ช่วงล่างแบบ E30 ทำให้การขับขี่นั้นสนุกไม่แพ้รุ่น Sedan, Coupe. โดย BMW E36 เริ่มสายการผลิตตั้งแต่ 1990 – 2000

E36

BMW E36 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ M40, M42, M43, M44, M50, M52 และ S50, S52 สำหรับรุ่น M3 แรงม้าสูงสุด 321 แรงม้า ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 2 ขนาด M41 และ M51 เสริมความแกร่งด้วย Turbocharged ตั้งแต่ออกจากโรงงาน พร้อมตัวถังที่มีการเพิ่มจาก 64.8 นิ้วใน E30 เป็น 67.3 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่เพิ่มความสบายให้กับห้องโดยสารมากขึ้น. และเป็นรถที่สามรถหาได้ง่ายในประเทศไทยตอนนี้ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป.

BMW E46 เป็นรถยนต์ที่ออกแบบให้มีประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยการกระจายน้ำหนักแบบ 50 – 50 ทำให้การขับขี่ทั้งความเร็วต่ำ ความเร็วสูงสามารถทรงตัวได้เป็นอย่างดี พร้อมเครื่องยนต์ M43, M52, M54, N42, N46 และ S54 ขุดเกียร์ออโต้มีให้เลือกตั้งแต่ 4 – 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 และ 6 สปีด เริ่มต้นการผลิตตั้งแต่ปี 1997 – 2006 ที่สามารถทำยอดขายทั่วโลกได้มากกว่า 3.26 ล้านคัน ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ BMW ซีรี่ย์ 3 ที่ขายดีที่สุด.

E46

โดยจุดเด่นของ E46 คือการปรับโฉมตัวถให้มีความโค้งมนในทุกรอบต่อมากยิ่งขึ้น และเป็นรถที่วัยรุ่นทั่วโลกต่างรู้จักและหลงรักมากที่สุดจากการเป็นรถยนต์ที่ถูกในไปใช้ในซีรี่ย์เกมชื่อดังอย่าง Need For Speed พร้อมลวดลายที่สวยงามจนต้องตามหามาเป็นเจ้าของ.

BMW E90 เป็นซีรี่ย์ 3 ที่ถูกพัฒนาและแตกรุ่นย่อยในการเรียกรุ่นออกมาได้หลากรูปแบบมากที่สุดทั้ง E91 สำหรับรุ่น 5ประตู หรือที่เรียกกันว่า E91 Touring และ E92 Coupe E93 Convertible สำหรับรุ่น 2ประตูแบบคูเป้ และเปิดประทุนแบบหลังคาผ้าใบ ที่จะกลายเป็นรถยนต์ 2 ประตูโฉมสุดท้ายของ BMW ก่อนที่รุ่น 2 ประตูนั้นจะถูกสานต่อเป็นซีรี่ย์ 4. BMW E90 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ หลากหลายขนาดตั้งแต่ N43, N45, N46, N52, N53, N54, N55 และ S65 เครื่องยนต์ V8 ตัวแรง แรงม้าสูงสุด 450 แรงม้า

E90

ในส่วนของรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้นเป็นเครื่องยนต์ 2 ความจุคือ 2.0ลิตร ด้วยเครื่องยนต์ M47, N47 และ 3.0ลิตร M57, N57. BMW E90 นั้นเริ่มต้นการผลิตตั้งแต่ปี 2004 – 2013 ที่เป็น M3 ในร่างของรถบ้าน 4 ประตูรุ่นที่ 2 ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับรถยนต์สปอร์ต 2 ประตู ด้วยเครื่องยนต์ V8 ที่ทรงพลังจนรถสปอร์ต 2 ประตูอาจต้องหันไปมองถึงความเร็วแรงในแบบฉบับ 4 ประตู

BMW F30 ครั้งแรกกับการเปลี่ยนยุคของ BMW จากรหัส E มาเป็น F ที่เริ่มต้นการผลิตตั้งแต่ปี 2011 – 2019 ถือว่าเป็นรถใหม่ที่ในปัจจุบันราคารถยนต์มือสองหลายคนอาจกำลังเล็งเจ้า F30 อยู่ เพราะได้ทั้งรูปทรงที่ดูสปอร์ต และอัตราการกินน้ำมันที่เรียกได้ว่า ได้ทั้งประหยัดและแรงในคันเดียว พร้อมภายในที่มีความใหญ่ไม่แพ้รุ่นพี่ซีรี่ย์ 5 เลยก็ว่าได้ ถือเป็นหนึ่งในรถไซส์กลางที่สามารถครบจบได้ในราคาที่สามารถเอื้อมถึง. และมีโฉมให้เลือกทั้งแบบ F30 sedan หรือ F31 Wagon รถครอบครัวที่เรียกได้ว่าใหญ่ในระดับนึงสำหรับคนที่ต้องการ SUV แต่ขอเป็นรถทรงไม่ใหญ่มาก และ F34 GT (Gran Turimo) โฉม 5ประตูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแถบเอเชีย รวมไปถึง F35 ที่ทำให้ตัวถังนั้นยาวขึ้นพิเศษ ที่ไม่จำเป็นต้องอัพไซส์ไปเป็นซีรี่ย์ 5

F30

BMW F30 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ B38 1.5ลิตร ตัวประหยัด และ N13 N20 B48 และรุ่นสำหรับคนที่ต้องการความแรงเป็นพิเศษ 3.0 ลิตร N55, B58 ส่วนตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้รับความนิยมมากในบ้านเรากับเครื่องยนต์ 2 ขนาดคือ 2.0ลิตร N47, B47 และ 3.0ลิตร N57 พร้อมเกียร์ออโต้ 8 สปีด และเกียร์ธรรมดาที่ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย 6 สปีด. และเป็นครั้งแรกที่ BMW ส่งเครื่องยนต์ไฮบริดมาในโฉม 330e สำหรับคนที่ต้องการความแรงและรักโลกไปพร้อมๆกัน

BMW G20 ซีรี่ย์ 3 โฉมล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวประเทศไทยกันไปไม่นานมานี้ เป็นรุ่นที่ 7 ของซีรี่ย์ 3 ใหญ่ขึ้น ดุดันขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นบางจุดจากเดิมถึง 50% และฐานล้อกับตัวถังที่กว้างและยาวขึ้น พร้อมตัวเลือกใหม่สำหรับคนที่ต้องการความเร็ว แต่ไม่ต้องเอื้อมถึง M3 นั้นก็จะมีทางเลือกให้เป็น M340i ที่แรงไม่แพ้ใคร

G20

BMW G20 นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.0ลิตร B46, 3.0ลิตร B58 และ S58 สำหรับรุ่น M3 ในส่วนของรุ่น Plug-in Hybrid มาพร้อมกับเครื่องยนต์ B48B20 พร้อมมอเตอร์ 50kW และเครื่องยนต์เบนซิลความจุ 2.0ลิตร B47 และ 3.0ลิตร B57 พร้อมเกียร์อโต้ 8สปีด และเกียร์ธรรมดา 6สปีด. โดยในประเทศไทยสามารถหาจับจองเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นที่ 2.959 ล้านบาท.

ที่มา BMW

ClicknTouch
ชอบสะสมแก็ทเจ็ต ดูการ์ตูน วันว่างๆขับรถเล่น ผ่อนคลายสบายใจ.

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save