สวัสดีเพื่อนๆ ชาว The Macho ทุกคน พบกันอีกครั้งกับการแนะนำรถยนต์เปิดตัวใหม่ที่น่าสนใจ สำหรับในครั้งนี้เราจะทุกท่านมารู้จักและชมความสวยของ All-New Land Rover Defender รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ของค่ายแลนด์โรเวอร์ประจำปี 2020 ที่อัดแน่นด้วยขุมกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งแบบดีเซลและเบนซิน เคาะราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5.4 ล้านบาท พร้อมวางจำหน่ายในไทยแล้ววันนี้ หากใครสนใจก็ตามมาดูรายละเอียดกันได้เลย

โครงสร้างตัวถัง และรูปลักษณ์ภายนอกของ All-New Land Rover Defender รุ่นใหม่

All-New Land Rover Defender ตัวนี้ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งคันเพื่อให้ดูโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวเติมเต็มจิตวิญญาณของการบุกเบิกมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือระยะยื่นด้านหน้าและด้านหลังที่มีไม่มากทำให้ดูไม่เทอะทะเหมือนในอดีต ตัวถังมีมุมปะทะน้อยลงทำให้ลู่ลมวิ่งฉิว ขับขี่ได้คล่องตัวมากขึ้น บริเวณหลังคามีการติดช่องแสง Alpine Light Window ประตูท้ายเป็นแบบบานพับด้านข้าง มีแป้นยึดยางอะไหล่นอกตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม

ส่วนงานโครงสร้างนั้น รถยนต์ All-New Land Rover Defender เลือกใช้โครงสร้างแบบ D7x ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ของค่ายแลนด์โรเวอร์ ซึ่งหลักๆ แล้วทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบา แต่เป็นโครงสร้างที่มีความแข็งแกร่งทนทานที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา ส่งผลให้คันนี้มีช่วงล่างที่มั่นคง มีระบบกันสะเทือนแบบอิสระที่ใช้ถุงลมและสปริงที่ยอดเยี่ยม ส่งกำลังด้วยระบบไฟฟ้าเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ล้อทั้งสี่ข้างยกสูงขึ้นเพื่อพร้อมสำหรับการลุยบุกเบิกทุกเส้นทาง 

ด้วยตัวถังแพลตฟอร์มใหม่นี้ ทำให้  All-New Land Rover Defender สามารถขับลุยน้ำได้ลึกสุดถึง 0.9 เมตร รับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 900 กิโลกรัม เฉพาะหลังคาเพียงอย่างเดียวสามารถรับน้ำหนักบรรทุกเมื่อจอดนิ่งได้ 300 กิโลกรัม และรับน้ำหนักบรรทุกเมื่อขับขี่ได้ 168 กิโลกรัม

เครื่องยนต์ขุมกำลังมีให้เลือกทั้งแบบดีเซล และเบนซิน

เริ่มด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เป็นเครื่องยนต์ Ingenium ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาดความจุ 2 ลิตร เทคโนโลยีเทอร์โบคู่แบบต่อเนื่อง โดยมีให้เลือก 2 รุ่นได้แก่ D200 และ D240 มีกำลัง 200 แรงม้า และ 240 แรงม้าตามลำดับ โดยทั้งคู่สามารถสร้างแรงบิดได้สูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบ 1,400 รอบต่อนาที

ส่วนเครื่องยนต์เบนซินนั้นมีให้เลือก 2 ขนาดคือ เครื่องเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 300 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 3 ลิตร ให้กำลัง 400 แรงม้า

เครื่องยนต์ทุกตัวทั้งดีเซลและเบนซินจะจับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด โดยมีโหมดการถ่ายทอดกำลังแบบ “Twin-Speed” เพื่อส่งกำลังในเวลาที่รถต้องการใช้กำลังมากๆ เช่นตอนลากจูง หรือขับขี่บนเส้นทาง off-road ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความยากลำบาก ที่ต้องใช้พละกำลังของรถสูงกว่าบนเส้นทางปกติ

เทคโนโลยีช่วงล่างที่ล้ำสมัย

นอกจากความนิ่ม และความหนึบของตัวถังรถที่สามารถยึดจับกับพื้นถนนได้ดีอันเป็นผลมาจากการใช้ตัวถังและช่วงล่างบนแพลตฟอร์มใหม่แล้ว รถยนต์รุ่นนี้ยังมีการนำระบบ Configuration Terrain Response มาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้รถตั้งค่าจดจำรูปแบบการขับขี่บนแต่ละเส้นทางได้ และเมื่อเจอสภาพเส้นทางในแบบดังกล่าวอีก ระบบอัจฉริยะนี้จะปรับรูปแบบการขับขี่ที่เหมาะสมตามที่เราได้ตั้งค่าไว้โดยอัตโนมัติ  

ความลงตัวในห้องโดยสาร

ภายในห้องโดยสารของรถยนต์ All-New Land Rover Defender มีการตกแต่งอย่างหรูหรา จัดเต็มเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่และความบันเทิงอย่างสมบูรณ์แบบ เช่นระบบข้อมูลและความบันเทิงแบบ Pivi-Pro แบบใหม่ด้วยหน้าจอสัมผัสที่ล้ำสมัย ใช้ง่าย และดูเป็นมิตรกว่าเดิม ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการอัปเดทซอฟต์แวร์ผ่านสัญญาณแบบไร้สาย Software-Over-The-Air ทำให้ได้รับซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดตลอดเวลา โดยลูกค้าสามารถเลือกขนาดห้องโดยสารได้หลายแบบ  ตั้งแต่ดีไซน์ตัวถังแบบ 3 ประตูที่ห้องโดยสารแถวหน้า 3 ที่นั่งหรือแบบ 5 ประตูที่สามารถเลือกห้องโดยสารแบบ 5+2 ที่นั่ง เพราะมีรุ่นย่อยของรถให้เลือกถึง 3 รุ่นประกอบด้วย Defender X ซึ่งเป็นรุ่นเรือธง รุ่น S และรุ่น SE

และนี่ก็คือรถยนต์อเนกประสงค์ All-New Land Rover Defender รุ่นใหม่ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคนรักรถทุกคน  ราคาจำหน่ายของรถยนต์รุ่นนี้จะอยู่ในช่วง 5.4 – 5.8 ล้านบาท พร้อมกับมีชุดแต่งเสริมให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ชุด Explorer, Adventure, Country และ Urban เพื่อความหล่อที่แตกต่างอย่างมีสไตล์ หากใครไม่ต้องการซื้อเป็นชุด จะแยกซื้อเป็นชิ้นก็ย่อมได้ หลังจากที่ได้อ่านจบไป หากใครสนใจรถยนต์รุ่นนี้ก็สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่คุณไว้ใจได้แล้ววันนี้