บ่อยครั้งที่เดินเข้าร้านตัดผม แต่ได้ทรงที่ไม่ถูกใจเอาซะเลย ซึ่งบางครั้งเรามักจะบ่นกันอยู่บ่อยๆ ว่า ทำไมเราถึงไม่ได้ทรงตามที่เราคิดเอาไว้ในหัว? และบางทีคิดทรงไม่ออก บอกช่างตัดผมไม่ถูก แถมบางทีจิ้มตามแบบหนังสือก็ยังไม่ได้ทรงผมอย่างที่ต้องการอีก สุดท้ายต้องลุกออกจากเก้าอี้นั่งแบบเซ็งๆ ได้ทรงผมแบบจำใจกลับบ้านทุกที งั้นวันนี้เรามาหาวิธีสื่อสารระหว่างช่างผมกับเรากันดีกว่า เพื่อให้เข้าใจได้ตรงกันมากขึ้น และเพื่อให้ได้ทรงตามต้องการ มาดูกันว่า 4 เทคนิคที่เราอยากแนะนำวันนี้มีอะไรกันบ้าง ^^
1. ชอบสไตล์ไหน บอกช่างไปให้ชัดเจน!!
ก่อนจะตัดผม แน่นอนมาช่างก็ต้องถามแหละว่าอยากได้ทรงแบบไหน ดังนั้นเราต้องเลือกสไตล์ที่อยากได้ให้ชัดเจน ไปเลย อย่างเช่นว่า คุณอยากได้สไตล์แบบเดิมทรงปัจจุบัน อยากให้ดูโมเดิร์นขึ้นกว่าเดิม ชอบสไตล์หนุ่มเซอร์ๆ หรือหล่อเนี้ยบๆมาดคุณชาย และถ้าอยากให้เห็นภาพมากขึ้น

ก็หาตัวอย่างผมทรงผมที่เราต้องการ แต่ไม่ควรบอกสไตล์ที่ชอบเพียงแค่อย่างเดียว ควรบอกให้ครบทุกความต้องการ พร้อมบอกความคาดหวัง ก่อนจะลงลึกถึงส่วนอื่นๆ ตามมา
2. สั้น/ยาว บอกระดับให้ชัดเจน!!
เพราะช่างตัดผมไม่ใช่หมอดูนะยู คงกะระยะไม่ถูกใจเป๊ะๆ แน่นอน ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ? ว่าสั้นแค่ไหน ยาวแค่ไหน ที่ใจคุณต้องการดังนั้นคุณบอกความยาวชัดๆ ไปเลย “อย่า!!” พูดว่า “ให้สั้นลงกว่าเดิมนิดนึง” หรือ “สั้นกว่านี้” ต้องบอกให้ชัดๆ วัดกันเป็นนิ้วเป็นเซนติเมตรไปเลย ว่าเอาออกประมาณ 1 นิ้ว 2 นิ้วหรือให้ความยาวด้านหลังเท่ากับด้านหน้า

พร้อมทั้งบอกช่างตัดผมไปด้วยว่า ปกติเเล้วคุณตัดผมบ่อยแค่ไหนในแต่ละเดือน เพื่อช่างจะได้กะความยาวของผม ก่อนจะถึงการตัดใหม่ครั้งต่อไป ^^
3. กันทรงท้ายทอยก็สำคัญ!!
โดยส่วนใหญ่แล้วทรงผมของผู้ชายแบบรองทรง จะดูต่างก็ตรงการกันทรงด้านหลังศีรษะนี่แหละ ซึ่งระดับความสั้น/ยาว จะขึ้นอยู่กับช่วงคอ และรูปหน้าของแต่ละคน อันนี้คุณสามารถเลือกได้ว่าให้กันท้ายทอยทรงแบบไหน จะทรงเหลี่ยม ทรงโค้ง หรือ V shape เพราะช่างตัดผมส่วนใหญ่มักจะเลือกตัดเองตามใจโดยไม่ได้ถามคุณก่อน

แต่รู้หรือเปล่าว่า มันมีผลต่อรูปหน้าของคุณ ซึ่งการกันขอบตัดเหลี่ยมก็จะช่วยพรางตาให้ต้นคอใหญ่ๆ ดูเพรียวขึ้น ในขณะที่ช่วงคอจะดูยาวขึ้นถ้ากันทรงแบบตัดโค้ง ส่วนการกันทรงแบบเฟดเป็นตัว V จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติไม่สะดุดตามากนัก เหมาะกับคนที่อยากให้ดูสมูธกันมากขึ้น
4. “คำพูดต้องห้าม” ในร้านตัดผม!!
หลายคนคงคิดว่า สิ่งที่ตัวเองบอกช่างไปนั้น มันเข้าใจยากตรงไหนกัน? อย่างเช่น คำที่ใช้บอกช่างที่หลายคนติดปาก 2 คำนี้ถ้าพูดไปจะยิ่งเกิดความสับสนให้กับช่าง นั่นก็คือคำว่า “ตัดให้ดูเปลี่ยนไปจากเดิม” หรือ “ตัดผมไล่เลเยอร์” เพราะทั้ง 2 แบบนี้เป็นสิ่งที่ช่างจะตัดออกมาให้เห็นคือความยาวที่หายไปเท่านั้นเอง หรือ คำว่า “ตัดให้สั้นลงกว่าเดิมนิดนึง” หรือ “ตัดสั้นกว่านี้” ถ้าไม่ระบุให้ชัดเจนว่ากี่เซน กี่นิ้ว คุณก็เตรียมใจได้เลยว่า สิ่งที่คุณคิดไว้ กับสิ่งที่ช่างคิดนั้น มันไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน

นี่ก็เป็นเทคนิคในการช่วยให้คุณสื่อสารกับช่างให้เข้าใจมากขึ้น หวังว่าตัดผมคราวหน้า คุณจะได้ทรงผมตามที่ต้องการก่อนออกจากร้านนะ เอาเป็นว่าถ้าใครมีเทคนิคที่ดีก็เอามาแชร์กันได้ที่แฟนเพจของเรากันได้เนอะ ^^