ผู้ชายหลายคนหน้าตาก็ไม่ได้ดูแย่ แถมตัวจริงหลอเหลาด้วยซ้ำ แต่พอถ่ายรูปทีไรกลับไม่ขึ้นกล้อง หน้าดูกลมไปหมด พอมาพิจารณาชัดๆ อีกก็พบว่าสาเหตุเกิดมาจาก “เหนียงใต้คาง” นั่นเอง
หนุ่มๆ หลายคนไม่จัดว่าเป็นคนอ้วนพุงพลุ้ย เพียงแค่มีไขมันมาสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่บางคนโชคร้ายแทนที่มันลงไปสะสมที่แขนขากลับมาสะสมอยู่ใต้คางกลายเป็นเหนียงเนี่ย !! แล้วเราจะมีวิธีแก้ไขปัญหานี้มั้ย ? แต่ก่อนที่จะไปพบกับวิธีการแก้ปัญหาเหนียงใต้คาง เรามาทำความรู้จักสาเหตุของมันก่อนดีกว่า
เหนียงใต้คาง แท้ที่จริงแล้วมันก็คือไขมันที่สะสมอยู่บริเวณใต้คางทำให้คางของเรามีลักษณะเป็นหลายชั้นคล้ายคางหมู โดยมากแล้วเหนียงใต้คางเกิดขึ้นกับคนอ้วนทุกวัย และเริ่มเกิดกับผู้ชายทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ต้นตอของสาเหตุเกิดจากการกินเยอะ ไม่ควบคุมอาหาร ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหานี้ที่ดีที่สุดก็คือการจัดการที่ปัญหาต้นตอ ส่วนใครที่ใจร้อน อยากเห็นผลเร็ว เรามีวิธีมาแนะนำดังต่อไปนี้
ทำเทอร์มาจ (Thermage)
การทำ เทอร์มาจ (Thermage) คือการใช้คลื่นวิทยุส่งสัญญาณเข้าไปยังบริเวณผิวหนังที่หย่อนคล้อยจนเกิดการหดกระชับ เป็นวิธีการที่สะดวกรวดเร็ว ไม่เจ็บ ไม่ผ่านมีดหมอ ไม่มีเลือดออก ทำครั้งเดียวเห็นผลได้นาน ส่วนจะได้ผลมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่สะสม หากมีไม่มากก็เห็นผลดีขึ้นทันตาเลยล่ะ แต่ราคาสำหรับบริการนี้แพงมากเลยนะ เฉลี่ยอยู่ที่ 5 หมื่นบาทต่อครั้งเลย
ดูดไขมัน (Vaser Liposelection)
วิธีการนี้ก็ไม่ต่างจากการดูดไขมันที่บริเวณอื่นๆ ของร่างกาย ทำแล้วเห็นผลดีทันตาแน่นอน วิธีการก็คือหมอจะใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ส่งสัญญาณเข้าไปยังบริเวณใต้คางส่งผลให้ไขมันที่สะสมตัวอยู่บริเวณนั้นแตกตัวออกเป็นของแล้ว จึงค่อยหาตำแหน่งเหมาะสมเพื่อทำการดูดออกต่อไป โดยตำแหน่งที่ว่านี้จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อ เส้นเลือด เส้นประสาทที่มีความอ่อนไหว สำหรับค่าบริการดูดไขมันใต้คางนี้จะมีราคาเริ่มต้นที่ 3 หมื่นบาทต่อครั้ง
ร้อยไหม
การร้อยไหมเป็นวิธีกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณใต้คางให้ตึง กระชับขึ้น เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีเยี่ยมสำหรับคนที่มีไขมันสะสมอยู่ไม่มาก ประโยชน์ที่ได้รับนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาเหนียงใต้คางได้แล้ว ยังช่วยปรับกระชับรูปหน้า เก็บคาง ยกกระชับร่องแก้ม และช่วยเก็บขากรรไกรให้ดูเรียวคมขึ้น โดยเส้นไหมที่ใช้ร้อยนี้จะเป็นเส้นไหมชนิด PDO Polydioxance ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองน้อย ได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างยาวนาน เพื่อนๆ ที่เลือกใช้บริการนี้จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ทันทีที่ร้อยไหมเสร็จ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นแต่อย่างใด ส่วนค่าบริการนั้นมีหลากหลายหากใครสนใจก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่คลินิกความงามทั่วไป
เมโสลดเหนียง (Meso Fat)
เมโสลดเหนียง เป็นวิธีการกำจัดไขมัน ลดเซลลูไลต์เฉพาะจุดที่ทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นเพียงการฉีดตัวยาที่มีสรรพคุณในการสลายไขมันบริเวณที่ต้องการ ยกตัวอย่างกลุ่มตัวยาที่ใช้ก็เช่น Phosphatidylcholine, L-carnitine, Deoxycholate, Dexpanthenol (B5), Amino acids, Minerals เป็นต้น โดยตัวยาที่ใช้จะเข้าไปทำให้ไขมันที่จับตัวเป็นก้อนเกิดการแตกตัว สลายออกเป็นของเหลวแล้วถูกขับออกมาทางปัสสาวะและอุจจาระ โดยวิธีการนี้ต้องทำติดต่อกันสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ อัตราการให้บริการอยู่ที่หลักพันต่อครั้ง
ฉีดโบทอกซ์ (Botox)
มาที่วิธียอดฮิตอย่าง โบท็อกซ์ กันบ้าง ซึ่งวิธีการนี้ใช้หลักการเดียวกันกับการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์หน้า เหมาะกับคนที่มีปัญหาเพียงแค่ผิวหนังใต้คางหย่อนคล้อย หรือมีไขมันสะสมใต้คางไม่มาก ส่วนคนที่มีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก วิธีการนี้จะไม่เห็นผลเท่าไหร่
ใช้ผลิตภัณฑ์ Hydro V Plus
วิธีการนี้เป็นวิธีการยกกระชับ พร้อมบำรุงผิว ช่วยลดเหนียงใต้คางได้ดี รวดเร็ว แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง วิธีการใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่แกะซองที่บรรจุเซรั่มเล็กๆ นำมานวดคลึงให้ทั่วใต้คางและกรอบหน้า จากนั้นก็ใช้แผ่นคาดใต้คาง (แผ่น Hydro Gel) ที่มีแถมมากับซองคลุมให้ทั่วบริเวณใต้คาง เนื้อเซรั่มจะซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผิวกระชับตึง เห็นผลในทันที
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้คุณจะต้องนวดทุกวันวันละ 1 ซองอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลในระยะยาว ซึ่งจากการรีวิวในโลกโซเชียลนั้น ผลตอบรับดีมาก ผู้ใช้หลายคนบอกว่าเห็นผลรวดเร็วได้ดั่งใจ >>คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม<<
และนี่ก็คือคือ 6 วิธีการลดเหนียงใต้คางฉบับเร่งด่วนที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจสำหรับหนุ่มๆ ที่กำลังประสบปัญหานี้กันทุกคน อย่างไรก็ตามอะไรที่เป็นวิธีเร่งด่วนก็ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายเสมอ วิธีการลดเหนียงใต้คางก็เช่นกัน แต่ใครที่ไม่ได้รีบร้อน สามารถค่อยเป็นค่อยไปได้ วิธีการลดเหนียงที่ดีที่สุดก็คือการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก