ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นักฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้ามักจะได้รับการจับตามองเป็นพิเศษจากแฟนบอลอยู่เป็นประจำ เพราะพวกเขาถือเป็นผู้เล่นตัวหลักในการผลิตสกอร์เพื่อให้ทีมคว้าชัยชนะในทุกแมตช์ที่ลงแข่งขัน

ขณะเดียวกัน บรรดาหัวหอกระดับพระกาฬส่วนใหญ่มักจะมีสถิติการถล่มประตู, ศักยภาพฝีเท้า, ความคม และสไตล์การเล่นที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ ซึ่งสุดยอดดาวยิงเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสมควรอย่างยิ่งที่จะติดอันดับ 10 หัวหอกที่ดีที่สุดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

10. แอนดี้ โคล

        แฟนบอลหลายคนอาจแปลกใจที่ชื่อของ โคล เข้ามาติดในทำเนียบยอดกองหน้าตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก แต่หากเราดูจากสถิติการซัดไปถึง 187 ประตู จากการลงเล่นในลีก 414 เกม นั้น หัวหอกชาวอังกฤษ ก็สมควรได้รับเครดิตจากผลงานของตัวเอง

        โคล ถือเป็นหนึ่งในดาวยิงคู่บุญของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือ แมนฯยูไนเต็ด เลยก็ว่าได้ ทั้งตัวเขา, เท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮม, ดไวท์ ยอร์ค และโอเล่ กุนาร์ โซลชา ช่วยกันถล่มประตูคู่แข่งพร้อมกับพาพลพรรค “ปีศาจแดง” กวาดแชมป์มาอย่างนับไม่ถ้วน

        สำหรับ โคล อาจเป็นกองหน้าที่ไม่ได้มีเทคนิคแพรวพราวนัก แต่การหาโอกาส และพาตัวเองเข้าไปอยู่ถูกที่ถูกเวลาก็ทำให้เจ้าตัวถล่มตาข่ายได้เป็นกอบเป็นกำ

9. หลุยส์ ซัวเรซ

       ซัวเรซ เป็นกองหน้าสไตล์อเมริกาใต้ขนานแท้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคนิค, เล่ห์เหลี่ยม, ไหวพริบ และลูกเล่นต่างๆของเขานั้น ทำให้บรรดากองหลังในพรีเมียร์ลีกต่างต้องปวดหัวมานักต่อนักแล้ว

แม้ ดาวยิงชาวอุรุกวัย จะถูกมองว่า เป็นนักเตะจอมพุ่งล้ม แต่สถิติการซัดไปถึง 69 ประตู จากการลงเล่นในลีก 110 เกม ให้กับ ลิเวอร์พูล นั้น นับว่าสุดยอด และนี่ยังไม่รวมถึงการมีส่วนร่วมกับเกมรุกในหลายๆจังหวะของเขาอีกด้วย

นับตั้งแต่ ย้ายจาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม มาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อปี 2011 นั้น ซัวเรซ กลายเป็นคนแบกเกมรุกของ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง ก่อนที่เขาจะอำลาทัพ “หงส์แดง” ย้ายไปเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2014

8. แฮร์รี่ เคน

ศูนย์หน้าเบอร์ 1 ของทีมชาติอังกฤษชุดปัจจุบัน เคน โชว์ผลงานซัดในลีกให้ให้กับ ท็อตแนม ฮฮทสเปอร์ ไปถึง 136 ประตู จาก 201 เกมที่ลงสนาม หลังจากที่เขาก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนของ “ไก่เดือยทอง” เมื่อปี 2014

       หัวหอกวัย 26 ปี มีคุณสมบัติครบทุกอย่างในการเป็นกองหน้าตัวเป้าระดับท็อปของวงการฟุตบอล เคน เป็นนักเตะที่จบสกอร์ได้คมกริบแม้ว่าจะมีโอกาสเพียง 1-2 ครั้งต่อเกม เขาก็สามารถทำให้คู่ต่อสู้น้ำตาตกได้เลย

       ความยอดเยี่ยมของ ดาวยิงชาวอังกฤษ นั้น ทำให้เขาตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับทีมระดับท็อปมากมายไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เชื่อได้ว่า สเปอร์ส คงจะไม่ปล่อย เคน ออกไปจากสโมสรอย่างง่ายๆแน่นอน

7. ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

        ตำนานยอดกองหน้าแห่งถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ตลอดระยะเวลา 8 ปี ในสีเสื้อ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี นั้น ดร็อกบา กระหน่ำประตูคู่แข่งไปถึง 104 ประตู จากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 254 เกม

        หัวหอกทีมชาติไอโวรี่ โคสต์ ถือเป็นของแสลงของบรรดากองหลังในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอย่างแท้จริง ความแข็งแกร่ง, ความอึด, พละกำลังอันมหาศาล และความคมของ ดร็อกบา เมื่อมีโอกาสได้สับไกนั้น พา เชลซี กวาดแชมป์มาหลายรายการแล้ว

        นอกจากนี้ ดร็อกบา ยังเป็นนักเตะที่สาวก “สิงห์บลูส” ผูกพัน และให้ความเคารพอย่างมาก

6. คริสเตียโน่ โรนัลโด้

        84 ประตู จาก 196 เกมในพรีเมียร์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการลงเล่นในตำแหน่งปีก นั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โรนัลโด้ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับทั้งวงการฟุตบอลอังกฤษ และวงการลูกหนังยุโรป

        ดาวเตะชาวโปรตุเกส พัฒนาจากดาวรุ่งที่มากไปด้วยพรสวรรค์ และเทคนิค แต่ขาดการเล่นเป็นทีม และตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายจนกลายเป็นสุดยอดผู้เล่นแห่งยุคปัจจุบัน และ โรนัลโด้ ยังคงรักษาสภาพร่างกาย และฟอร์มอันสุดยอดมาจนถึงทุกวันนี้แม้เขาจะอายุถึง 35 ปี แล้วก็ตาม

        การคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ มากถึง 5 สมัย ในชีวิตนักฟุตบอลนั้น การันตีความสุดยอดของ “CR7” ได้เป็นอย่างดี

5. รุด ฟาน นิสเตลรอย

        เครื่องจักรถล่มประตูทีมชาติฮอลแลนด์ ย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2001 ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ พร้อมกับสถาปนาตัวเองกลายเป็นกองหน้าตัวจริงของทัพ “ปีศาจแดง” ทันที

        ฟาน นิสเตลรอย ระเบิดตาข่ายในพรีเมียร์ลีกไปถึง 95 ประตู จาก 149 เกมให้กับ แมนฯยูไนเต็ด โดยดาวยิงชาวดัตช์ เป็นนักเตะที่พาตัวเองไปอยู่ถูกที่ถูกทางอยู่เสมอ เขาสามารถทำประตูได้ในทุกจังหวะเมื่อมีโอกาส

        หัวหอก “กังหันสีส้ม” อยู่ค้าแข้งกับ แมนฯยูไนเต็ด เป็นระยะเวลา 5 ปี ก่อนจะย้ายไปยัง เรอัล มาดริด ในปี 2006

4. เวย์น รูนี่ย์

        อดีตกองหน้าดาวรุ่งเจ้าของค่าตัวเฉียด 30 ล้านปอนด์ หลังย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2004 ก่อนจะฝากผลงานซัดไป 208 ประตู จาก 491 เกมในลีกตลอดระยะเวลา 12 ปี กับ “ปีศาจแดง”

รูนี่ย์ เป็นนักเตะที่ทุ่มเทเกิน 100 อยู่เสมอเมื่ออยู่ในสนาม และพร้อมเสียสละตัวเองเพื่อทีม นอกจากนี้ เขาพร้อมจะเล่นในทุกบทบาทตามที่เจ้านายสั่งไม่ว่าจะเป็นกับทัพ “สิงโตคำราม” หรือกับ แมนฯยูไนเต็ด

        รูนี่ย์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนฯยูไนเต็ด 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และยูโรป้า ลีก 1 สมัย

3. เซอร์จิโอ อเกวโร่

การเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดตลอดกาลของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อเกวโร่ ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มายังถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อปี 2011 พร้อมกับกลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกของทัพ “เรือใบสีฟ้า” มานานถึง 8 ปี

แม้จะอายุ 32 ปี แต่ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ แทบไม่ได้ลดความยอดเยี่ยมในตัวเขาลงไปแม้แต้น้อย นอกจากนี้ อเกวโร่ ยังทำสถิติซัดแฮตทริกเป็นครั้งที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งทำลายสถิติเดิมของ อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิงทีมชาติอังกฤษที่ทำไว้ 11 ครั้ง

อเกวโร่ ยังทำสถิติเป็นนักเตะชาวต่างชาติทำประตูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกที่ 176 ประตู แซงหน้า เธียร์รี อองรี อดีตหัวหอกชาวฝรั่งเศสจอง อาร์เซนอล ที่ทำไว้ 175 ประตูเป็นที่เรียบร้อย

2. เธียร์รี่ อองรี

        ตำนานดาวยิงชาวฝรั่งเศส ผู้สร้างความมหัศจรรย์มากมายให้กับ อาร์เซน่อล อองรี เป็นนักเตะที่แฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” บูชาอย่างแท้จริง รวมทั้งยังเป็นนักเตะคู่บุญของ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือ “ไอ้ปืนใหญ่” อีกด้วย

        อองรี ซัดไป 175 ประตู จาก 258 เกมในลีกให้กับ อาร์เซนอล และนอกจากจะเป็นตัวจบสกอร์ชั้นยอดแล้ว เขายังเป็นผู้บัญชาการจังหวะเกมรุกของ อาร์เซน่อล มานานถึง 8 ปี ก่อนจะอำลาสโมสรย้ายไปยัง บาร์เซโลน่า ในปี 2007

1. อลัน เชียร์เรอร์

ดาวยิงเจ้าของฉายา “ฮอตช็อต” ซัดไป 260 ประตู จาก 441 เกมในพรีเมียร์ลีกให้กับทั้ง แบล็คเบิร์นโรเวอส์ และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นอดีตทีมต้นสังกัดของเขา

เชียร์เรอร์ เป็นกองหน้าที่สามารถทำประตูได้ทุกจังหวะ และทุกส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็น เท้าซ้าย เท้าขวา ลูกโหม่ง เขาแทบไม่มีจุดอ่อนเลย

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ตลอดอาชีพของ เชียร์เรอร์ นั้น เขาคว้าแชมป์ได้เพียงรายการเดียวนั่นก็คือ พรีเมียร์ลีก กับ แบล็คเบิร์น ในฤดูกาล 1994-1995

ภาพประกอบ : strettynews.com, skysports.com, goal.com, punditfeed.com, planetfootball.com