7 ข้อเสียของ Ferrari ที่คุณอาจจะไม่รู้ถ้ายังไม่ได้ครอบครอง - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
7 ข้อเสียของ Ferrari ที่คุณอาจจะไม่รู้ถ้ายังไม่ได้ครอบครอง

Ferrari อาจจะเป็นรถในฝันของหนุ่มๆ หลายคนที่ชื่นชอบความเร็ว และความหรูหรา ไม่ว่าคุณจะคลั่งไคล้ในยนต์กรรม หรือคิดว่าการขับ Ferrari นั้นจะทำให้สาวๆ กรี๊ด

วันนี้ The Macho พามารู้จักข้อเสียอีกด้านที่อาจจะไม่มีใครได้พูดถึงของ Ferrari กันดูดีกว่า ว่าถ้ารู้แล้วคุณจะยังอยากที่จะครอบครองมันหรือไม่

1.ที่เก็บของน้อยมากกก

Source : a1113blog

ด้วยความที่ Ferrari เป็นรถสปอร์ต 2 ที่นั่งเท่านั้น และด้านหลังก็วางเครื่องยนต์เต็มพื้นที่ ที่เก็บของที่เดียวที่คุณมีคือกระโปรงหน้ารถเท่านั้น อย่าเพิ่งคิดถึงรถทั่วไปนะครับ เพราะนี่คือเฟอร์รารี่ ที่ทำการออกแบบทุกอย่างมาเพื่อความเร็วสูงสุดไม่ใช่รถครอบครัวเอนกประสงค์จึงจะมีที่มากมากในการขนของ โครงสร้างต่างๆ จึงถูกดีไซน์ให้ลดแรงต้านของลมมากที่สุด

การที่คุณคิดจะขับเฟอร์รารี่ไปจ่ายตลาดนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน และคงดูไม่ดีมากถ้าคุณคิดจะขับมันเข้าไปจอดในตลาดสด ต้องห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ซึ่งถ้าห้างจากบ้านคุณไกลมากก็เป็นปัญหาแน่ เพราะของสดอย่างเนื้อสัตว์คงไม่มีใครเก็บในกระโปรงรถซึ่งร้อนมากๆ

หรือจะขับไปต่างจังหวะกระโปรงรถเหมาะเพียงจะเก็บเสื้อผ้าเท่านั้น ครีมเครื่องสำอางค์ต่างๆ ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเก็บในตำแหน่งนี้ หรือถ้าคุณอยากขับรถเฟอร์รารี่พาแฟนไปสวีทที่ต่างจังหวัดยิ่งแล้วใหญ่ คุณคงคิดถึงกระเป๋าเดินทางของสาวๆ เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดออก มันขนไปไม่ได้จริงๆ

2.ความสบายในการขับขี่บนถนนเมืองไทย

Supercar ไม่ว่าจะเฟอร์รารี่ หรือลัมโบกินี่ เป็นรถที่ค่อนข้างเตี้ยมากๆ เหตุผลก็เพราะตามหลักการออกแบบเพื่อความเร็วอีกเช่นเคย ดังนั้นวิสัยทัศน์ในการมองรอบๆ คันรถก็จะด้อยลงไประดับหนึ่ง แลกมากับรถที่สมรรถนะในการขับขี่ที่สูงขึ้น คือวิ่งได้ความเร็วสูงๆ เข้าโค้งได้ดีๆ

และการขับซุปเปอร์คาร์นั้นจะทำให้คุณรู้จักถนนในเมืองไทยในอีกมุมหนึ่งคือ ต่อให้คุณคิดว่าถนนแถวบ้านคุณนั้นจะเรียบแค่ไหนคุณก็จะรับรู้ได้ทุกหลุมบ่อ รอยแตกเล็กๆ น้อยๆ ทุกจัด ไม่ต้องพูดถึง “ลูกระนาด” อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยเลยที่ถือเป็นศัตรูกับรถอย่างซุปเปอร์คาร์มากจริงๆ

3.ซดน้ำมันโหดมาก

Source : Hushhush

ตามพลังของเครื่องยนต์เลยทีเดียว ยิ่งแรงม้าสูงก็ยิ่งใช้พลังน้ำมันเต็มที่ ถ้ายกตัวอย่างรุ่น F430 ที่ใช้เครื่อง V8NA ขนาด 490แรงม้า จะกินน้ำมันเฉลี่ย 4-5 กม./ลิตร หรือถ้าเหยียบแรงขึ้นก็จะไปอยู่แถวๆ 3-4 กม./ลิตร

คำนวนให้เห็นภาพกว้างขึ้นถ้าขับรถไปกลับ กรุงเทพฯ – พัทยา ระยะทางประมาณ 200 กม. ขับปกติที่ 4 กม./ลิตร

ระยะทาง 200 กม. / 4 กม./ลิตร = 50 ลิตร
ราคาน้ำอยู่ประมาณ 28 บาท/ลิตร >> 50 ลิตร x 28 บาท = 1,400 บาท
ซึ่งถ้าไปเทียบกับรถยนต์ทั่วไปขับไปพัทยาน่าจะกินน้ำมันอยู่ที่ 16 กม./ลิตร ก็ต่างกันหลักพัน (แต่แน่นอนความเท่นั้นต่างกันหลักสิบล้าน)

4.จิตใจจะพะวงเป็นห่วงรถตลอดเวลา (ถ้าคุณยังรวยอยู่แค่ในระดับร้อยล้าน)

การที่เราจะขับรถซุปเปอร์ไปที่ไหนสักแห่งเราจะต้องคิดถึงที่จอดว่าที่นั่นจะมีที่จอดสำหรับรถเราหรือไม่ จะจอดข้างทางเกิดเด็กที่ไหนไม่รู้ขี่จักรยานมาเฉี่ยวเป็นรอยจะไปเรียกร้องอะไรก็คงไม่ได้มาก หรือรถคันอื่นจะเปิดประตูมาโดนรถเราไหมอีก แทนที่จะได้จอดรถแล้วไปเที่ยว หรือทำธุระอย่างไม่ต้องกังวลใจก็ต้องมาห่วงรถตลอดเวลาอีก

5.หมดความเป็นส่วนตัว

Source : a1113blog

ต้องบอกว่ารถอย่างเฟอร์รารี่นั้น ทั้งรูปทรง ,เสียง ทุกอย่างดูสดุดตาไปหมด การขับไปที่ไหนก็จะมีคนมองเสมอ ซ้ำร้ายบางทีจอดไว้นิ่งๆ ยังมีคนหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูป หรือมายืนเซลฟ์ฟี่กับรถบ่อยๆ ถ้าคุณแอบขับรถไปหากิ๊กแน่นอนโลกต้องรู้ ช่วงแรกนั้นอาจจะสนุกที่สาวๆ มองแต่มาถึงจุดนี้คงต้องคิดใหม่เสียแล้ว

6.คำบำรุงรักษารายปีสุดโหด

สำหรับรถเฟอร์รารี่รุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งถอยมาจะมีการการันตีจากศูนย์ให้ครบหมด ก็จะมี Free maintanance แต่ละชิ้นส่วน ไปจนถึงการถ่ายน้ำมันเครื่อง 3-7 ปี แล้วแต่ที่เราได้มาจากตัวแทนจำหน่าย สำหรับรถใหม่ไม่เกิน 2 ปี ก็จะมีเพียงประกันภัยเท่านั้น แต่ถ้าเป็นรถเก่าๆ หน่อยก็มีเหนื่อยเรื่องการดูแลอยู่มากโข

  • ประกันภัย 150,000 บาท (ประมาณการประกันภัยระดับกลางๆ)
  • Warranty จากโรงงาน 120,000 บาท (ทางโรงงานจะดูแลเรื่องเครื่องยนต์ ,เกียร์ และระบบไฟฟ้าบางส่วนของรถให้คือถ้าเสียก็เปลี่ยนฟรี)

สองอย่างที่กล่าวมานี่คือเป็นแบบปีต่อปี ไม่รวมการดูแลรักษาอื่นๆ เพิ่มเติมอีก

7.ซื้อมาย่อมขาดทุนจากค่าเสื่อมสภาพ

รถทุกคันเมื่อขับออกมาจากโชว์รูมแล้วราคาจะตกลงทันทีเพราะมันกลายเป็นมือสองเรียบร้อยแล้ว ซุปเปอร์คาร์ก็เช่นกัน แม้ว่ารถอย่างเฟอร์รารี่ที่มีแบรนด์ค่อนข้างแข็งแกร่งนั้นราคาจะตกลงไปไม่มาก แต่เมื่อผ่านไป 2-3 ปี ราคาของเฟอร์รารี่จะตกลงไปที่ประมาณ 40-50% ตามสภาพการใช้งานด้วย

ก็คงต้องชั่งน้ำหนักกันระหว่างการอยากมีรถเท่ๆ เหยียบสนุก กับข้อเสียต่างๆ ที่เรายกมาให้ฟัง แต่ถ้ารู้จักข้อเสียทั้ง 7 ข้อนี้แล้วคุณยังคิดว่าไม่มีปัญหาสำหรับคนรักเฟอร์รารี่อย่างเราก็ถอยมาเลย แต่อย่าขับไวมากนะครับ ระวังเพื่อนร่วมทางด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save