การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้น มันจะสามารถรับประกันได้ว่า คุณจะมีรายได้อย่างมหาศาลอย่างแน่นอน เพราะบรรดา 20 สโมสรในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีนั้น มักจะมีรายได้หลั่งไหลเข้ามาจากหลายๆทาง อาทิ การถ่อยทอดสด, ค่าตั๋วจากแฟนบอล และสเปอนเซอร์ต่างๆ

        อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลนี้ มีนักเตะอยู่กลุ่มหนึ่งที่พวกเขาไม่สามารถตอบแทนรายได้ที่สโมสรมอบให้อย่างคุ้มค่านัก ซึ่งบางคนฟอร์มตก, มีปัญหาเรื่องการปรับตัว หรือได้รับบาดเจ็บยาวจนแทบไม่ได้ลงสนามเลยช่วยทีมเลยแม้แต่เกมเดียว และนี่คือ 10 ผู้เล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีที่ทำผลงานได้ไม่คุ้มค่าเหนื่อยประจำซีซั่นนี้

1. อังเดร ยาร์โมเลนโก (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ค่าเหนื่อย 115,000 ต่อสัปดาห์)

       ในฤดูกาลนี้ ยาร์โมเลนโก ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกให้กับ เวสต์แฮม ไปเพียง 15 เกมเท่านั้น และยิงได้เพียง 3 ประตู  โดยปีกชาวยูเครน โชคร้ายได้รับบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายมาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว และต้องพักยาวถึง 6 เดือน ก่อนจะกลับมาลงสนามได้เมื่อไม่นานมานี้

เวสต์แฮม คาดหวังว่า ยาร์โมเลนโก จะเข้ามายกระดับเกมรุกของพวกเขาหลังยอมทุ่มเงินถึง 22 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน แต่เวลานี้ดูเหมือนว่า ดาวเตะวัย 30 ปี จะกลายเป็นการทำธุรกิจที่ล้มเหลวสำหรับ “ขุนค้อน” ไปเสียแล้ว

2. ฆวน มาต้า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าเหนื่อย 160,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)

ตัวรุกชาวสเปน เป็นนักฟุตบอลที่มีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก และไม่เคยมีข่าวเสียหายเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาค่าเหนื่อย 160,000 ต่อสัปดาห์ของเขานั้น มาต้า ควรจะทำผลงานให้กับ แมนฯยูไยเต็ด ได้ดีกว่านี้

ในซีซั่นนี้ ปีกเลือดกระทิงดุ ลงเล่นในลีกให้กับ แมนฯยูไยเต็ด ไปแล้ว 16 เกม และยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว และหากนับย้อนไปตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น ดาวเตะวัย 31 ลงเล่นในฐานะตัวจริงให้กับ “ปีศาจแดง” เพียงเกมเดียวเท่านั้น

หาก มาต้า ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ในช่วงครึ่งซีซั่นที่เหลือนั้น มันก็เป็นไปได้ว่า เขาอาจจะโดนปล่อยออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็เป็นได้ 

3. ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ (ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ค่าเหนื่อย 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)

กองกลางเจ้าของค่าตัวแพงที่สุดเป็นสถิติของสโมสร สเปอร์ส นั้น เป็นผู้เล่นที่มีฝีเท้าดี และมีคุณภาพอย่างมาก แต่ค่าตัวจำนวน 55 ล้านปอนด์ พร้อมค่าเหนื่อยมหาศาลอีก 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ที่ “ไก่เดือยทอง” จ่ายไปนั้น ดูจะไม่คุ้มค่าเสียแล้ว

เอ็นดอมเบเล่ มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นฤดูกาลที่ผ่านมา จึงทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่ง โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ “ไก่เดือยทอง” ก็ยอมรับว่า เขากังวลเกี่ยวกับสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของมิดฟิลด์เฟรนช์แมนรายนี้เช่นเดียวกัน

4. เจสซี่ ลินการ์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าเหนื่อย 75,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)

       ย้อนกลับไปตลอดทั้งปี 2019 นั้น ลินการ์ด ไม่สามารถยิงประตู หรือทำแอสซิสต์ให้กับ แมนฯยูไนเต็ด เลยแม้แต้ลูกเดียว และในฤดูกาลนี้ เขาลงเล่นให้กับ “ปีศาจแดง” ในเกมลีกไปแล้ว 20 นัด และยังคงทำประตูไม่ได้เลย

        ปีกชาวอังกฤษ โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสาวก “เร้ด เดวิลส์” ในเรื่องของฟอร์มการเล่นที่ไม่พัฒนา และมักจะให้ความสำคัญกับโซเชี่ยลมีเดียวมากกว่าผลงานในสนาม ซึ่งค่าเหนื่อยจำนวน 75,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ของเขานั้น มันอาจดูสูงเกินไปหากเปรียบเทียบกับผลงานของเจ้าตัว

5. แจ็ค วิลเชียร์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ค่าเหนื่อย 100,000 ต่อสัปดาห์)

น่าเสียดายที่การบาดเจ็บทำให้ วิลเชียร์ ไม่ได้แสดงพรสวรรค์ของเขาออกมาอย่างเต็มที่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ชาวอังกฤษที่มีทักษะ, เทคนิค และวิสัยทัศน์ ยอดเยี่ยมอย่างมาก

ในฤดูกาลนี้ วิลเชียร์ ลงเล่นให้กับ เวสต์แฮม ไปเพียง 175 นาทีเท่านั้น และยิงประตูไม่ได้เลย นอกจากนี้ ค่าเหนื่อยที่มากถึง 100,000 ต่อสัปดาห์ อาจทำให้ “ขุนค้อน” พิจารณาอนาคตของเขาอย่างหนักอีกครั้งในช่วงซัมเมอร์นี้

6. มามาดู ซาโก้ (คริสตัล พาเลซ ค่าเหนื่อย 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)

แฟนบอลหลายคนคงจำได้ว่า ในช่วงพีค ซาโก้ เคยเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล แต่ในเวลานี้ เขาต้องดิ้นรนอย่างหนักในการหาโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงกับ พาเลซ และในฤดูกาลนี้ ดาวเตะวัย 29 ปี ได้ลงเล่นในลีกไปเพียง 8 เกมเท่านั้น

ปราการหลังชาวฝรั่งเศส ฟอร์มตกอย่างหนัก และไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้แข็งแกร่งเหมือนก่อนแล้ว โดยในช่วงซัมเมอร์นี้ ซาโก้ อาจต้องมองถึงความเป็นไปได้ในการย้ายสังกัดอีกครั้งเพื่อรักษาเส้นทางอาชีพของเขาเอาไว้  

7. ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่าเหนื่อย 290,000 ต่อสัปดาห์)

ค่าเหนื่อยมหาศาลเกือบ 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ สำหรับผู้เล่นที่ได้ลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปเพียง 7 นัด และไม่สามารถยิงประตูได้เลยแม้แต่ลูกเดียวนั้น หากมองตามความจริงมันเป็นความไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

ในปีนี้ ป็อกบา โชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักมาตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น ซึ่งส่งผลให้เขาไม่สามารถลงสนามช่วย แมนฯยูไนเต็ด ได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ มิดฟิลด์เฟรนช์แมน มักมีข่าวย้ายทีมเชื่อมโยงกับ เรอัล มาดริด ในทุกซัมเมอร์ และเป็นไปได้ว่า ในช่วงปิดฤดูกาลนี้ เขาจะทบทวนอนาคตของตัวเองกับ “ปีศาจแดง” อีกครั้ง

8. มักซ์ เมเยอร์ (คริสตัล พาเลซ ค่าเหนื่อย 125,000 ต่อสัปดาห์)

เอเย่นต์ของ เมเยอร์ สมควรได้รับรางวัลอย่างยิ่งหลังจากทำให้ลูกค้าของเขาฟาดค่าเหนื่อยจำนวน 125,000 ต่อสัปดาห์ จาก พาเลซ ได้ หลังย้ายมาจาก “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก้ 04 มาแบบไร้ค่าตัวเมื่อซัมเมอร์ปี 2018

ในฤดูกาลนี้ มิดฟิลด์ตัวรุกชาวเยอรมัน ลงสนามให้กับ พาเลซ ไปเพียง 13 เกม และยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว

9. นาธาเนียล ไคลน์ (ลิเวอร์พูล ค่าเหนื่อย 70,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)

แฟนบอลหลาบคนคงลืมไปแล้วว่า ไคลน์ ยังคงเป็นผู้เล่น ลิเวอร์พูล แต่มันโชคร้ายอย่างยิ่งที่เขาได้รับบาดเจ็บรบกวนมาอย่างยาวนาน โดยฟูลแบ็คชาวอังกฤษ ไม้ได้ลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกเลยนับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมปี 2018 ที่ “หงส์แดง” เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1

ไคลน์ กำลังจะหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์นี้ และมีโอกาสสูงมากที่ “หงส์แดง” จะปล่อยเขาออกจากถิ่นแอนฟิลด์แบบไร้ค่าตัว

10. คริสติยอง เบนเตเก้ (คริสตัล พาเลซ ค่าเหนื่อย 120,000 ต่อสัปดาห์)

ผลงาน 1 ประตู จาก 17 เกมในซีซั่นนี้จากตำแหน่งศูนย์หน้า เบนเตเก้ แสดงให้เห็นถึงสถิติที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งกับ คริสตัล พาเลซ และหากดูจากจังหวะการเล่นต่างๆนั้น ดาวยิงชาวเบลเยียม ดูจะขาดความมั่นใจไปมากทีเดียว

ในช่วงซัมเมอร์นี้ พาเลซ ต้องพิจารณาอย่างหนักว่า พวกเขาพร้อมจะแบกค่าเหนื่อย120,000 ต่อสัปดาห์ ของ เบนเตเก้ ต่อไปหรือไม่

ภาพประกอบ: premierleague.com, talksport.com, spurs-web.com, metro.co.uk, skysports.com, premierleague.com