ทำเพลงเองได้ไม่ยากแค่มีของ!!
สำหรับในยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและไปอย่างรวดเร็ว ทำให้อะไรหลายๆอย่างนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิม และก็มีหลายๆคนที่เชื่อได้ว่าอยากมีเพลงเป็นของตัวเองสักเพลงนึง ไม่ว่าจะเอาไว้ใช้ด้วยวัตถประสงค์อะไรก็ตามเช่น ส่งให้หญิงฟัง ทำเอาไว้ใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง หรือแม้กระทั่งเป็นนักดนตรีก็ตาม แบบนั้นแล้วเราจะมากล่าวถึงวิธีการทำเพลงง่ายๆกันดีกว่าว่าต้องใช้อะไรกันบ้าง

เนื้อเพลงและทำนอง

อันดับแรกต้องมีเนื้อเพลงมาก่อนว่าจะออกไปทางไหนอยากสื่อเนื้อหาอะไร การแต่งเพลงเองนอกจากจะมีพื้นฐานการใช้คำ คำพ้องแล้วจะต้องมีพื้นฐานเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับกีตาร์หรือคีย์บอร์ดด้วยจะทำให้การแต่งเพลงง่ายขึ้น (เพราะจะทำให้เราจับจังหวะ ใส่คอร์ด ใส่ทำนองได้ง่ายขึ้น) แต่หากไม่มีจุดนี้เราสามารถแต่งเพลงได้ไหม สามารถทำได้ครับแต่งออกมาแล้วตามที่เราต้องการสื่อออกไปแล้วนำไปให้นักดนตรีเป็นคนเรียบเรียงอีกทีก็ย่อมได้ครับ ให้ออกมาเป็นคอร์ด เป็นเทำนองที่เราอยากให้เป็นครับ หรือจะทำแบบแนวเจ ก็ได้ครับแบบไม่มีเนื้อมีแต่ทำนอง ก็สุดแล้วแต่จะสร้างสรรค์ครับ

ทักษะทางดนตรี

ในการทำเพลงนั้นอาจจะต้องใช้ทักษะทางดนตรีเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์ (ควรเป็นพื้นฐานเล็กน้อย) เบส กลอง คีย์บอร์ด อย่างใดอย่างนึงและการนับจังหวะห้องของดนตรี เป็นต้น อ่าว!!…. แล้วผมเล่นดนตรีไม่เป็น ร้องเป็นอย่างเดียวแต่อยากทำเพลงทำอย่างไรล่ะ ตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมครับ เราจงเรียกเพื่อนหรือคนรู้จักมาช่วยกันนั่นเองครับ หากเราไม่มีทักษะอื่นๆร่วมดังนั้นต้องทำกันเป็นทีมครับ

อุปกรณ์ในการทำเพลง

เมื่อเรามีเนื้อเพลงแล้ว มีคอร์ดและเมโลดี้ที่พอใจแล้วอยากจะนำมันออกมาในรูปแบบดิจิทัลหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นไฟล์เพลงสัก 1 เพลงแล้วกันจะทำอย่างไรดีไม่ยากครับเพียงแค่มีเงิน! ใช่แล้วครับอ่านไม่ผิดครับเบื้องต้นอาจจะต้องใช้เงินจำนวนนึงเพื่อแลกมันมา โดยการไปจ้างทุกสิ่งอย่างเพื่อให้เพลงของเราออกมาเป็นรูปแบบเสียงดิจิทัล ซึ่งหากเราไม่ต้องการเสียเงินเป็นจำนวนๆมากๆ ก็แนะนำให้ลงทุนกับตัวเองแล้วใช้กับมันยาวๆ จะดีกว่าครับ แล้วอุปกรณ์ที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง

คอมพิวเตอร์หรือแทปเล็ท

เป็นสิ่งทีขาดไม่ได้ในการทำเพลงเลย เพราะเราจะต้องนำเสียงที่เราคิดไว้ในหัว ดังนั้นเครื่องมือนี้จำเป็นอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ โดยความต้องการขึ้นพื้นฐานที่จะใช้ทำเพลงคือ RAM อย่างน้อย 4GB ขึ้นไป และระบบปฏิบัติการก็เป็นรุ่นใหม่ๆหน่อยที่มีความเร็วระดับนึงประมาน 2.5 GHz ขึ้นไป หรือใครจะใช้พวก Ipad หรือ Mac Book ก็สามารถใช้ได้ครับแล้วแต่ว่าใครถนัดใช้อะไรอยู่ เพราะ MacBook รุ่นใหม่มีฟังชั่นรองรับการทำเพลงได้ง่ายขึ้นด้วย

ซาวด์การ์ด(ภายนอกสะดวกกว่า)

เมื่อเรามีคอมพิวเตอร์แล้วการนำเสียงเข้าไปบันทึกในคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีเจ้าตัวนี้แหละครับ มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ตั้งแต่ราคาเบาๆจนถึงราคาแพงๆก็สุดแล้วแต่ว่าจะเลือกใช้แบบใดมีความจำเป็นในคุณภาพเสียงขนาดไหน หากไม่ได้ทำชนิดที่ว่าเป็นอาชีพก็สามารถเลือกราคาตั้งแต่กลางๆลงไปได้ครับ หรือสำหรับบางคนใช้เพียงแค่ Ipad ก็สามารถใช้แค่ Irig ในการอัดเสียงได้เช่นกัน แต่หากจะต้องอัดเสียงร้องด้วยก็อย่าลืมไมค์ด้วยนะครับ ต่อตรงเข้าซาวด์การ์ดได้เช่นกัน

ซอฟแวร์

สิ่งนี้หากไม่มีก็ไม่สามารถลงบันทึกเสียงต่างๆได้ใน PC เว้นเสียว่าเป็น Ipad ที่มีซอฟแวร์เบสิคสำเร็จรูปมาให้แล้วนั่นก็คือ garageband นั่นเอง ซอฟแวร์ที่จะใช้กันก็มีหลายชนิดแต่ที่ฮิตในหมู่ PC คงไม่พ้น Cubase และหากทำใน Mac ก็จะเป็น Logic pro นั่นเองครับซึ่ง ซอฟแวร์นี้เราก็จะสามารถอัดแยกเป็นแต่ละแทรครวมกันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง กีตาร์ เบส กลอง อื่นๆ

อุปกรณ์อื่นๆ

สิ่งที่เพิ่มเติมทำให้การฟังดีขึ้นคือลำโพงมอนิเตอร์ ถามว่าใช้ลำโพงทำธรรมดาได้ไหมต่างกันอย่างไร จริงๆถามว่าหากไม่มีลำโพงมอนิเตอร์ใช้ลำโพงธรรมดาแทนได้แต่ว่าการฟังย่านเสียงต่างๆไม่ชัดเจนไม่รู้ว่าเสียงไหนขาดหายไป ลำโพงมอเตอร์นั้นจะเอาไว้ตรวจเช็คย่านเสียงโดยลำโพงนี้จะไม่มีการปรับแต่งเสียงใดๆมาเลยทำให้มิกซ์เพลงได้ดีกว่าลำโพงฟังเพลงทั่วไป

เมื่อเรามีอุปกรณ์ในการทำเพลงครบแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ กีตาร์ เบส กลอง รวมไปถึงนักดนตรี (ในกรณีที่เป็นวง) นำเพลงที่แต่งไว้นำมาใส่ลงไปให้หมด แล้วถ้าเกิดทำคนเดียวล่ะไม่มีอุปกรณ์เยอะขนาดนั้นก็ไม่ต้องกังวลไป เพียงแค่มีปลั๊กอินของเสียงต่างๆคุณก็สามารถเนรมิตรเสียงเพลงออกมาได้แล้วครับ แต่อาจะไม่ได้อารมณ์ของการเล่นสดอัดเองหรือลูกเล่นต่างๆไปเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ

ภาพรวมวิธีการใช้อุปกรณ์ก็มีดังนี้ เสียบเครื่องดนตรี > ซาวด์การ์ด > คอมพิวเตอร์ > เปิดซอฟแวร์ > บันทึกเสียง > มิกซ์+มาสเตอร์
เพียงเท่านี้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆก็สามารถทำเพลงออกมาเป็นของตัวเองได้แล้ว แต่ต้องเรียนรู้การใช้ซอฟแวร์สักเล็กน้อยหรือกระบวนการอัดเพิ่มเติม ก็จะสามารถทำเพลงได้แล้วครับ

Text – Saturn