5 สถิติที่ลิเวอร์พูลทำลายก่อนที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 2019/20 - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
5 สถิติที่ลิเวอร์พูลทำลายก่อนที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 2019/20

นานนับ 30 ปี ที่ถ้วยพรีเมียร์ลีกรอคอยให้สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลได้กลับมาชูอีกครั้ง แต่ยิ่งไปกว่านั้นความสุดยอด และความคงเส้นคงวาของพวกเขา ทำให้ถ้วยนี้ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อนๆ ที่ลิเวอร์พูลเคยได้

หลังจากที่พวกเขาถล่มทีมอย่าง คริสตัล พาเลส ไปถึง 4-0 ขั้นตอนต่อไปที่จะทำให้พวกเขาเปนแชมป์ได้ก็คือ ผลลัพธ์ระหว่างคู่ เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

เกมนั้นทีมสิงห์บลูของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมจนถือว่าเป็นเกมที่พวกเขาเล่นได้ดีที่สุดเกมหนึ่งในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว ซึ่งคนที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในเกมนั้นก็คือ คริสเตียน พูลิซิซ และ วิลเลี่ยน

และในทางคณิตศาตร์แล้ว การที่เชลซี เอาชนะไปได้ 2-1 นั่นแปลว่า ไม่มีใครที่สามารถแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปเป็นแชมป์ได้อย่างแน่นอนจนจบฤดูกาล โดยที่ยังมีการแข่งขันที่เหลืออยู่ถึง 7 เกม พวกเขาเป็นแชมป์โดยที่ได้รับชัยชนะถึง 28 เกม จาก 31 เกม ซึ่งเกมเดียวที่เขาแพ้ก็คือ เกมที่ไปเยือน วัตฟอร์ด

แต้มของ หงส์แดง ที่แต้มนำห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 23 คะแนน นั่นคือสิ่งยืนยันว่าพวกเขาคือเบอร์ 1 แห่งอังกฤษตัวจริง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคุณมองไปที่ผลการแข่งขัน หรือ การคัมแบ็คกลับมาชนะในช่วงท้ายเกม ต้องบอกเลยว่า ลิเวอร์พูล ชุดนี้เหมาะสมกับแชมป์อย่างแท้จริง

และในบทความนี้ เรามาดูกันซิว่า เจอร์เก้น ‘mentality monsters’ คล๊อปป์ ได้สร้างสถิติอะไรไปบ้างในระหว่างทาง ก่อนที่พวกเขาจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง

1.ลิเวอร์พูล คือทีมที่คว้าแชมป์โดยที่เหลือเกมลีกมากที่สุดในประวัติศาสตร์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยคว้าแชมป์ได้โดยที่เหลือเกมลีกถึง 5 เกม เหล่ากองทัพสีฟ้าเล่นได้อย่างโหดเหี้ยมในฤดูกาลนั้น พวกเขาตบทุกทีมอย่างไม่หยุดยั้ง และผลลัพธ์ก็คือ 106 ประตู จาก 38 เกม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ อเล็ก เฟอร์กูสัน ในฤดูกาล 2000/01 ก็เช่นกัน พวกเขาก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ โดยที่เหลือเกมให้เล่นถึง 5 เกม แล้วก็จบฤดูกาลโดยการทิ้งห่าง อาร์เซน่อล ที่อยู่ในอันดับ 2 ไป 10 คะแนน

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ในชุดนี้ ยิ่งใหญ่กว่าทีมแชมป์ทุกทีมอย่างไร้ข้อกังขา พวกเขาคว้าถ้วยโดยที่เหลือเกมให้เล่นถึง 7 เกม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อนในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

2.ลิเวอร์พูลตบทุกทีมในลีกได้เป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก

นี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่ ลิเวอร์พูล ได้เขียนไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ พวกเขาชนะทุกทีมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และทำมันด้วยเวลาเพียง 24 เกมเท่านั้น หลังจากที่พวกเขาเอาชนะเวสแฮมไปได้ 2-0 ในบ้านของขุนค้อนเอง

กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ว่าพวกเขาจะพลาดทำแต้มหล่นไป 2 คะแนน ในเล้กแรก แต่พวกเขาก็กลับมาเอาชนะได้ในเล้ก 2 ด้วยสกอร์ 2-0

ส่วนกับทีม แตนอาลวาด ทีมเดียวที่ ลิเวอร์พูล แพ้ให้ หงส์แดงก็ตบมาก่อนหน้านั้นแล้ว ในช่วงเดือน ธันวาคม ในถิ่นแอนฟิลด์

นอกจากนี้ พวกเขายังตบทุกทีมในลีกได้เร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีกเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย โดยสถิติเก่าก็คือ 31 เกม ที่ทำไว้โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมคู่ปรับนั่นเอง

3.ลิเวอร์พูลชนะในบ้านติดต่อกันมากที่สุดในลีก

เกมสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล แพ้ในบ้านก็คือ เกมที่เจอกับ คริสตัล พาเลส ในฤดูกาล 2017/18 และ คริสตัล พาเลส ก็กลับมารับกรรมโดยการช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ โดยที่ยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ใครในบ้านได้อย่างหมดจด

ซึ่งสถิตินี้ โรเบอร์โต้ มันชินี่ สมัยคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยสร้างไว้ด้วยชัยชนะในบ้านยาวนานถึง 20 เกม โดยไม่ทำแต้มหล่นเลยแม้แต่คะแนนเดียว และ ลิเวอร์พูล ก็ได้ทำลายมันลงด้วยสถิติในตอนนี้คือ 23 เกม โดยที่ไม่เคยเสมอ หรือแพ้เลยเช่นกัน

แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายเหลือเกินที่เหล่าแฟนหงส์ ไม่สามารถเข้าไปชมการแข่งขันในถิ่นเมอร์ซี่ไซด์เกมที่เหลือ เพื่อที่จะร่วมอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ฤดูกาลที่น่าเหลือเชื่อนี้ได้

4.หงส์แดงโชว์ฟอร์มในการคว้าแชมป์ได้ดีที่สุดใน 5 ลีกใหญ่

นอกจาก ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว พวกเขายังมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ด้วยคะแนนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกอีกด้วย

ถึงสถิตินั้นจะยังไม่เกิดขึ้นกับพวกเขาในตอนนี้ แต่ก็เป็นไปได้สูงมาก เพราะพวกเขาทำแต้มหล่นไปเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น และนั่นทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน 5 ลีกที่ใหญ่ที่สุดในของยุโรป

ไม่มีทีมใดใน 5 ลีกที่ใหญ่ที่สุดยุโรปที่เก็บได้ 86 คะแนน จาก 31 เกม หรือ 61 คะแนน จาก 21 เกม ได้เลย

หากหงส์แดงยังคงฟอร์มการเล่นเช่นนี้ได้จนจบฤดูกาล แน่นอนว่า พวกเขาจะเพิ่มการทำลายสถิติต่างๆได้อีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้น ความยิ่งใหญ่ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ จะมากจะน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับเกมที่เหลือว่าเขาจะทำได้ดีขนาดไหน

5.โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กลายเป็นชาวอียิปคนแรกที่คว้าถ้วยพรีเมียร์ลีก

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กลายเป็นชาวอียิปคนแรกที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกันกับ ซาดิโอ มาเน่ ที่กลายเป็นชาวเซเนกัลคนแรกที่ได้ถ้วยนี้ คู่หูชาวแอฟริกันของ ลิเวอร์พูล ไชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในการรับบทเป็นกองหน้า 3 ประสาน พวกเขาทั้งเชื่อมเกม และทำเกมสวนกลับ ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความสามารถเฉพาะตัว และการจบสกอร์ที่เฉียบคม ทำให้ทั้งคู่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นอย่างมากในเกาะอังกฤษ

โดยเฉพาะ ซาลาห์ เขาทำลายสถิติไปเยอะมากนับตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่มาอยู่ ลิเวอร์พูล เขากลายเป็นคนแรกที่สามารถทำประตูได้มากกว่า 20 ลูกต่อฤดูกาลถึง 3 ฤดูกาลติดต่อกัน นับตั้งแต่ ไมเคิล โอเว่น จากไป

เขายิงในถิ่นแอนฟิลด์ได้ถึง 15 ลูก จากที่เขายิงทั้งหมด 17 ลูก นั่นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีอัตราส่วนการยิงในถิ่นแอนฟิลด์มากที่สุดในทีมตอนนี้ ด้วยสถิติยิงในบ้านตัวเองอย่างน้อย 10 ลูกขึ้นไป

และในฐานะผู้เล่นตำแหน่งปีกในพรีเมียร์ลีก มีเพียง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คนเดียวเท่านั้น ที่มีสถิติต่างๆดูดีกว่าเขา แต่ในอนาคตอันใกล้ ถ้าเขายังอยู่ในพรีเมียร์ลีก และมีฟอร์มการเล่นที่ดีระดับนี้ รับรองได้เลยว่าเขาจะก้าวข้าม Cr7 ไปได้อย่างแน่นอน

และทั้งหมดนี้ก็คือ สถิติที่เกิดขึ้นในระหว่างทางในฤดูกาล 2019/20 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชูถ้วยลีกสูงสุดของอังกฤษในรอบ 30 ปี และการที่พวกเขาเก็บ 86 คะแนนได้ภายใน 31 เกมพรีเมียร์ลีก มันทำให้พวกเขากลายเป็นแชมป์ 30 ปี ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก ต้องบอกเลยว่า ณ เวลานี้ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของพรีเมียร์ลีก และชาวเดอะค๊อปได้เกิดขึ้นแล้ว

Aekkung
Football / Gaming / BNK48 & CGM48 / Vegetarian / Religious

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save