6 วิธีตามหากลิ่นน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
6 วิธีตามหากลิ่นน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ

6 วิธีการที่จะช่วยค้นหากลิ่นน้ำหอมลายเซ็นต์ของตัวคุณ และเป็นกลิ่นหอมเหมาะกับคุณที่สุด!!

หลายๆ คนที่อยากซื้อน้ำหอม หรือกำลังค้นหากลิ่นที่เป็นเสมือนลายเซ็นต์ของคุณ แต่ติดตรงที่ว่าไม่รู้ว่ากลิ่นแบบไหนที่เข้ากับตัวคุณ เพราะในปัจจุบันก็มีน้ำหอมจำนวนมากมายในตลาดที่มีกลิ่นที่ดี แค่ต้องเลือกให้เป็น และ 6 สเต็ปที่เรามาแนะนำวันนี้ จะช่วยให้คุณค้นพบกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคุณ มันต้องโดดเด่นจนคนรอบข้างต้องหันกลับมามอง และมันต้องทำให้เกิดความประทับใจไม่รู้ลืม

ดังนั้นนี่คือวิธีการที่จะช่วยคุณ เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ประกอบการใช้วิจารณญาณ และคุณจะพบกลิ่นที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

1.ศึกษา และทำความรู้จักประเภทกลิ่น

ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจน้ำหอมเล็กน้อย ในปัจจุบัน น้ำหอมมันมีออกมามากมายหลากหลายแบรนด์ มีมากเกินกว่าที่จะรู้ว่ากลิ่นเป็นโครงสร้างที่ครอบคลุมทุกอย่างได้ ดังนั้นนี่คือสองสิ่งที่คุณต้องรู้

สิ่งแรก : คือหัวใจ และฐานของกลิ่น สิ่งที่ทำให้เกิดความสมดุลของกลิ่น มันมักจะโดดเด่นที่สุด และจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานที่ยาวนานและ “กลิ่น” มันสามารถคงอยู่ทั่วทั้งห้องได้ เป็นเวลานานหลายชั่วโมง

สอง : โน้ตเหล่านี้มักจะเปลี่ยนจากฤดูกาลหนึ่งไปอีกฤดูหนึ่ง โดยมีโน้ตที่หนักกว่าในน้ำหอมฤดูหนาว

2.เข้าใจตระกูลกลิ่น และฤดูกาล

เรื่องของสภาพอากาศ ก็เป็นตัวแปรอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง เพราะแต่ละฤดูกาล ก็มีอุณหภูมิที่แตกต่างกัน หากคุณกำลังมองหาสิ่งใหม่ๆ ในแต่ละฤดูกาล อย่างเช่นว่า เลือกสิ่งที่เป็นกลิ่นหอมในฤดูใบไม้ร่วง หรือกลิ่นหอมในช่วงฤดูหนาว เช่นโอเรียนเต็ล และไม้ยืนต้น สำหรับวันที่อากาศอบอุ่นพิจารณากลิ่นสมุนไพร กลิ่นดอกไม้สีเขียว และกลิ่นซิตรัส อะไรประมาณนี้…ดังนั้นคุณควรรู้ว่ากลิ่นหอมประเภทไหน สามารถเข้ากับฤดูกาลไหนได้ดีที่สุด

นี่คือหมวดหมู่ตระกูลน้ำหอมพื้นฐาน ได้แก่

โอเรียนเต็ล (Oriental) : บางครั้งจะมีไม้ และดอกไม้ในหมวดหมู่นี้ด้วย แต่โดยปกติจะหมายถึงโน๊ตของอำพัน วานิลลา มัสค์ หรือเครื่องเทศต่างๆ

วู้ดดี้ (Woody) : กลิ่นหอมจากไม้ เช่น ไม้ซีดาร์, ไม้จันทน์, มอส, หญ้าแฝก และอีกมากมาย

สีเขียว (Green) : ตรงกันข้ามกับไม้ “สีเขียว” นั้นเปรียบเสมือนความสดชื่นของป่าหรือทุ่งหญ้าที่ตัดหญ้า

สมุนไพร (Herbal) : ความหอมที่มาจากสมุนไพร อย่างเช่น โรสแมรี่, มิ้นต์, โหระพา, อื่นๆ

ดอกไม้ (Floral) : พบมากที่สุดในกลิ่นหลักและหัวใจของกลิ่น เช่น กุหลาบ, ลาเวนเดอร์, กระดังงา, ลิลลี่

Citrus : เป็นกลิ่นแนวผลไม้ สกุลส้ม กลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยว ให้ความรู้สึกสดชื่น อย่าง เนโรลี่, ส้ม, ส้มโอ ซึ่งเป็นตัวท็อปโน้ตทั่วไป ส่วนมะกรูด เป็นโน้ตตัวฐานที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกสดชื่น กระฉับกระเฉงคล่องตัว

น้ำ (Water) : กลิ่นมหาสมุทร กลิ่นน้ำทะเล หรือน้ำฝน เป็นต้น

ฟรุ๊ตตี้ (Fruity) : ผลไม้ที่นอกเหนือจากซิททรัส กลิ่นของผลไม้ที่ให้กลิ่นหอมหวานๆ เช่น ลูกพีชสด ผลเบอร์รี่ป่า แอปเปิ้ล ฯลฯ จะเป็นกลิ่นที่มีความหอมที่ทำให้ความรู้สึกถึงความสดใส ปนความซุกซน

3.ถามคนที่มีกลิ่นที่ดี เพื่อหาเบาะแส

เมื่อคุณรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโน้ต และหมวดหมู่ของกลิ่นแล้ว หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเลือกกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์คือ การถามผู้ชาย หรือเพื่อน หรือใครก็ตามที่มีกลิ่นตัวหอม ว่ากลิ่นที่พวกเขาใช้คือกลิ่นอะไร และทำไมถึงเลือกใช้กลิ่นประเภทนี้

สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้จากคนเหล่านี้ ก็คือทำไมพวกเขาถึงชอบแบรนด์ หรือกลิ่นเฉพาะ หรือพวกเขาจะพูดถึงวิธีการที่พวกเขาใช้ในการตามหากลิ่นอื่นๆ หรือบางทีพวกเขาสามารถแนะนำห้างสรรพสินค้า แหล่งที่มา รวมถึงสถานที่ๆมีพนักงานที่มีความรู้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งยินดีที่จะช่วยคุณทดลองกลิ่นหอมแต่ละแบบ

และอย่ากังวลกับการที่จะใช้น้ำหอมกลิ่นของคนอื่นให้เหมาะกับตัวคุณ ถึงแม้ว่าคุณทำงานกับผู้ชายคนนั้น และต้องเจอเขาทุกวัน

4.รู้จักกลิ่นคลาสสิก

หากคุณรู้จักกลิ่นคลาสสิคที่ดีที่สุด คุณก็มีกรอบในการตัดสินใจในการเลือกกลิ่นของคุณเอง นอกจากนี้แล้วคุณยังมีบัญชีรายชื่อแบรนด์น้ำหอมอีกหลากหลายกลิ่นให้เลือก เพียงแค่เดินไปที่ห้างสรรพสินค้าแล้วสอบถามเกี่ยวกับกลิ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด เช่น Chanel Bleu หรือ Issey Miyake L’eau D’Issey

5.พิจารณาแรงจูงใจของคุณ

เป้าหมายสุดท้ายของคุณคือ บุคลิกของคุณเป็นอย่างไร หรืออะไรที่มันจะสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนร่วมงานของคุณ กับคนอื่นที่สำคัญ กับเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณได้อย่างไร แล้วอะไรที่จะทำให้คนรอบข้างจดจำคุณ ซึ่งความรู้สึกของพวกเขาทั้งหมดจะเชื่อมโยงกลิ่นที่มีอยู่กับคุณ ดังนั้นคุณต้องหาประเภทที่เหมาะสมกับกลิ่นที่คุณจะใช้ ที่สำคัญอีกอย่างคือ คุณต้องเลือกกลิ่นที่ไม่ฉุนจนเกินไป จนทำให้คนรอบข้างรู้สึกไม่สบายเวลาเข้าใกล้คุณ แต่เลือกกลิ่นที่ทำให้คนอยากอยู่ใกล้คุณ หรือหยุดอยู่ที่คุณ

6.ทดลอง ก่อนตัดสินใจซื้อ

สำคัญที่สุดเลยคือ แนะนำให้เข้าไปเลือกและทดลองน้ำหอมด้วยตัวเองนั้น มันเป็นวิธีที่ดีที่สุด หรือทดลองใช้ขนาดเทสเตอร์ก็ได้ ซึ่งบางแบรนด์นั้นจะมีตัวเทสเตอร์ให้ไปทดลองใช้ฟรี และข้อดีอีกอย่างคือการที่คุณเข้าไปทดลองกลิ่นหอมที่ร้านนั้น ทางร้านก็จะมีผู้เชียวชาญคอยให้คำแนะนำอีกด้วย

และนี่ก็คือ 6 เทคนิคสำหรับการเลือกน้ำหอม ถ้าคุณจะลงทุนกับน้ำหอมโดยเลือกซื้อน้ำหอมตามคนอื่นๆ แล้ว คุณอาจจะต้องจ่ายเงินมากมายจนเกินไป ดังนั้น 6 วิธีที่เราได้แนะนำไปจะสามารถช่วยให้คุณตามหากลิ่นน้ำหอมที่ตรงกับบุคลิกของคุณได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ วิธีเดียวที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ ก็คือต้องทดลองด้วยตัวคุณเองก่อนจึงจะดีที่สุด

Sharry

Writer, Project Editor, Photographer

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save