UCL รอบรอง : ดวลทีมเก่า, เซาแธมป์ตัน และแชมป์ที่รอคอย - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
UCL รอบรอง : ดวลทีมเก่า, เซาแธมป์ตัน และแชมป์ที่รอคอย

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลฟุตบอลยุโรป (จริงๆ ต้องเรียกว่าทางตรง 100 เมตรสุดท้าย ถึงจะถูก) ก็ย่อมเต็มไปด้วยความเข้มข้น ในหนทางก้าวเป็นสู่แชมป์เป็นธรรมดา นอกเหนือจากแชมป์ลีกในประเทศต่างๆ ก็ต้องพูดถึงฟุตบอลถ้วยยุโรป โดยเฉพาะถ้วย “บิ๊กเอียร์” ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งเดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว

4 อรหันต์ที่หักด่านฝ่าเข้ามาถึงรอบนี้ ต้องยอมรับว่ามีความเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อย เพราะแต่ละทีมมีเหตุผลที่ “ไม่น่า” จะมาถึงตรงนี้แตกต่างกัน

เส้นทาง 4 ผู้เหลือรอด

ลูกยิงด้วยสีข้างของยอร์เรนเต้ ที่พา “ไก่เดือยทอง” หักด่านแมนฯ ซิตี้ มาได้

“ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ถือเป็นทีมที่ผ่านเส้นทางปีนี้มาอย่างโชกโชน รอบแบ่งกลุ่ม 3 นัดแรกมีแค่แต้มเดียว แต่ก็พลิกกลับมาเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่ม ก่อนจะผ่านโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่ว่ากันตามหน้าสื่อ มีผลงานซีซั่นนี้ดีกว่าพวกเขาหมด

เหล่านักเตะอาแหยกซ์ฉลองชัย หลังจากล้มยูเวนตุสถึงเดลเล่ อัลปิ

อาแหยกซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมพลังหนุ่มม้ามืดที่น่าจับตามอง กรุยทางมาตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบที่ 2 ต้องผ่านบาเซิล, สตองดาร์ ลีแอช และดินาโม เคียฟ ถึงจะผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มได้ เข้าสู่รอบน็อคเอาท์แบบไม่แพ้ใคร ก่อนจะล้มทั้งเรอัล มาดริด และยูเวนตุส ด้วยเกมเยือนที่เฉียบขาด เรียกว่าปีนี้ พวกเขายังไม่เคยแพ้เกมเยือนใน UCL เลยสักนัด

“หงส์แดง”​ ผ่านด่านหินกับบาเยิร์น ก่อนจะจัดการทีมคุ้นเคยอย่างปอร์โต้มาได้

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล รองแชมป์เมื่อซีซั่นก่อน กลับมาหนนี้ตะกุกตะกักด้วยการพ่ายนัดเยือน 3 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม จนต้องเอาตัวรอดด้วยการชนะนาโปลีในนัดสุดท้าย รอบน็อคเอาต์เจอบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งหลายฝ่ายคิดว่าพวกเขาจะเทสมาธิไปลุ้นแชมป์ลีกมากกว่า แต่ก็โชว์ฟอร์มที่ดีจนล้มเสือใต้สำเร็จ ก่อนจะผ่านปอร์โต้ วัวเคยค้าม้าเคยขี่ ซึ่งเป็นเหมือนทีมแพ้ทางพวกเขา

“เจ้าบุญทุ่ม” ยังคงเล่นได้แน่นอนน่ากลัว โดยเฉพาะเมสซี่ และซัวเรซ

“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ดูจะพลิกความคาดหมายน้อยที่สุด เพราะกรุยทางเข้ามาได้ค่อนข้างชิล ไม่ถึงกับต้องลุ้นระทึกมากมาย แต่ถ้าเช็คประวัติกัน ต้องไม่ลืมว่าพวกเขามีอาถรรพ์ไม่ค่อยผ่านรอบ 8 ทีมสุดท้ายอยู่เหมือนกัน โดย 5 ซีซั่นหลังสุด พวกเขาผ่านรอบ 8 ทีมได้เพียงแค่ครั้งเดียว ในปีที่พวกเขาคว้าแชมป์ฤดูกาล 2014/15

นอกเหนือจากเส้นทางที่แต่ละทีมต้องตะลุยผ่านทางมาแบบไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจในรอบรองชนะเลิศของยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก ซีซั่นนี้ ให้น่าติดตามอีก วันนี้เลยขอมาเล่าให้ฟังกันหน่อย

รอบแห่งการดวลทีมเก่า

ถ้าพูดเรื่องการต้องกลับมาเจอทีมเก่า ที่คลาสสิกที่สุดคงหนีไม่พ้นการกลับมาเยือนแอนฟิลด์อีกครั้งของ “หลุยส์ ซัวเรซ” และ “ฟิลิปเป้ คูตินโญ่” อดีตสองสตาร์อเมริกาใต้ ซึ่งเดินออกจากลิเวอร์พูลไป เพื่อไขว่คว้าความฝันที่จะได้สวมเสื้อแดง-เลือดหมูของบาร์เซโลน่า เช่นกัน

ภาพซัวเรซ และคูตินโญ่ ในสีเสื้อหงส์แดง ที่เกือบคว้าแชมป์ลีกปี 2013/14

เทียบถึงการจากไปอย่างน่าจดจำแล้ว ซัวเรซจะมีภาษีดีกว่าเยอะ ตรงที่ทุ่มเทสุดพลังให้กับหงส์แดง โดยเฉพาะฤดูกาล 2013/14 ที่หงส์แดงเข้าใกล้แชมป์พรีเมียร์ลีกที่สุด โดยเขาระเบิดฟอร์มยิงถึง 31 ประตู จนคว้าดาวซัลโวของลีก แบบทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 10 ประตู (อันดับสองคือแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ นั่นเอง)

กับคูตินโญ่ มีประเด็นปัญหาพอตัว ตรงที่เจ้าตัวมีอาการงอแงอยากย้ายทีมมากเป็นพิเศษ มีอาการที่แจ้งว่าเจ็บหลัง ซึ่งมีน้อยคนจะเชื่อว่าเขาเจ็บจริง รวมถึงมีการหลั่งน้ำตาหลังพังประตูให้ทีมชาติบราซิลได้ เปรียบเหมือนเขาอึดอัดที่โดนบีบไม่ให้ย้ายทีมยังไงยังงั้น

นอกเหนือของการกลับมาเยือนแอนฟิลด์ของซัวเรซ และคูตี้แล้ว อีกคู่นึง นักเตะสเปอร์มากมาย ก็จะมีโอกาสได้กลับไปเยือนอาแหยกซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรที่ปั้นพวกเขามาเช่นกัน

ภาพเมื่อครั้งแฟร์ทองเก้น, อัลเดอร์ไวเรล และอิริคเซ่น ลงเล่นให้อาแหยกซ์

รายชื่อของนักเตะไก่เดือยทองนั้นมีหลายคนเลย ไล่ตั้งแต่แยน ฟาร์ทองเก้น และโทบี้ อัลเดอร์ไวเรล สองกองหลังทีมชาติเบลเยี่ยมซึ่งเคยเป็นตัวหลักคู่กันที่อาแหยกซ์มาก่อน แม้ฟาร์ทองเก้นจะย้ายโดยตรงมายังสเปอร์ แต่อัลเดอร์ไวเรล ออกไปผจญภัยกับแอตเลติโก มาดริดมาก่อน แต่ทุกวันนี้ ทั้งคู่คือคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดของไก่เดือยทอง

ต่อมาคือคริสเตียน อิริคเซ่น เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญของทีมชาติเดนมาร์ก เขาเองเป็นผลผลิตจากอาแหยกซ์เช่นกัน ก่อนจะย้ายมาสเปอร์ในปี 2013 ให้หลังจากแฟร์ทองเก้น 1 ปี

ดาวินซอน ซานเชส ในนัดชิงยูโรป้า คัพ ซึ่งอาแหยกซ์พ่ายให้กับแมนฯ ยู

คนสุดท้ายน้องเล็กสุด ก็คือดาวินซอน ซานเชส กองหลังชุดชิงแชมป์ยูโรป้า คัพ ในปี 2016/17 กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะย้ายมาร่วมทีมสเปอร์ ในราคาสูงถึง 36 ล้านปอนด์ 

ความภาคภูมิใจจาก “เดอะ เซนต์”

อาจจะงงๆ หน่อย ว่ามันเกี่ยวอะไรกับทีม “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน กันนะ เพราะพวกเขายังลุ้นหนีตกชั้นในพรีเมียร์ลีกอยู่เลย

เฉลยก็ได้ฮะ สิ่งที่มีเกี่ยวกับนักบุญ และ (น่าจะ)ทำให้สโมสรจากแดนใต้ของอังกฤษได้ภาคภูมิใจไม่มากก็น้อย คือรอบรองฯ UCL ปีนี้ เต็มไปด้วยอดีตผู้จัดการทีม และนักเตะของพวกเขา เต็มไปหมด!

หน้าคร่าตาของอดีตนักเตะนักบุญ 8 ราย ที่อยู่ใน UCL รอบรองฯ ซีซั่นนี้

แน่นอนเลยว่านักเตะของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คือกลุ่มใหญ่สุดของอดีตนักเตะนักบุญ ที่จะได้เล่นในรอบรองชนะเลิศ ของถ้วยใหญ่สุดในยุโรป ไล่ตั้งแต่ เวอร์จิล ฟาน ไดค์, เดยัน ลอฟเรน, อดัม ลัลลาน่า, ซาดิโอ มาเน่ และอาจจะนับรวมอเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่ไม่รู้จะฟิตทันหรือเปล่า ไปด้วยอีกคน

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ตอนที่คุมทีมนักบุญ ซึ่งทำผลงานได้เตะตาไก่เดือยทอง

คั่นเรื่องของนักเตะไว้นิด ด้วย “เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่” ผู้จัดการทีมชาวอาเจนไตน์ ซึ่งการที่เขาเตะตา และได้โอกาสคุมสเปอร์ ก็เพราะผลงานที่เขาทำไว้ได้ดีกับเซาแธมป์ตันเมื่อ 5 ปีก่อน จนทุกวันนี้ เขากลายเป็นกุนซือหนุ่มที่น่าจับตามองอย่างมากจากทีมยักษ์ใหญ่

ยังคงอยู่กับสเปอร์ เพราะยังมีอดีตนักเตะเซาแธมป์ตันในสังกัดไก่เดือยทองอีกตั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็นโทบี้ อัลเดอร์ไวเรล ที่เคยเล่นแบบยืมตัวระยะสั้นๆ, วิคเตอร์ วานยาม่า กองกลางเคนย่าที่อยู่กับทีมนักบุญแดนใต้ตั้ง 3 ปี และโกล์สำรองเปาโล กัซซานิก้า ที่อยู่ร่วมทีมนานถึง 5 ปี

ดูซาน ทาดิช ในสีเสื้อนักบุญ ก่อนจะย้ายไประเบิดฟอร์มกับอาแหยกซ์ในซีซั่นนี้

และต้องห้ามลืมดูซาน ทาดิช กองหน้าตัวต่ำชาวเซอร์เบีย ซึ่งพึ่งย้ายจากเซาแธมป์ตันไปร่วมทีมอาแหยกซ์ในซีซั่นนี้ ทาดิชโชว์ฟอร์มให้ยอดทีมแดนกังหันได้ยอดเยี่ยม อย่างใน UCL เอง ก็เล่นงานมาดริด และยูเว่ มาซะอ่วม

เทพไม่เทพก็ดูจากสถิติการพังประตู 34 ลูก จากการลงเล่น 50 นัดในซีซั่นนี้ โดย 9 ประตูของทาดิช มาจากการยิงใน UCL นี่แหละ!

สรุปนับรวมแล้ว มีศิษย์เก่านักบุญในรอบรองชนะเลิศ UCL ปีนี้ถึง 10 คน โอ้ว!

แชมป์นี้..ที่รอคอย

เมสซี่ และซาลาห์ 2 ซูเปอร์สตาร์ ซึ่งน่าจะมีส่วนตัดสินผลในรอบรองฯ​ คู่หยุดโลก

อย่างที่เกริ่นไปนิดนึงในช่วงต้น “บาร์เซโลน่า” ถือเป็นทีมที่ห่างหายจากความสำเร็จในถ้วยใหญ่สุดใบนี้สั้นที่สุด เพราะเมื่อ 4 ปีก่อน พวกเขาพึ่งจะคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ไป แต่ถ้าเทียบกับความล้มเหลวใน 3 ปีหลัง และแชมป์กลายเป็นคู่ปรับสำคัญอย่างเรอัล มาดริดที่คว้าแชมป์ 3 ปีรวด จนเพิ่มเกียรติยศไปแตะหลัก 13 สมัย ปีนี้พวกเขาจึงไม่อยากพลาดที่จะตีตื้นขึ้นมาบ้าง

“ลิเวอร์พูล” ทีมที่แม้จะขึ้นไปเถลิงแชมป์จ้าวยุโรปมากที่สุดในเกาะอังกฤษ และเกือบได้สมัยที่ 6 เมื่อปีที่แล้ว แต่หากย้อนไปสมัยสุดท้ายที่พวกเขาครองแชมป์ ต้องย้อนไปในซีซั่น 2004/05 ในยุคของราฟา เบนิเตซ หรือ 14 ปีก่อนนู่น ยังไม่รวมเรื่องความสำเร็จส่วนตัวของเจอร์เก้น คลอปป์ ซึ่งต้องการแชมป์ถ้วยแรกกับสโมสร ตามระยะเวลา 4 ปี ซึ่งเขาเคยประกาศไว้

แฟรงกี้ เด ยอง และคริสเตียน อิริคเซ่น สองห้องเครื่องสำคัญ ที่ต้องดวลกันเพื่อตั๋วนัดชิง

“อาแหยกซ์ อันสเตอร์ดัม” ยอดทีมแดนกังหันลม เคยเกรียงไกรคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัยซ้อน ในยุคของโยฮัน ครัฟฟ์ช่วงต้นทศวรรษ 70 ก่อนมาทำได้อีกครั้งในฤดูกาล 1994/95 แต่นับจากนั้น พวกเขาไม่เคยทะลุเข้ามาชิงอีกเลย เคยเข้ารอบรองฯ​ ได้ก็แค่ครั้งเดียว มันจึงเป็น 24 ปีที่แสนยาวนาน

ยิ่งกับ “ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์” ตลอดระยะเวลา 136 ปี ที่ก่อตั้งสโมสรมา พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะได้สัมผัสแชมป์ถ้วยใหญ่สุดของยุโรปแม้เพียงครั้งเดียว เคยเข้าถึงรอบรองฯ ในยูโรเปี้ยน คัพแค่หนเดียวเมื่อปี 1961/62 ดังนั้นแล้ว การเข้ามาได้ลึกขนาดนี้ของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และลูกทีม จึงไม่มีอะไรให้เสีย นอกจากการทุ่มเทแบบหมดหน้าตัก

ภาพโปรโมทรอบชิง UCL 2018/19 ซึ่งจะไปลงเอยนัดชิงดำกันที่กรุงมาดริด

รอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก จะแข่งกันแบบ 2 เลก ตามนี้

เลกที่ 1
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (เหย้า) VS อาแหยกซ์ อัมสเตอร์ดัม : คืนวันที่ 30 เม.ย.
บาร์เซโลน่า (เหย้า) VS ลิเวอร์พูล : คืนวันที่ 1 พ.ค.

เลกที่ 2
ลิเวอร์พูล VS บาร์เซโลน่า : คืนวันที่ 7 พ.ค.
อาแหยกซ์ อัมสเตอร์ดัม VS ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ : คืนวันที่ 8 พ.ค.

ว่านต๋า คอสโมโปลิตาโน่ สนามใหม่ของทีมตราหมี ที่จะเป็นสังเวียนแข้งนัดชิงซีซั่นนี้

ผู้ที่ผ่านด่านรอบรองฯ ที่น่าจะสนุกดุเดือดมาได้ จะมีคิวดวลชิงดำกันในคืนวันที่ 1 มิ.ย. ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยซีซั่นนี้จะใช้สนาม “ว่านต๋า คอสโมโปลิตาโน่” สนามเหย้าของแอตเลติโก มาดริด เป็นสังเวียนแข้ง

ใครจะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์…. ต้องติดตามกัน!
เพราะบอกตรงๆ ว่าเดายากมาก!

Picture : Liverpool FC, The Telegraph, Google News, ESPN, Deccan Chronicle, Twitter, Total Sports Picks, This Is Anfield, Medium, Cartilage Free Captain, Squawka, Sky Sports, Eagle Online, Ronaldo.com, Wikipedia

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save