ในโลกเราทุกวันนี้ เมื่อมองไปรอบตัวเราจะเห็นสิ่งต่างๆ ที่ทำงานได้เองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตู้ขายของอัตโนมัติ รถยนต์ที่เริ่มจะวิ่งได้แบบไร้คนขับ โรงงานประกอบรถยนต์ทั้งโรงที่แทบจะมองไม่เห็นมนุษย์
ส่วนใหญ่แล้วจะเห็นแต่หุ่นยนต์ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น บ้านอัจฉริยะที่สามารถตอบสนองคุณได้ทุกอย่างโดยที่คุณแทบไม่ต้องขยับตัว หรือที่ใกล้ตัวเข้ามาอีกนิดก็คือ AI ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนของคุณสามารถเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพัฒนาการที่ก้าวหน้าของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ได้ก้าวเข้ามามีบทบาททดแทนแรงงานมนุษย์ในปัจจุบัน ซึ่งก็มีทั้งประโยชน์และโทษ ประโยชน์ก็คือช่วยให้คนที่มีความรู้ทำงานได้สะดวกสบายขึ้น ช่วยลดต้นทุนได้มากขึ้น ส่วนโทษของมันก็จะมีต่อแรงงานไร้ฝีมือ และคนที่ไม่รู้จักปรับตัวให้ทันยุคสมัย แล้วในฐานะที่เราเป็นคนรุ่นใหม่ เราจะปรับตัวอย่างไรในยุคที่เทคโนโลยีหุ่นยนต์ก้าวหน้าเช่นนี้ วันนี้เรามี 7 ทักษะที่ทุกคนในยุคนี้จะต้องพัฒนามาบอก จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
Logical Thinking
Logical Thinking ก็คือการคิดอย่างเป็นเหตุผล เป็นการรู้จักตั้งคำถามกับทุกข้อสงสัย และพยายามหาคำตอบอย่างมีเหตุผล มีหลักการที่เป็นวิทยาศาสตร์ คิดวิเคราะห์อย่างเป็นกลาง ไร้อคติ สามารถสื่อสารให้ผู้คนเข้าใจได้อย่างมีเหตุผล ไม่ใช่ตอบสนองต่อสถานการณ์ด้วยอารมณ์ เอาตัวรอดแบบน้ำขุ่นๆ หรือที่เรียกกันว่า “แถ”
ทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล สามารถเรียนรู้ได้ไม่ยาก เพราะมันเป็นบทเรียนพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ที่จะหล่อหลอมให้เรารู้จักกระบวนการคิดวิเคราะห์หาคำตอบต่อปัญหาอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา และสามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน คนที่คิดอย่างมีตรรกะจะสามารถมองภาพรวมต่อปรากฏการณ์ต่างๆ ได้แจ่มชัดเหนือกว่าคนทั่วไป เป็นพื้นฐานสำคัญให้เราสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อการต่อยอดได้ง่ายขึ้น คนที่คิดอย่างมีเหตุผลจึงสามารถเรียนรู้ได้เร็ว และได้เปรียบมากเวลาที่ต้องดีเบต และเจรจาต่อรองใดๆ
Creative Problem Solving
มาต่อกันที่ทักษะที่สอง Creative Problem Solving คือการรู้จักแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เพราะชีวิตเรานั้นไม่ง่าย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ล้วนแล้วแต่ต้องพบกับปัญหาและอุปสรรค ที่คนได้ผ่านการฝึกทักษะการจัดการกับปัญหาอย่างสร้างสรรค์มานั้นจะมองทุกปัญหาเป็นสิ่งท้าทาย และการหาวิธีการแก้ปัญหาสำหรับพวกเขาเป็นเรื่องสนุก คนที่มีทักษะเช่นนี้มักเป็นคนคิดนอกกรอบ สนุกกับงาน ชอบทำในสิ่งที่ยาก และท้าทายขึ้นไปเรื่อยๆ ความสำเร็จของพวกเขาจึงใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ ไม่เชื่อเพื่อนๆ ก็ลองดูผู้ที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายสิครับ พวกเขาเป็นล้วนเป็นพวกรนหาปัญหาทั้งนั้น
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น อิลอน มัสค์ ผู้ซึ่งร่ำรวยไปทั้งชาติตั้งนานแล้วตั้งแต่ขาย PayPal ได้ ชีวิตเขาไม่ต้องทำอะไรต่อก็ได้ก็มีกินไปสิบชาติก็ไม่หมดแล้ว เพราะเงินหลายพันล้านบาทที่ได้มานั้นมันมากมายมหาศาลเหลือเกินสำหรับชีวิตของคนๆ หนึ่ง แต่ทำไมเขาต้องมาเสี่ยงเกือบล้มละลายเป็นขอทานข้างถนนในอีก 10 ปีต่อมากับการเสี่ยงมาลงทุนใน Tesla และ SpaceX นั่นมิใช่เพราะต้องการที่จะเอาชนะปัญหาที่ยิ่งใหญ่กว่าอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเติมเต็มความฝันอันสูงสุดให้กับชีวิตหรอกหรือ
Authentic Learning
Authentic Learning คือทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งสำคัญมากสำหรับคนยุคนี้และต่อไป เพราะการเรียนรู้ของคนเราไม่ควรหยุดลงเมื่อสำเร็จการศึกษา ความรู้ไม่ได้มีแค่ในตำรา และในห้องเรียน ความรู้ในระบบนั้นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของความรู้ทั้งหมดทั้งมวลในจักรวาลนี้ ความรู้ที่แท้จริงเกิดจากประสบการณ์ที่ได้จากการนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาใช้ให้เกิดผล จนตกผลึกทางความคิด มีความเข้าใจในสิ่งนั้นๆ อย่างแท้จริง
หลักฐานที่ชัดเจนจากที่เราได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ เช่น วิศวกรหุ่นยนต์ที่เก่งที่สุด ไม่ใช่ ศ. ดร. วิศวกรรมหุ่นยนต์ในมหาวิทยาลัย แต่เป็นวิศวกรหุ่นยนต์ที่เขียนโปรแกรมให้กับบริษัทใหญ่ จนสามารถนวัตกรรมออกมาขายให้แก่ผู้คนได้ต่างหากล่ะ อีกตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือคนที่เก่งการค้าการขายและการทำธุรกิจมากที่สุดก็คงไม่ใช่ ศ.ดร. ด้านเศรษฐศาสตร์ แต่เป็นบรรดาเจ้าสัว อาเสี่ย อาเฮีย วัยรุ่นพันล้านต่างหาก
Creativity
Creativity คือทักษะการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทักษะนี้นำมาซึ่งไอเดีย แนวคิด แพลตฟอร์มใหม่ๆ ซึ่งสำคัญมากทั้งในโลกธุรกิจ เทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ เพราะโลกเราจะเปลี่ยนแปลงมาเจริญก้าวหน้าเช่นทุกวันนี้ไม่ได้เลยหากขาดผู้คนในอดีตที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และอนาคตของโลกเราจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้มากนัก หากในยุคปัจจุบันขาดคนที่มีทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เช่นกัน
ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ ต่อให้เราพัฒนาตะเกียงและเทียนไขให้ดีที่สุดเท่าไหร่ มันก็ไม่มีทางให้ความสว่างไสว และอำนวยความสะดวกสบายให้มนุษย์ได้เท่ากับการมีไฟฟ้าใช้ในตอนนี้ ซึ่งนั่นทำให้เราตั้งขอบคุณ นิโคล่า เทสล่า ผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสร้างผลักดันให้ระบบไฟฟ้ากระแสสลับ และมอเตอร์ไฟฟ้าของเขาเปลี่ยนโลกให้ทันสมัยได้เช่นทุกวันนี้
Teamwork
Teamwork คือทักษะการทำงานเป็นทีม เพราะไม่มีใครรู้ทุกอย่าง เก่งทุกเรื่อง การจะทำงานที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จได้ต้องอาศัยการประสานร่วมมือกันทำงานเป็นทีมอย่างสอดคล้องเป็นจังหวะเดียวกัน แต่ละคนพร้อมที่จะเต็ม ปิดจุดอ่อน สร้างจุดแข็งให้กับทีม เพื่อให้ทีมประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน การจะประสบความสำเร็จในข้อนี้ได้ ทุกคนในทีมต้องใจกว้าง เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน ที่สำคัญจะต้องมีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และผู้นำก็จะต้องมีทักษะความเป็นผู้นำที่ดี
Resilience
Resilience คือทักษะการทำงานภายใต้สถานการณ์กดดัน เพราะโลกเราทุกวันนี้มีความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว สิ่งที่คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาและอุปสรรค์ก็สามารถกลายเป็นอุปสรรคได้ทุกเมื่อ ทรัพยากรมนุษย์ในยุคหุ่นยนต์นี้จึงต้องมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจที่จะรับมือต่อสถานการณ์กดดันได้เสมอ ต้องพร้อมที่จะทำงานหามรุ่งหามข้ามเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ผ่านพ้นไป ในเวลาที่จำเป็น โดยไม่มีการยอมจำนนต่อปัญหา
Coding and Robotic
ทักษะทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามาข้างต้นนั้นเป็นเพียงพื้นฐาน หัวใจจริงๆ ของคนยุคหุ่นยนต์นั้นอยู่ที่ข้อสุดท้ายนี้ ซึ่งก็คือ Coding and Robotic หมายถึงทักษะการเขียนโปรแกรม และวิศวกรรมหุ่นยนต์ ซึ่งจัดว่าเป็นทักษะขั้นสูง แต่คงไม่สูงสำหรับเด็กยุคสมัยนี้ ที่เขาเริ่มเรียนการเขียนโปรแกรมตั้งแต่ชั้นประถมกันแล้ว โดยการ Coding นั้นจะเป็นทักษะในการสร้างซอฟท์แวร์ ส่วนทักษะด้านวิศวกรรมหุ่นยนต์นั้นจะเป็นทักษะการสร้างฮาร์ดแวร์ ซึ่งได้แก่ ข้อต่อ ชิ้นส่วน กลไกต่างๆ ของหุ่นยนต์ที่จะถูกควบคุมโดยโปรแกรมสั่งการที่เขียนไว้นั่นเอง
และนี่ก็คือ 7 ทักษะสำคัญที่คนในยุคหุ่นยนต์จำเป็นต้องมี หากคุณถึงพร้อมเชี่ยวชาญด้วยทักษะทั้งหมดที่เราได้ว่ามานี้ รับรองได้เลยว่าอนาคตของคุณจะสดใส เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างสูง และรับรองได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างแน่นอน เมื่อได้ทราบแล้วก็อย่าลืมกลับไปพัฒนาตัวเองกัน โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่กำลังอยู่ในวัยเรียน คุณมีเวลามากเหลือเกินที่จะพัฒนาทักษะเหล่านี้