ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีผู้จัดการทีมมากหน้าหลายตาแวะเวียนกันเข้ามาทำงานอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติในวงการฟุตบอลที่จะมีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จ และล้มเหลวปะปนกันไป

อย่างไรก็ตาม ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มียอดกุนซืออยู่จำนวนหนึ่งที่เชื่อได้ว่า ไม่มีแฟนลูกหนังคนใดกล้าปฏิเสธว่า พวกเขาเหล่านี้ถือเป็นสุดยอดโค้ชผู้ยิ่งใหญ่ และดีที่สุดในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี

6. โจเซ่ มูรินโญ่

“เดอะ สเปเชี่ยล วัน” ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ เชลซี ในช่วงปี 2004-2007 และครั้งที่ 2 ในช่วงปี 2013-2015 ซึ่งเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกรวมกันได้ถึง 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย และคอมมูมินตี้ ชิลด์ 1 สมัย

นอกจากนี้ ในปี 2016-2018 มูรินโญ่ ยังมีโอกาสได้คุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับพาพลพรรค “ปีศาจแดง” คว้าแชมป์ลีก คัพ 1 สมัย และแชมป์ยูโรป้า ลีก 1 สมัย ถึงแม้เขาจะไม่เป็นที่ชื่นชอบของสาวก “เร้ด เดวิลส์” จากสไตล์ทำทีมที่น่าเบื่อก็ตาม

        แน่นอนว่า สถิติการคว้าแชมป์ต่างๆของ มูรินโญ่ นั้น การันตีฝีมือของเขาได้เป็นอย่างดี และในวงการลูหนังเมืองผู้ดีก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความสามารถของ โค้ชชาวโปรตุเกสรายนี้ ซึ่งปัจจุบันกำลังคุมทีม ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ อย่างแน่นอน

5. อันโตนิโอ คอนเต้

ในปี 2016 คอนเต้ เข้ามาทำงานงานในอังกฤษเป็นครั้งแรกกับ เชลซี พร้อมกับ เปป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสเปน ที่เข้ามาคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และมันเป็นเวลาเดียวกับที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ คุม ลิเวอร์พูล มาแล้ว 10 เดือน รวมทั้ง โจเซ่ มูรินโญ่ เข้ามากุมบังเหียน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม เทรนเนอน์ชาวอิตาเลียน พา เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างสุดยอด โดยที่ แมนฯซิตี้ จบฤดูกาลดังกล่าวด้วยอันดับ 3 ลิเวอร์พูล จบอันดับ 4 และ แมนฯยูไนเต็ด จบอันดับ 6 ซึ่งเขาสมควรได้รับการเครดิตอย่างยิ่ง

คอนเต้ สร้างทีม เชลซี ที่แข็งแกร่งทั่วแผ่นในระบบ 3-4-3 โดยมี ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารชาวเบลเยียมยืนเฝ้าเสา เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ยืนประจำการในแนวรับฝั่งขวา วิคตอร์ โมเซส และ มาร์กอส อลอนโซ่ เป็นวิงแบ็ค 2 ฝั่ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ขับเคลื่อนแดนกลาง และเอเด็น อาซาร์ สร้างสรรค์เกมรุก

แม้จะกุมบังเหียนในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เพียง 2 ฤดูกาล แต่ผลงานของ คอนเต้ กับ เชลซี ก็สมควรได้รับเสียงชื่นชมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

4. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

หนึ่งเดียวในฐานะผู้จัดการทีมผู้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย และสุดยอดตำนานตลอดการของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อได้ว่าตลอดเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของชายที่ชื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อีกแล้ว

ตลอดระยะเวลา 27 ปี ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เฟอร์กูสัน สร้างความสำเร็จให้กับ แมนฯยูไนเต็ด อย่างนับไม่ถ้วน รวมทั้งยังปั้นนักเตะขึ้นมาประดับวงการฟุตบอลมากมาย อาทิ เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคล์ส, ไรอัน กิ๊กส์ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้

หลังจาก เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือเมื่อปี 2013 แมนฯยูไนเต็ด ยังไม่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นในยุคของ เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล หรือ โจเซ่ มูรินโญ่ ก็ตาม

3. อาร์แซน เวนเกอร์

เมื่อฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีตำนานกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ฝั่ง อาร์เซนอล ก็มีสุดยอดโค้ชอย่าง อาร์เซน เวนเกอร์ เช่นกัน โดยเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสคุมทัพ “ไอ้ปืนใหญ่” นานถึง 22 ปี และพาทีมคว้าแชมป์มากมาย อาทิ แชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย และเอฟเอ คัพ 7 สมัย

นอกจากนี้ เวนเกอร์ ยังได้รับการยกย่องว่า เป็นกุนซือที่มีสายตาแหลมคมอย่างมากในการปั้น และซื้อนักเตะมาร่วมทีม อาทิ 3 ดาวเตะชาวฝรั่งเศสอย่าง โรแบร์ ปิแรส, เธียร์รี่ อองรี และ ปาทริค วิเอร่า, โคโล่ ตูเร่ กองหลังทีมชาติไอโวรี่ โคสต์, เชส ฟาเบรกัส กองกลางชาวสเปน และเดนนิส เบิร์กแคมป์ ยอดดาวยิงชาวดัตช์

2. เยอร์เก้น คล็อปป์

หนึ่งในกุนซือระดับท็อปของวงการลูกหนังในยุคปัจจุบัน คล็อปป์ พิสูจน์ฝีมือของเขาให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า เก่งกาจเพียงใดไม่ว่าจะเป็นมันสมอง, การวางแท็คติค, การสร้างแรงกระตุ้น, ปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น และแฟนบอล

ตลอดเวลา 4 ปีในถิ่นแอนฟิลด์ โค้ชชาวเยอรมัน พา ลิเวอร์พูล เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปได้ถึง 3 สมัย และคว้าแชมป์มาได้ 1 ครั้ง รวมทั้งกำลังพาพลพรรค “หงส์แดง” คว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีของสโมสรอีกด้วย

        คล็อปป์ สร้าง ลิเวอร์พูล ในยุคของเขาได้อย่างแข็งแกร่ง โดยแนวรับมียอดนายทวารอย่าง อลิสสัน เบ็คเกอร์ ยืนเฝ้าเสา เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ ยืนบัญชาการเกมรับ ขนาบด้วยแบ็ค 2 ฝั่งอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

        ในแดนกลางมี ฟาบินโญ คอยปัดกวาด และขับเคลื่อนเกมด้วย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ขณะที่ 3 แนวรุกระดับโลกอย่าง ซาดิโอ มาเน่, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน พร้อมทำลายคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ คล็อปป์ นั้น น่าจะต่อยอดความสำเร็จไปได้อีกหลายปี

1. เปป กวาร์ดิโอล่า

แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีก คัพ 3 สมัย รวมถึงการทำลายสถิติต่างๆมากมายภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี พร้อมสไตล์การเล่นที่สวยงาม กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้น กวาร์ดิโอล่า สถาปนาตัวเองขึ้นเป็น 1 ในกุนซือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมืองผู้ดีในทศวรรษอย่างไม่ต้องสงสัย

เทรนเนอร์ชาวสเปน เคยคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีกมาแล้วถึง 2 ครั้ง รวมทั้งรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนอีก 7 ครั้ง มันบ่งบอกถึงความสุดยอดของ กวาร์ดิโอล่า ได้เป็นอย่างดี

        ปัจจุบัน กวาร์ดิโอล่า อายุเพียง 49 ปี เท่านั้น และในเส้นทางอาชีพกุนซือ เขายังมีเวลาอีกมากมายที่จะกอบโกยความสำเร็จในอนาคต

ภาพประกอบ : planetfootball.com, bleacherreport.com, telegraph.co.uk, skysports.com