เป็นเวลายาวนานย้อนไปหลายศตวรรษในอดีต มนุษย์ต่างตั้งคำถามว่าทำไมเราต้องแก่? จะมีวิธีไหนหรือไม่ที่ทำให้เราไม่ต้องแก่ สามารถคงความเป็นหนุ่มสาว มีชีวิตอยู่ได้นานแสนนานเป็นอมตะ
ในอดีตมนุษย์เรายังไม่เข้าใจกลไกการเสื่อมของร่างกาย และไม่เข้าใจวิทยาศาสตร์แห่งความแก่ชราจึงทำให้เกิดการสร้างเรื่องงมงายเช่นว่าจะต้องมีแหล่งที่ซ่อนของน้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์ที่ทำให้เรามีชีวิตเป็นอมตะได้ และแล้วเวลาก็ผ่านไปจวบจนมาถึงปัจจุบันที่วิทยาการก้าวหน้า เราเข้าใจเเล้วว่าความแก่ชราเกิดจากอะไร จริงๆเเล้วความแก่ชราเกิดขึ้นจากความเสื่อมของร่างกาย เพราะเมื่อเซลล์ต่างๆ ของร่างกายเสื่อก็จะเกิดการซ่อมแซมตัวเอง แต่การซ่อมแซม หรือสร้างทดแทนแต่ละครั้งก็จะไม่เหมือนเดิม มีแต่จะด้อยคุณภาพลงไปเรื่อยๆ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าระบบการเผาผลาญพลังงานหรือเมตาบอลิซึมที่เสื่อมถอยลง การอักเสบต่างๆ ที่เกิดขึ้นสะสมต่อเนื่องจนร่างกายซ่อมแซมไม่ทัน ดังนั้นเมื่อทราบแล้วหากไม่อยากแก่ก็ต้องไปหยุดที่สาเหตุเหล่านั้น แล้วอะไรล่ะที่จะหยุดสาเหตุแห่งการแก่ชราได้
คำตอบก็คือสารอาหารต้านความแก่ชรานั่นเอง ดังนั้นใครอยากเป็นหนุ่มน้อยหน้าใสตลอดไป ต้องไปหาแหล่งอาหารต้านความชรามาทาน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เราได้รวบรวมมาไว้ให้เเล้ว ลงมาดูกันเลย
ผักขม
ผักโขมเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมาย สรรพคุณนับไม่ถ้วย มันอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ไม่ว่าจะเป็น Tryptophan, Folate, Magnesium, Vitamins B6 เเละ Vitamin C ทั้งหมดมีส่วนในการรักษาการเมตาบอลิซึมให้สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ผักโขมยังมีกรดอะมิโน Glutamine ที่ช่วยในการดักจับสารพิษในร่างกาย ทำให้เรารู้สึกสมองสดชื่นไม่ง่วงเหงาหาวนอนระหว่างวัน เรามีคำแนะนำให้คุณทานผักโขมแบบสดๆ ดิบๆ มากกว่าที่จะผ่านการปรุงด้วยความร้อน เพราะการทานดิบจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากผักโขมอย่างเต็มทีโดยไม่มีส่วนใดถูกทำลายด้วยความร้อน
โยเกิร์ต
โยเกิร์ตถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อลำไส้ เป็นตัวทำความสะอาดลำไส้ที่ดี ช่วยในการต่อต้านการอักเสบที่เกิดขึ้นกับส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยรักษาอัตราการเมตาบอลิซึมให้เป็นปกติ ในโยเกิร์ตจะมีพวกโปรไบโอติกที่ช่วยสร้างจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์กับร่างกายช่วยในการย่อยอาหาร ดังนั้นมันจึงมีส่วนช่วยให้คุณลดน้ำหนักลงได้ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ทานโยเกิร์ตเป็นประจำยังช่วยให้ร่างกายของคุณลดการหลั่งฮอร์โมนความเครียด ช่วยให้อารมณ์ดี เเละยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายอีกด้วย
แซลมอน
ไขมันชั้นดีจากปลาเช่นปลาแซลมอนเป็นแหล่งของสารต้านการอักเสบชั้นดี โอเมก้า 3 เเละไขมันประเภทไม่อิ่มตัวชั้นดีหลายชนิด เเละถ้าหากว่านั่นยังดีไม่พอ เนื้อปลาแซลมอนยังอุดมด้วยโปรตีนเเละกรดอะมิโนชั้นดี ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย มีสารสำคัญที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง
สาระสำคัญที่เป็นทีเด็ดต้านความชราที่อยู่ในเนื้อปลาแซลมอนก็คือ EPA เเละ DHA ที่นอกจากจะมีส่วนช่วยในการต่อต้านการอักเสบของร่างกายเเล้ว ยังกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอย่าง Adiponectin ที่จะกระตุ้นกิจกรรมของกล้ามเนื้อให้ดึงเองพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตมาใช้ในการเผาผลาญไขมัน ช่วยเพิ่มอัตราการเมตาบอลิซึม เเต่ให้คุณจำไว้ว่าควรเลือกทานเนื้อปลาแซลมอนที่ได้จากการจับในมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่ควรเลือกทานปลาแซลมอนจากการเลี้ยงในฟาร์มที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะเนื้อแซลมอนเหล่านั้นจะมีกรดไขมันโอเมก้า 6 ที่ทานเเล้วเพิ่มการอักเสบกับร่างกายเเล้วแถมยังอ้วนอีกด้วยซึ่งไม่ดีกับร่างกายแน่
น้ำมันมะกอก
เนื่องจากน้ำมันมะกอกนั้นอุดมไปด้วยสาร Phenol ดังนั้นการทานน้ำมันมะกอกเพียงวันละแค่ 2 ช้อนโต๊ะก็จะสามารถช่วยให้คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงมีอาการที่ดีขึ้นได้ จากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าการบริโภคน้ำมันมะกอกนั้นไม่เพียงเเต่ดีต่อระบบหลอดเลือดเเละหัวใจเท่านั้น มันยังกระตุ้นให้ร่างการหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาด้วย ซึ่งให้ผลที่ดียิ่งกว่าการบริโภคน้ำมันจากพืชชนิดอื่นๆ มันสามารถช่วยให้คุณคลายความวิตกกังวล เเละเพิ่มอัตราการเมตาบอลิซึมของร่างกายอีกด้วย
แอปเปิ้ล
หากใครที่กำลังจะทานแอปเปิ้ลเเล้วเผลอไปปอกเปลือกของมันออกถือว่าคุณพลาดอย่างแรง เพราะคุณได้ปอกเอาสาร Pectin ที่เป็นสารอาหารสำคัญของกระบวนการเมตาบอลิซึม เเละถือได้ว่าเป็นไฟเบอร์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก Pectin จะช่วยให้แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่าง Bifidobacteria เเละ Lactobacillus เจริญเติบโตได้ดี จากการศึกษาวิจัยที่ได้มีการตีพิมพ์ลงใน journal Anaerobe ได้แสดงให้เห็นว่าเปลือกแอปเปิ้ลประมาณ 10 mg มีส่วนช่วยในการต่อต้านการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนซ์อย่าง Quercetin ที่อยู่ในเปลือกแอปเปิ้ลจะช่วยเพิ่มอัตราการเมตาบอลิซึมของร่างกายของคุณ ดังนั้นใครอยากผอมอย่าพลาดทานแอปเปิ้ลแบบไม่ต้องปลอกเปลือก
ไข่
ไข่ อาหารง่ายๆหารับประทานได้ทั่วไป เเต่คุณทราบหรือไม่ว่าไข่นี่แหละคือโปรตีนคอมเพล็กซ์ หรือศูนย์รวมของโปรตีนที่มีประโยชน์นานาชนิดมารวมกันอยู่ในนี้ ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเเละรักษาอัตราการเมตาบอลิซึมที่ดีของร่างกายเอาไว้ แม้กระทั่งไข่ขาวที่หลายคนเห็นว่าไม่มีประโยชน์เเต่นั่นคือตัวเสริมสร้างกล้ามเนื้อระดับไมโครเลยนะดังนั้นอย่าเขี่ยทิ้ง ส่วนไข่แดงนั้นยิ่งสำคัญเพราะเป็นตัวบูสพลังงานให้กับร่างกาย ช่วยต่อต้านการอักเสบต่างๆ อุดมด้วยวิตามินดี เเละมีไขมันที่ดีอย่าง Choline
บีท
บีทที่คุณได้เห็นในรูปนี้มันก็คือ sangria-colored root veggies ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแม่สมุนไพรธรรมชาติแห่งทะเลทราย มันเป็นสมุนไพรชนิดรากที่อุดมไปด้วยสารBetaine ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการต่อต้านอาการอักเสบที่เกิดขึ้นในส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน ทำให้คุณอารมณ์ดีเเละหยุดการทำงานของยีนส์ที่จะทำให้คุณอ้วน
ขมิ้น
ต้องขอบคุณเจ้าสมุนไพรชนิดรากสีสันเหลืองส้มรสชาติจัดจ้านอย่างเจ้าขมิ้น เพราะมันมีสารแอนติออกซิแดนซ์ที่เป็นส่วนประกอบหลักคือ เคอร์คูมิน (Curcumin) ที่ทำให้สรรพคุณทางยาของมันจัดจ้านไม่แพ้สีสัน เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านการอักเสบที่เกิดขึ้นกับส่วนต่างๆในร่างกาย รักษาระบบการเผาผลาญพลังงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเหมือนกับตอนที่เรายังเป็นหนุ่ม ช่วยให้เรามีสมาธิ ป้องกันการสึกหรอของตับ ป้องกันโรคหัวใจ เเละป้องการโรคปวดตามข้อกระดูก
ดาร์กช็อกโกแลต
ช็อกโกเเลตที่มีส่วนผสมของ Cacao มากกว่า 70% นั้นจะส่งผลดีต่อหัวใจของคุณเป็นอย่างมาก ซึ่งนั้นก็คือดาร์กช็อกโกเเลตนั้นเอง ดังนั้นหากใครเป็นคนรักสุขภาพก็ควรจะหามาเป็นของว่างทานเล่นระหว่างการทำงานหรือดูบอลก็ได้ เพราะจะมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ป้องกันการอักเสบที่เกิดขึ้นกับส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายเป็นไปอย่างปกติ
ชาเขียว
ชาเขียวนี้ถือได้ว่าเป็นยอดสมุนไพรรสชาติชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เเละช่วยให้ร่างกายของเราเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในตัวชาเขียวจะมีส่วนประกอบของ Catechins ที่เรียกว่า Epigallocatechin Gallate หรือเรียกเป็นตัวย่อสั้นๆว่า EGCG ซึ่งผลจากการศึกษาวิจัยและตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Journal of Advanced Pharmaceutical Technology & Research แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า EGCG เเละ Polyphenol ที่เป็นส่วนประกอบที่มีมากในชาเขียวมีส่วนช่วยป้องกันการอักเสบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าชาชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะมันจะเข้าไปควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมนั่นเอง
ทั้งหมดนี้ก็คือ 10 แหล่งอาหารเพื่อการชะลอความแก่ หรือที่เรียกว่า Anti-Age Food ที่เราขอแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักกันในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากมีสุขภาพดี อายุยืนยาว ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวตลอดไป เมื่อได้ทราบแล้วก็อย่าลืมไปจัดหามารับประทานกันนะครับ