การพูดเป็นการคือการส่งสารที่ผู้รับสารสามารถเข้าใจได้ง่ายที่สุด อย่างไรก็ตามการพูดที่ดีเพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้ฟังนั้นเป็นศิลปะขั้นสูงที่น้อยคนจะทำได้ หลายคนคงสงสัยว่านักพูดเก่งๆ เขามีเคล็ดลับอย่างไร ทำไมเวลาพวกเขาพูดอะไรออกไปถึงได้จับใจคนผู้ฟัง ทำให้ผู้ฟังเข้าใจง่าย เคลิ้มตาม และดูมีความน่าเชื่อถือ ใครที่อยากรู้ต้องตามมาหาคำตอบกัน เพราะเราได้รวบรวม 3 เคล็ดลับสุดยอดเทคนิคการพูดที่ได้ไว้ให้คุณแล้ว

พูดไม่ต้องเยอะ เอาแต่สาระเน้นๆ

คนที่พูดดี พูดเก่ง ไม่จำเป็นต้องพูดมากเสมอไป ลองสังเกตดีๆ คนที่พูดน้อยก็เป็นนักพูดที่ดีได้ แถมยังโดนใจผู้ฟังที่เป็นคนรุ่นใหม่อีกด้วย เพราะคนสมัยนี้ไม่ชอบการฟังอภิปรายอะไรเยิ่นเย้อ แต่ชอบฟังสิ่งที่เป็นสาระ แก่นของเนื้อหา มีการลำดับเรียบเรียงเนื้อหาที่ดี เป็นขั้นเป็นตอน กระชับได้ใจความ ไม่วกไปวนมา

นักพูดที่สามารถวางแผนการพูดได้ในลักษณะนี้ย่อมเป็นที่ชื่นชอบของผู้ฟังทั้งหลาย อีกทั้งการพูดน้อยยังเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนรอบข้างมองว่าผู้พูดเป็นคนสุขุมเยือกเย็นอีกด้วย

สื่อสารได้ตรงประเด็นไม่อ้อมคอม

เคล็ดลับต่อมาคือ การที่คุณจะเป็นนักพูดที่ดีได้นั้น คุณจำเป็นต้องเป็นนักฟัง และนักจับสัญญาณที่ดีก่อน เพื่อจะได้นำข้อมูลที่ได้มาวางแผนสื่อสารกลับไปอย่างชัดเจน ตรงประเด็น ในกรณีที่คุณขึ้นปราศรัย คุณต้องมองและสังเกตปฏิกิริยาตอบรับของผู้ฟังด้วยว่าพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้างระหว่างที่ฟังคุณพูด ไม่ใช่สักแต่พูดไปเรื่อยๆ ให้จบตามที่เตรียมมา หากรู้สึกว่าผู้ฟังมีข้อสงสัย เริ่มเบื่อ ง่วงนอน คุณจะต้องเปลี่ยนโทนการพูดทันที เพื่อเป็นการแสดงว่าคุณใส่ใจผู้ฟังเสมอ หากเป็นการอภิปราย หรือดีเบต คุณจะต้องพยายามจับใจความที่อีกฝ่ายนำเสนอมา คิดวิเคราะห์ และตอบโต้อย่างตรงประเด็นด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตามการที่จะประสบความสำเร็จในข้อนี้ได้ นอกจากคุณจะต้องเป็นนักฟังและนักจับสัญญาณที่ดีแล้ว คุณจำเป็นต้องมีความรู้จริงในเรื่องที่จะขึ้นพูดปราศรัย อภิปราย หรือดีเบต หากไม่รู้จริงแล้ว ขึ้นไปพูดปล่อยไก่ หรือดับคาเวทีดีเบต ย่อมเป็นการดิสเครดิตตัวเองในเรื่องที่คุณพูด ผู้ฟังจะเข้าใจว่าคุณรู้ไม่จริง

ใช้ภาษากายได้อย่างเหมาะสม มีชีวิตชีวา

นักพูดเก่งๆ จะเวลาที่พวกเขาขึ้นเวทีพูดต่อหน้าสาธารณชนนั้น เขาไม่ได้เพียงแค่ขยับปากพูดเท่านั้น แต่มีการใช้ภาษากาย ท่าทางต่างๆ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม การใช้ภาษากายควรใช้แต่พอดี ไม่โบกไม้โบกมือ Over Action เกินไปจนน่ารำคาญ และจะต้องมีการใช้น้ำเสียงขึ้นลงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่พูดแบบโมโนโทนกล่อมผู้ฟังจนหลับ

ซึ่งทักษะการใช้ภาษากายควบคู่กับการพูดปราศรัยนั้น เพื่อนๆ สามารถศึกษาได้จากนักพูดไอดอลที่คุณชื่นชอบ ดูเขาพูดบ่อยๆ แล้วมันจะซึมซับเองครับ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอยากพูดขายของเก่ง ก็ให้ดูลีลาการนำเสนอสินค้าของ อิลอน มัสค์ แห่ง Tesla หรือ สตีป จ็อบส์ แห่ง Apple เป็นต้น คุณจะได้เรียนรู้ว่าพูดอย่างไรให้ผู้ฟังคล้อยตามอยากซื้อสินค้า จนขายดีเป็นเทน้ำเทท่าได้ขนาดนั้น

และนี่ก็คือ 3 เคล็ดลับการพูด อภิปราย ปราศรัยให้จับใจผู้ฟัง สร้างความน่าเชื่อถือที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ชาว The Macho ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นเคล็ดลับเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน ซึ่งทั้งหมดนี้ เมื่อได้ทราบแล้วก็อย่าลืมนำไปฝึกฝนกันให้ช่ำชอง เพราะมันจะช่วยให้การสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพ ดูมีความเป็นผู้นำมากขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องพูดเยอะเกินไป