หลังจากข่าว วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเข้าพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อหารือการเลื่อนเลือกตั้งถูกเผยแพร่ลงบนสื่อต่างๆ ความเดือดก็เข้ามาประทุแทนความหวังอันสดใสที่ประชาชนชาวไทยตั้งไว้ทันที แฮชแทค #เลื่อนแม่มึงสิ ติดเทรนด์ที่มีคนพูดถึงมากที่สุดทางทวิตเตอร์ในประเทศไทย และไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนติดอันดับของโลก ขณะที่เพจสำนักข่าวต่างๆ ทางเฟสบุ๊คเองก็มีคอมเม้นต์แสดงความไม่พอใจสูงถึงหลักพัน
ทำไมต้องเลื่อน ? 5 ปี ยังเลื่อนไม่พออีกหรอ ? เลื่อนครั้งนี้ครั้งหน้าก็เลื่อนอีกหรือเปล่า ? สารพัดคำถามและคำด่าเกิดขึ้นในใจคนไทย
วิษณุให้เหตุผลว่าเพื่อไม่ให้กิจกรรมทางการเมืองหลังเลือกตั้งมากระทบต่อพระราชพิธีบรมราชภิเษกซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม โดยวันเวลาดังกล่าวมีขั้นตอนสำคัญต้องดำเนินการก่อนและหลังจากนั้น 15 วัน จึงเกรงว่าหากยึดตามกำหนดการเดิมคือ 24 กุมภาพันธ์ แล้วประกาศผลภายใน 60 วัน คือไม่เกิน 24 เมษายน หลังจากนั้น 15 วันนับจากประกาศผลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องเสด็จเปิดประชุมรัฐสภานัดแรก ซึ่งตรงกับช่วงขั้นตอนของพระราชพิธีฯ พอดี
ด้วยเหตุนี้โรดแมบเลือกตั้งที่เขียนเอาไว้อย่างดิบอย่างดีว่า 24 กุมภาพันธ์ได้ออกเสียงแน่นอนก็เลยส่อแววจะถูกเลื่อนออกไป ส่วนการประกาศผลการเลือกตั้งวิษณุเห็นว่าควรมีหลังพระราชพิธีและย้ำชัดให้มั่นใจว่ายังไงวันเลือกตั้งก็ต้องอยู่ในกรอบ 150 วัน คือไม่เกิน 9 พฤษภาคมอยู่แล้ว
ส่วนพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งที่พรรคการเมืองและประชาชนตั้งหน้าตั้งตารอ เดิมคาดว่าจะประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 2 ม.ค. นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับกลับลงมาหลังจากทูลเกล้าฯ เมื่อปลายเดือนธันวาคม ซึ่งหากมีพระราชกฤษฎีกาลงมาแล้ว กกต. จะต้องประกาศวันเลือกตั้งทันทีภายใน 5 วัน
การเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมแบบที่ยังอยู่ในกรอบ 150 วัน น่าจะเป็นอะไรที่
พรรคการเมืองทุกพรรคยอมรับได้เพราะยังเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็เป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่เปิดโอกาสให้ผู้สมัครสามารถย้ายพรรคการเมืองได้อีกรอบ ซึ่งหากเป็นกำหนดการเดิมเมื่อพ้นเดือนพฤศจิกายนการสรรหาต้องปิดตัวลงตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ผู้สมัคร สส. ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน เมื่อวันเปลี่ยน ตลาดสรรหานักการเมืองเข้าพรรคที่ปิดลงไปแล้ว จึงถูกเปิดออกอีกครั้ง
หลายฝ่ายก็เลยจับตาการเลื่อนครั้งนี้ว่าเป็นการยื้อเพื่อหวังดึงนักการเมืองเกรดเอเข้ามาอยู่ร่วมชายคาพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงยื้อระยะเวลาให้รัฐบาล คสช. ใช้เงินภาษีของประชาชนเก็บคะแนนเสียงแบบไม่เนียนต่อไป
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และอดีต กกต. ออกพูดถึงเรื่องนี้ว่า หากรัฐบาลยึดตามเดิมก็ยังสามารถเตรียมการพระราชพิธีสำคัญของคนไทยได้อย่างสมพระเกียรติเพราะ กกต.เป็นผู้จัดการเลือกตั้ง และรัฐบาลเองก็ไม่ได้ลงแข่งขันจึงสามารถเตรียมการได้เต็มที่ ถึงการเลื่อนจะอยู่ในกรอบเวลาที่ทุกฝ่ายจะยอมรับได้แต่ทางที่ดีควรยึดตามกำหนดเดิม
หลายคนก็คงมีความเห็นเดียวกันว่าควรยึดตามเดิมเถอะ อยากเลือกตั้งใจจะขาดแล้ว แต่เบื้องต้นมีข่าวแว่วๆมาว่ารัฐบาลเสนอให้ กกต. เลื่อนออกไปหนึ่งเดือนเป็นวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งฝ่ายกกต.ยังไม่ออกมาประกาศว่าแน่ชัดว่าจะเป็นวันนั้นหรือไม่ งานนี้ก็ต้องรอดูอีกทีว่าสรุปเลื่อนหรือไม่เลื่อนแต่ตอนนี้ดัชนีหุ้นร่วงกันระนาว สื่อได้ชัดเจนเลยว่าข่าวนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจคนไทยเท่านั้นแต่ยังส่งผลต่อเงินลงทุนในกระเป๋าต่างชาติเช่นกัน