ทำความรู้จัก 16 นักเตะ “วัน แมน คลับ” ที่คุณอาจลืมนึกถึง - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ทำความรู้จัก 16 นักเตะ “วัน แมน คลับ” ที่คุณอาจลืมนึกถึง

ถึงโลกฟุตบอลในระยะหลัง จะมีความเป็น “ธุรกิจ” เข้ามาปะปนมากขึ้น จนเรื่องของความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อสโมสรของนักเตะ เริ่มเป็นเครื่องหมายคำถาม

แต่มันก็มีนักเตะอีกหลายคนเหมือนกัน ที่พวกเขาพิสูจน์ตรงนั้น ในฐานะ “วัน แมน คลับ” หรือนักเตะที่เล่นรับใช้สโมสรเดียว ตลอดอาชีพค้าแข้ง

ในยุคหลัง เราจะคุ้นกับนักเตะอย่าง แกรี่ เนวิลล์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิกส์ ของยูไนเต็ด
(Source : Football365)

“วัน แมน คลับ” ที่แฟนบอลคุ้นเคย ก็มีนักเตะดังหลายราย อย่างเช่น ฟรานเชสโก้ ต็อตติ, ไรอัน กิกส์, พอล สโคลส์, แกรี่ เนวิลล์, คาเลส ปูโยล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เปาโล มัลดินี่ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนถูกจดจำในแง่ความซื่อสัตย์ และความเป็นมืออาชีพ ที่พร้อมจะยืนหยัดกับสโมสรมายาวนาน นับตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง จนแขวนสตัดท์

คลาสสิกหน่อย คงต้องนึกถึงฟรังโก้ บาร์เรซี่ กับ เปาโล มัลดินี่ ยอดกองหลังมักกะโรนี
(Source : FMM Vibe)

รายชื่อที่ว่ามา แน่นอนว่าน่าสนใจ แต่ก็มีคนพูดถึงกันมามากแล้ว วันนี้เราเลยอยากพาไปรู้จัก “วัน แมน คลับ” คนที่คุณอาจลืมกันบ้าง เพราะแต่ละคนมีสตอรี่ และมีความซื่อสัตย์กับสโมสรไม่แพ้กัน เพียงแต่ด้วยชื่อชั้น หรือยุคสมัย อาจตกหล่นในความคิดไปบ้าง

และเพื่อไม่ให้หลุดกรอบไปมาก 16 นักเตะ “วัน แมน คลับ” ที่พาไปนึกถึงในวันนี้ เลยขอเลือกเอาที่มีชื่อเสียงระดับนึง และเลิกเล่นกันหลังปี 2000 เพราะเก่ากว่านั้น มีอีกเพียบเลย ให้พูดถึง

โทนี่ ฮิบเบิร์ต (เอฟเวอร์ตัน : 2000-2016)

จากเด็กท้องถิ่น สู่อคาเดมี่ และอยู่รับใช้เอฟเวอร์ตันยาวนาน 25 ปี
(Source : The Telegraph)

แบ็คขวาสู้ฟัดแบบสไตล์โบราณ เป็นคนเมืองลิเวอร์พูล และอยู่กับเอฟเวอร์ตันตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน ก่อนจะรับใช้สโมสรอย่างยาวนาน โดยหากนับตั้งแต่เข้าสู่ระบบอคาเดมี่ เขาอยู่กับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” นานเกิน 25 ปี

ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่ได้สวยหรู และมีช่วงที่ยึดตัวจริงได้ไม่ถึงกับสม่ำเสมอนัก ทำให้หลายคนลืมไปว่าฮิบเบิร์ต ไม่เคยย้ายไปไหน เขากับ “ลีออน ออสมัน” ถือเป็นลูกหม้อที่ซื่อสัตย์ และทุ่มเทเวลาลงเล่นให้สโมสรเสมอ

โรแม็ง ดานเซ่ (แรนส์ : 2006-2018)

ดานเซ่ ตำนาน และกัปตันทีมของแรนส์ ที่ได้รับการยกเลิกเบอร์เป็นเกียรติ
(Source : Be Sport)

อีก 1 แบ็คขวาสไตล์ไม่หวือหวา แต่อยู่รับใช้แรนส์ในลีกเอิง มายาวนานตั้งแต่เยาวชนรวม 18 ปีเต็ม โดยมันน่าจะแตะหลัก 20 ปีด้วยซ้ำ หากเขาไม่แขวนสตัดท์เร็วไปหน่อย ด้วยวัย 32 ปี

ดานเซ่เล่นให้กับแรนส์ไปมากกว่า 350 นัด นับตั้งแต่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2006 โดยการรีไทร์ของเขา สโมสรได้ทำการยกเลิกเบอร์ 29 หมายเลขเสื้อประจำของเจ้าตัว เพื่อเป็นเกียรติในการรับใช้สโมสรมาอย่างยาวนาน

ดีเตอร์ ไอลส์ (แวร์เดอร์ เบรเมน : 1985-2002)

ไอลส์ จอมทัพคนสำคัญของเบรเมน ซึ่งเป็นผู้นำทั้งใน และนอกสนาม
(Source : n-tv)

ย้อนยุคกันไปหน่อย คุณไม่ควรจะลืมหนึ่งในมิดฟิลด์ที่มีความเข้าใจเกมสูง และมีความเป็นผู้นำที่หาตัวจับยากของ “เจ้านกนางนวล” แวร์เดอร์ เบรเมน ที่ชื่อว่าดีเตอร์ ไอลส์ เจ้าของแชมป์บุนเดสลีก้า 2 สมัย และอยู่ในชุดแชมป์ยูโร 1996 กับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน อีกด้วย

โดยตำแหน่งแล้ว ไอลส์เป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ที่คอยกำกับจังหวะของเกม รับใช้เบรเมนยาวนานถึง 18 ปี นอกจากนั้นเขายังสามารถเล่นตำแหน่งตัวโฮลด์บอล และสลับขึ้นลงกับตำแหน่งลิเบอร์โร่ ในทีมชาติเยอรมัน อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แพ้กัน

ชาบี ปริเอโต้ (เรอัล โซเซียดัด : 2003-2018)

ปริเอโต้ มิดฟิลด์เชิงสูง ซึ่งลงเล่นเป็นตัวจริงให้โซเซียดัดสม่ำเสมอ จนแขวนสตัดท์
(Source : Diario AS)

มิดฟิลด์ตัวกลาง และด้านข้าง เกิดและเติบโตในเส้นทางฟุตบอลที่เมืองซาน เซบาสเตียน เมืองในแคว้นบาสก์ ที่มีเรอัล โซเซียดัด เป็นทีมประจำเมือง โดยเขารับใช้ทีมมาอย่างยาวนานเกือบ 20 ปี ลงเล่นสม่ำเสมอ ไม่ต่ำกว่าซีซันละ 30 นัด จนถึงตอนแขวนสตัดท์ในวัย 35 ปี

ดเด่นของปริเอโต้ คือทักษะการครองบอลที่เนียนตา และมีความนิ่งเต็มเปี่ยมในการรับหน้าที่สังหารจุดโทษ หรือเล่นเซ็ตพีซให้ทีม เขาเคยเฉียดจะติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่อยู่หลายหน แต่ก็พลาดไป ติดแค่ระดับยู-21 เท่านั้น

แกรี่ เคลลี่ (ลีดส์ ยูไนเต็ด : 1991-2007)

เคลลี่ แบ็คขวาจอมขยัน ผู้ร่วมหัวจมท้ายกับ “ยูงทอง” มายาวนาน
(Source : Pinterest)

แบ็คขวาชาวไอริช อยู่กับทีม “ยูงทอง” มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยุคก่อนพรีเมียร์ลีก ผ่านยุคทองที่ลีดส์เปรี้ยงปร้างจากดาวรุ่งเด็กนรก จนไปถึงยามที่ทีมต้องกระเด็นตกชั้นหล่นไปแชมป์เปียนชิพ เคลลี่ก็ยังอยู่กับทีมอย่างเหนียวแน่น รับใช้สโมสรมากกว่า 550 นัด

ก่อนจะมาอยู่กับลีดส์ในช่วงเยาวชน เคลลี่เล่นให้ทีมเล็กๆ ในไอร์แลนด์บ้านเกิด ก่อนที่ความสามารถจะไปเตะตา “โฮเวิร์ด วิลกินสัน” แล้วก็ค่อยๆ ไต่เต้า จนขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริง ได้ตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี เป็นต้นมา

มาร์ค พลานุส (บอร์กโดซ์ : 2002-2015)

พลานุส กองหลังที่อยู่กับบอร์กโดซ์ยาวนาน และเคยขึ้นไปติดทีมชาติฝรั่งเศสด้วย
(Source : RMC Sport – BFMTV)

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมแกร่ง เกิดที่เมืองบอร์กโดซ์ และอยู่กับสโมสรมาตั้งแต่เป็นเยาวชน จนก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ในปี 2002 รับใช้สโมสรอย่างยาวนาน 13 ปี มีทั้งช่วงฟอร์มเด่น จนขึ้นไปถึงติดทีมชาติฝรั่งเศส และช่วงฟอร์มตก ซึ่งส่งผลกับผลงานทีมโดยตรง

พลานุสอยู่ในทีมชุดแชมป์ลีกเอง สมัยสุดท้ายของบอร์กโดซ์เมื่อปี 2008/09 ซึ่งคุมทีมโดย “โลร็องต์ บล็อง” โดยแนวรับนำทีมโดยพลานุส ส่วนเกมรุกมีทั้ง มารูยาน ชามัคห์, เฟร์นานโด คาวาเนกี และโยฮัน กูร์คูฟฟ์

โรเจริโอ เซนี่ (เซา เปาโล : 1993-2015)

นอกจากลงเล่นสม่ำเสมอยาวนานเป็นพันนัด เซนี่ยังมีทีเด็ดในการพังประตูจากเซ็ตพีซ
(Source : Bleacher Report)

ผู้รักษาประตูบราซิเลียน ผู้มีเอกลักษณ์ในการซัดฟรีคิก และยิงจุดโทษ จนเขาสามารถผลิตสกอร์ได้มากกว่า 130 ลูก ตลอดอาชีพค้าแข้ง โดยเขารับใช้เซา เปาโลยาวนาน 22 ปี คว้ามาหมดทั้งแชมป์ลีก, โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส, ศึกสโมสรโลก น่าเสียดายตรงที่ติดธงทีมชาติน้อยไปนิด เพราะเจอคู่แข่งเก่งๆ หลายคนขวางอยู่

ความจริงแล้ว เซนี่ได้ขยับขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ กับสโมสรเล็กๆ ที่ชื่อว่าซิน็อป ตั้งแต่อายุ 17 แต่ยังไม่ทันลงแมทช์เป็นทางการ ก็ย้ายมาร่วมทีมใหญ่อย่างเซา เปาโล เสียก่อน ก่อนจะเริ่มเป็นมือ 1 เต็มตัวตอนอายุราว 24 ปี แล้วก็ยืนระยะยาวนานจนอายุ 42 ปี ลงเล่นให้ทีมไปเกินกว่า 1,200 นัด

ยานนิส กูมาส (พานาธิไนกอส : 1994-2009)

ถึงจะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อย แต่กูมาสก็ยืนหยัดเล่นให้ทีมยาวนาน 15 ปี
(Source : Paraskhnio)

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวไม่สูงใหญ่ และสามารถเล่นมิดฟิลด์ตัวรับได้ด้วย มีจุดเด่นด้านการสอดประสาน และการเข้าประกบตัว อยู่กับพานาธิไนกอส ตั้งแต่ระดับอคาเดมี่ ได้ประเดิมตัวจริงชุดใหญ่ในปี 1994 และรับใช้ทีมนาน 15 ปี กวาดแชมป์ลีกกรีซ 3 สมัย

นอกเหนือจากการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น กูมาสยังมีจุดเด่นเรื่องการสอดขึ้นมาทำประตู ถึงจะลงเล่นต่อซีซันไม่ถึงกับเยอะ เพราะมีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ก็ทำประตูให้ทีมเกินกว่า 30 ลูก เคยยิงทีมอย่างยูเวนตุส หรือเรอัล มาดริด ในฟุตบอลยุโรปมาแล้ว

มิเคล อรันบูรู (เรอัล โซเซียดัด : 1997-2012)

อีกหนึ่งตำนานของโซเซียดัด เจ้าของชั้นเชิง และเทคนิคการเล่นที่ไม่แพ้ปริเอโต้
(Source : Mundo Deportivo)

ก่อนการจะขึ้นมาของปริเอโต้ ที่เราพูดถึงไปแล้ว ก็มีอรันบูรู นี่แหละ ที่รับใช้ทีมแบบวัน แมน คลับ โดยมิดฟิลด์เชิงสูง เติบโตมาจากระบบเยาวชนของทีม และได้ประเดิมลงเล่นชุดใหญ่ให้โซเซียดัด ตั้งแต่อายุ 18 ปี ในยุคของยอดกุนซือ “ฆาเบียร์ อิรูเอต้า”

ตลอดระยะเวลาที่รับใช้ทีม อรันบูรูร่วมหัวจมท้ายกับทีมมาทุกรูปแบบ เขาเคยอยู่ในทีมชุดที่ขยับขึ้นไปสูงถึงจบรองแชมป์ลาลีก้า ด้วยการประสานงานแนวรุกของ นิฮัต คาเวซี่, ดาร์โก้ โควาเซวิช, วาเลรี่ คาร์ปิน รวมถึงเคยตกต่ำตกชั้นลงไปเซกุนด้า ก็เคยเช่นกัน

มาร์โค โบเด้ (แวร์เดอร์ เบรเมน : 1989-2002)

มิดฟิลด์พลังม้าของเบรเมน ผู้เคยผ่านรอบชิงทั้งฟุตบอลโลก และยูโร มาแล้ว
(Source : Die DeichStube)

นอกเหนือจากดีเตอร์ ไอลส์ ที่เป็นเหมือนจอมบุ๋นของทีมแล้ว “เจ้านกนางนวล” ยังมีโบเด้ ผู้เป็นเหมือนสายบู๊ คอยเป็นพลังขับเคลื่อนในตำแหน่งตัวรุกด้านข้าง โดยเขาผลิตสกอร์ให้ทีมตลอดอาชีพค้าแข้ง 150 ลูก

นอกเหนือการรับใช้เบรเมนเพียงแค่สโมสรเดียว โบเด้ยังก้าวขึ้นไปติดทีมชาติเยอรมัน 40 นัด โดยมีไฮไลต์สำคัญ ด้วยการมีส่วนร่วมในรอบชิงรายการใหญ่ กับการเป็นสำรองในนัดเป็นแชมป์ยูโร 1996 และลงตัวจริงในฟุตบอลโลก 2002 นัดชิงดำ ที่ “อินทรีเหล็ก” พ่ายบราซิล 0-2

สตีฟ เชรุนโดโล่ (ฮันโนเวอร์ : 1999-2014)

เชรุนโดโล่ นักเตะอเมริกัน ผู้เลือกไปลงเล่นอาชีพที่เยอรมัน และอยู่กับทีมเดียวโดยตลอด
(Source : MLS Soccer)

เรายังอยู่ในเยอรมัน แต่เคสวัน แมน คลับ เคสนี้แปลกกว่าคนอื่น เพราะเชรุนโดโล่เป็นนักเตะชาวอเมริกัน แต่กลับลงเล่นให้ทีมในลีกเมืองเบียร์อย่างฮันโนเวอร์ ตลอดอาชีพค้าแข้ง โดยนอกจากการใช้ชีวิตกลมกลืน ใช้ภาษาด๊อยซ์คล่องแคล่ว เขายังเป็นที่รักของแฟนบอลฮันโนเวอร์ ที่เรียกเขาเล่นๆ ว่า “โดโล่”

จุดเริ่มต้นอาชีพของเชรุนโดโล่ ไม่ได้แตกต่างจากนักเตะอเมริกันคนอื่น เขาเรียนระดับมหาวิทยาลัย และเป็นนักเตะที่โดดเด่นสมัยเรียนที่พอร์ทแลนด์ เพียงแต่สมัยนั้น ฟุตบอลในอเมริกาไม่ได้บูมนัก พอมีโอกาสเตะตาฮันโนเวอร์ ที่อยู่ระดับลีก้า 2 ของเยอรมัน เขาก็เลยย้ายถิ่นมาเล่นฟุตบอลอาชีพที่นั่น และอยู่ยาว 15 ปี ลงเล่นให้ทีมเกินกว่า 400 นัด แถมเมื่อแขวนสตัดท์ ยังผันตัวเป็นโค้ชเยาวชนให้ทีมต่ออีกด้วย

ริชาร์ด รูฟัส (ชาร์ลตัน : 1993-2004)

รูฟัส กองหลังตัวแกร่ง ซึ่งเคยโชว์ฟอร์มจนหลายสื่อเชียร์ให้ถูกเรียกติดทีมชาติ
(Source : The Telegraph)

แฟนบอลพรีเมียร์ลีกยุคหลังคงไม่ค่อยคุ้นชื่อรูฟัสเท่าไหร่ แต่ถ้าย้อนไปในยุคหลังปี 2000 ที่ทีม “ดาบอัศวิน” ชาร์ลตัน โลดแล่นบนพรีเมียร์ลีก รูฟัสถือเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ฟอร์มโดดเด่น และมีหลายเสียงเชียร์ให้ติดทีมชาติอังกฤษ เพียงแต่ “สเวน โกรัน-อีริกส์สัน” ไม่ได้สนใจเรียกเขาติดทีม

จุดเด่นในการเล่นของรูฟัส คือการใช้พละกำลัง และความเร็วเข้ากดดันแนวรุกฝั่งตรงข้าม ซึ่งส่งผลต่ออาการบาดเจ็บที่เข่าที่เรื้อรัง และทำให้เขาเริ่มหายหน้าไปบ่อยครั้ง จนสุดท้ายต้องแขวนสตัดท์ด้วยวัยเพียง 29 ปี ซึ่งถึงจะรับใช้สโมสรไม่เต็ม 10 ปีดี แต่เขาก็ถูกนับเป็นตำนานของทีม และเคยถูกโหวตว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุด ที่สโมสรเคยมีมา

มาร์กอส (พัลไมรัส : 1992-2011)

เจ้าของแชมป์โลก 2002 กับบราซิล แต่ไม่ค่อยมีใครจดจำเขาได้เท่าไหร่
(Source : Sportskeeda)

หากพูดถึง “แซมบ้า” บราซิล ในชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 หลายคนคงนึกถึง 4R อย่างโรแบร์โต้ คาร์ลอส, ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่ และโรนัลโด้ แต่จะมีใครจำได้มั้ยว่าโกล์ที่ลงเล่นทุกนาทีในทัวร์นาเมนต์คือใคร? เขาคนนั้นคือมาร์กอส ผู้รักษาประตูผู้รับใช้พัลไมรัส เพียงสโมสรเดียว ตลอดอาชีพค้าแข้ง

มาร์กอส เริ่มลงประเดิมสนามให้ชุดใหญ่ของพัลไมรัส ตั้งแต่อายุ 19 เมื่อปี 1992 ถึงจะใช้เวลาไม่น้อย กว่าจะก้าวขึ้นมายึดมือ 1 ของทีม แต่เขาก็ไม่คิดย้ายไปไหน ปักหลักกับทีมมายาวนาน 19 ปี มีส่วนร่วมคว้าแชมป์มากมาย และก้าวขึ้นไปติดทีมชาติบราซิลในช่วงนึง รวม 29 นัด

ฟราน กอนซาเลซ (เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า : 1988-2005)

มิดฟิลด์เชิงสูงของ “ซูเปอร์เดปอร์” ซึ่งมีโอกาสย้ายไปมาดริด แต่เขาเลือกปฏิเสธ
(Source : Deportivo de La Coruña)

มิดฟิลด์จอมเทคนิค ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ร่วมหัวจมท้ายกับทีมมาครบทุกรสชาติ โดยนอกเหนือจากการรับใช้สโมสรยาวนาน 17 ปี เขายังก้าวขึ้นไปติดทีมชาติสเปน 16 นัด และเคยเกือบเซ็นสัญญาย้ายไปเรอัล มาดริด เมื่อทุกอย่างตกลงเรียบร้อย แต่เขาเปลี่ยนใจ และขออยู่ในถิ่นริอาซอร์ ต่อไป

ซีซันที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งของฟราน คือปีที่ “ซูเปอร์เดปอร์” คว้าแชมป์ลาลีก้าได้สำเร็จ ในฤดูกาล 1999/2000 ซึ่งทีมกุมบังเหียนโดย “ฆาเบียร์ อิรูเรต้า” และมีนักเตะน่าสนใจ ทั้งเมาโร ซิลวา, โดนาโต้, ดัลมินญ่า, รอย มาคาย โดยนอกจากเด่นในลีก ยังเล่นได้แข็งแกร่งในบอลสโมสรยุโรป สมัยนั้นอีกด้วย

บูเลน คอร์คมาซ (กาลาตาซาราย : 1987-2005)

ฉายา “นักรบ” แห่งกาลาตาซาราย ที่ได้มาจากหยาดเหงื่อ และหยดเลือด ของเขา
(Source : Aslan Arenası)

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งทีมกาลาตาซาราย และรับใช้ทีมชาติตุรกีเกิน 100 นัด เริ่มต้นตำแหน่งตอนเด็ก ด้วยการเป็นผู้รักษาประตู ก่อนจะย้ายไปเรื่อย แล้วมาลงเอยที่กองหลังตัวกลาง ซึ่งทำให้เขาโดดเด่นตั้งแต่วัยรุ่น และมีโอกาสได้ย้ายไปยังบุนเดสลีก้าแต่เด็ก เพียงแต่เขาเลือกอยู่กับยอดทีมในลีกเติร์กต่อไป

เจ้าของฉายา “กัปตันผู้ยิ่งใหญ่” และ “นักรบ” ทุ่มเทเกินร้อยทุกนัด เขารับใช้กาลาตาซาราย นาน 19 ปี กวาดแชมป์ลีกสูงสุด 8 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย และอยู่ในชุดทีมชาติตุรกี ที่ไปได้ไกลที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ด้วยการจบอันดับ 3 ในปี 2002

อูเว่ คัมส์ (โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค : 1982-2004)

คัมส์ ผู้เฝ้าเสาให้ “สิงห์หนุ่ม” ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ โดยแขวนถุงมือตอนอายุ 42 ปี
(Source : 11Freunde)

ปิดท้ายกันด้ายตำนานผู้รับใช้ “สิงห์หนุ่ม” มายาวนาน 22 ปี อย่างคัมส์ ผู้รักษาประตูเลือดนักสู้ ซึ่งประเดิมลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุแค่ 19 ปี ก่อนจะยืนหยัดลงเล่นทั้งในระดับบุนเดสลีก้า และลีก้า 2 เฝ้าเสารวมทุกถ้วยเกือบ 700 นัด ก่อนจะแขวนถุงมือในวัย 42 ปี

คัมส์เริ่มขึ้นมายึดมือ 1 ของกลัดบัค ในซีซัน 1986/87 และลงเล่นเป็นตัวหลักมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงปี 1999-2001 ที่ทีมตกชั้นลงไปในลีก้า 2 เขาก็ยังปักหลักเป็นมือ 1 ของทีม แม้จะอายุเกิน 35 ปี และมีส่วนสำคัญ ในการพาทีมกลับขึ้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง

Picture : Blog do Rica Perrone, Getty Images, Pinterest, El Desmarque, Football365, FMM Vibe, The Telegraph, Be Sport, n-tv, Diario AS, RMC Sport – BFMTV, Bleacher Report, Paraskhnio, Mundo Deportivo, Die DeichStube, MLS Soccer, Sportskeeda, Deportivo de La Coruña, Aslan Arenası, 11Freunde

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save