ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถือเป็นรายการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ และนอกจากนักเตะจากเมืองผู้ดีที่จะเป็นแกนหลักในแต่ละสโมสรแล้ว บรรดาผู้เล่นต่างชาติต่างก็มีบทบาทสำคัญไม่น้อยไปว่ากันเลยในเรื่องการนำพาความสำเร็จมาสู่ทีมต้นสังกัด

สุดยอดดาวเตะต่างชาติทั้ง 10 รายต่อไปนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่า ฝีเท้า คุณภาพ และความยอดเยี่ยมของพวกเขา สมควรได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เล่นจากต่างแดนที่ดีที่สุดในในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก

10. ยาย่า ตูเร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

        ตูเร่ ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาร่วมทีม แมนฯซิตี้ เมื่อปี 2010 และตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ค้าแข้งในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม เขาถือเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางอย่างแท้จริงทั้งในเกมรับ-เกมรุก โดยมิดฟิลด์ชาวไอโวรี่โคสต์ ลงเล่นให้กับ “เรือใบสีฟ้า” ไปรวมทุกรายการถึง 316 เกม ซัดไป 79 ประตู

        ตูเร่ ประสบความสำเร็จกับ แมนฯซิตี้ อย่างมากประกอบไปด้วย แชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 2 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย

9. แว็งซองต์ กอมปานี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

       อดีตกองหลังกัปตัน แมนฯซิตี้ เป็นสุดยอดผู้นำ และเป็นผู้บัญชาการแนวรับแห่งทัพ “เรือใบสีฟ้า” มาตลอด 11 ปีที่เขาค้าแข้งกับทีม โดย กอมปานี เป็นนักเตะที่มีฟอร์มการเล่นแข็งแกร่ง และมีความคงเส้นคงมากอย่างมาก

       เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวเบลเยียม ได้รับการยกย่องจากสาวก “เรือใบสีฟ้า” ว่า เป็นหนึ่งในนักเตะที่จงรักภักดีคนหนึ่งของสโมสร เขาลงเล่นให้กับ แมนฯซิตี้ ไปถึง 360 เกมรวมทุกรายการ ซัดไป 20 ประตู พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 2 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย

8. เดนนิส เบิร์กแคมป์ (อาร์เซน่อล)

       หนึ่งในตำนานดาวยิงสุดคลาสสิคแห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดี เบิร์กแคมป์ เป็นกองหน้าที่มีเทคนิคสุดยอด ความฉลาด วิสัยทัศน์ ความเยือกเย็น และการตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายของเขายากที่จะหาใครมาเปรียบเทียบ

        หัวหอกชาวดัตช์ เป็นนักเตะที่แฟนบอล อาร์เซน่อล บูชาอย่างมาก เขาค้าแข้งกับพลพรรค “ไอ้ปืนใหญ่” นานถึง 11 ปี กระหน่ำไป 120 ประตู จาก 423 เกมรวมทุกรายการ พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 3 สมัย

7. เนมันย่า วิดิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

       ปราการหลังจอมบู๊ชาวเซอร์เบีย ถือเป็นหนึ่งในนักเตะเลือดนักสู้อย่างแท้จริง เขาทุ่มเททุกสิ่งอย่าง และพร้อมหลั่งเลือดเพื่อให้ แมนฯยูไนเต็ด ได้รับชัยชนะในทุกเกมที่ลงสนาม วิดิช ไม่เคยเกรงกลัวในการที่ต้องเข้าปะทะกับคู่แข่ง รวมถึงยังเป็นกองหลังที่เข้าสกัดบอลได้อย่างเด็ดขาดแทบทุกจังหวะอีกด้วย

        วิดิช โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งตลอดระยะเวลา 9 ปี ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาลงเล่นไปรวมทุกรายการถึง 300 เกม ซัดไป 20 ประตู พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 3 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 5 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

6. ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (เชลซี)

        สุดยอดศูนย์หน้าระดับตำนานของ เชลซี ยุครุ่งเรืองภายใต้การคุมทัพของ โจเซ่ มูรินโญ่ อดีตเทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส ทุกวันนนี้ ดร็อกบา ยังถือเป็นขวัญใจตลอดกาลของแฟนบอล “สิงโตน้ำเงินคราม” อย่างแท้จริง

       หัวหอกชาวไอโวรี่ โคสต์ เป็นผู้เล่นที่กองหลังยากจะรับมือด้วย เขามีทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง โดดเด่นในการเล่นลูกโด่ง และมีการจบสกอร์ที่เฉียบขาด ซึ่งหากคู่แข่งพลาดเพียงแค่ครั้งเดียว เขาสามารถลงโทษได้ทันที

       ดร็อกบา ค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ นานถึง 9 ฤดูกาล ซัดไปถึง 157 ประตู จาก 341 เกม พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย,แชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 3 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

5. เซอร์จิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

       หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่คุ้มค้าที่สุดตลอดกาลของ แมนฯซิตี้ อเกวโร่ ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มาเล่นกับ “เรือใบสีฟ้า” เมื่อปี 2011 พร้อมกับสถาปนาตัวเองเป็นกำลังสำคัญในแดนหน้าของทีมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงทุกวันนี้

       อเกวโร่สร้างปรากฏการณ์ทำลายสถิติในพรีเมียร์ลีก 2 อย่างคือ เป็นนักเตะต่างชาติที่ยิงประตูได้มากที่สุด 176 ประตู และเป็นผู้เล่นที่ทำแฮตทริคได้มากที่สุดถึง 12 ครั้ง โดย ดาวยิงอาร์เจนไตน์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย,แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 5 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 3 สมัย

4. ปาทริค วิเอร่า (อาร์เซน่อล)

       กัปตันจอมลุยแห่ง อาร์เซน่อล ในช่วงพีค วิเอร่า เคยได้รับการยกย่องว่า เป็นกองกลางที่ดีที่สุดในโลกมาแล้ว เขาเป็นนักเตะที่ครบเครื่องทั้งเกมรับ-เกมรุก เทคนิคดี อ่านเกมขาด รวมถึงยังสามารถพาบอลขึ้นไปซัดประตูเองได้อยู่บ่อยครั้ง

        มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส ค้าแข้งในถิ่นไฮบิวรี่ นานถึง 9 ฤดูกาล ลงเล่นไปรวมทุกรายการ 279 เกม ซัดไป 29 ประตู พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย,แชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 3 สมัย

3. เอริค คันโตน่า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

       สุดยอดตำนานแห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด คันโตน่า ได้รับการยกย่องดั่งเทพเจ้าของแฟนบอล แมนฯยูไนเต็ด กับสิ่งที่เขาทำตลอดระยะเวลา 5 ปี ในสีเสื้อ “ปีศาจแดง” ด้วยผลงาน 82 ประตู จาก 185 เกม พร้อมฝากรอยถีบบันลือโลกใส่แฟนบอล คริสตัล พาเลซ

       หัวหอกเฟรนช์แมน คว้าแชมป์ร่วมกับ แมนฯยูไนเต็ด ประกอบด้วย พรีเมียร์ลีก 3 สมัย,แชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 3 สมัย

2. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

       หนึ่งในสุดยอดการเซ็นสัญญาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งคว้าตัว โรนัลโด้ มาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน เมื่อปี 2003 พร้อมกับปลุกปั้น “CR7” จากดาวรุ่งที่น่าตื่นเต้นจนกลายเป็นนักเตะระดับโลกจนถึงปัจจุบันนี้

        ปีกชาวโปรตุเกส เล่นกับ แมนฯยูไนเต็ด 6 ซีซั่น ซัดไป 118 ประตู จาก 292 เกมรวมทุกรายการ พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย,แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 2 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

1. เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล)

       อองรี ถือเป็นดาวยิงคู่บุญของ อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือ อาร์เซน่อล อย่างแท้จริง โดยดาวเตะชาวฝรั่งเศส พัฒนาตัวเองจากตำแหน่งปีกซ้ายสู่การเป็นสุดยอดกองหน้าของพลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” และวงการลูกหนังเมืองผู้ดี

        อองรี มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่างในฐานะหัวหอกไม่ว่าจะเป็นความเร็ว เทคนิค การจับบอล การครอบครองบอล ไหวพริบ ความฉลาด และการจบสกอร์ที่คมกริบ พร้อมกับฝากผลงานกระหน่ำไปถึง 226 ประตู จาก 369 เกมรวมทุกรายการ

        ตลอดระยะเวลา 8 ปีในสีเสื้อ อาร์เซน่อล นั้น อองรี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย,แชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย

ภาพประกอบ : skysports.com, football365.com, aa.com.tr, 365supersport.com, belfastlive.co.uk, telegraph.co.uk, bleacherreport.com