10 บทเพลงที่ช่วยชูโรงให้เซ็กส์แสนเผ็ดร้อนในซีรี่ส์ "Sex Education" มีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
10 บทเพลงที่ช่วยชูโรงให้เซ็กส์แสนเผ็ดร้อนในซีรี่ส์ “Sex Education” มีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

กลายเป็นเรื่องร้อนประเด็นฮอตทันทีเมื่อตัวแทนพรรคพลเมืองไทยเข้าร้องขอต่อ กสทช. ให้ปลดป้ายโฆษณาซีรี่ส์ “Sex Education” หรือ “บทเรียนฉบับเร่งรัก” จาก Netflix ฝั่งอังกฤษออก โดยอ้างว่าเป็นการนำเสนอเนื้อหาทางเพศที่สื่อให้เห็นทั้งเนื้อเรื่องและภาพการร่วมเพศของวัยรุ่นชัดแจ้งเกินไปเยาวชนผู้ไร้เดียงสาอาจถูกยั่วยุจากการรับชมได้

นอกจากสังคมจะไม่เห็นด้วยกับความคิดนั้นแล้ว ทางพรรคยังถูกโจมตีอย่างหนักว่าต้องการเกาะกระแสเพื่อหาเสียง ซึ่งแทนที่จะได้ซีนพรรคการเมืองผู้ผดุงคุณธรรม กลับกลายเป็นได้ซีนผู้ใหญ่ทัศนคติยุคหินไปแทน คดีก็เลยพลิกเป็น Netflix ได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ คนดูแล้วก็ออกมาปกป้อง ส่วนคนที่ยังไม่ได้ดูก็อยากจะไปหามาดูบ้าง

https://www.facebook.com/doonungnokkrasae/photos/a.260465887705832/663816207370796/?type=3&theater&ifg=1

แม้ฉากในหนังจะโฉ่งครึ่มจริงทั้งภาพและเสียงทางเพศ แต่ก็แค่ EP แรกๆ เพราะหลังจากนั้นเป็นเรื่องปัญหาวุ่นๆ ในช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ตัวละครพบเจอและพยายามเอาชนะสิ่งเหล่านั้นเพื่อก้าวข้ามมันไปให้ได้ เซ็กส์จึงเป็นแกนกลางของเรื่องแต่ไม่ใช่แก่นแท้ที่ซี่รี่ย์ต้องการจะสื่อออกมา

หากมองให้ลึกลงไป ทบทวนให้ถี่ถ้วนอีกหน่อย ไม่ว่าจะ บท นักแสดง ภาพและเพลงประกอบซี่รี่ย์ล้วนปรุงแต่งออกมาได้สนุกสนาน อบอุ่น ครบทุกรสชาติ รวมถึงสามารถสื่อความในใจหัวอกวัยรุ่นได้ดีเป็นไหนๆ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนดูถึงได้ติดงอมแงมทั้งยังกวาดคำวิจารณ์ด้านบวกไปจำนวนมาก

อีกสิ่งหนึ่งที่สอดแทรกอยู่ในฉาก Sex Scene อันสมจริง คือ “เพลงประกอบ” เหมือนเป็นสูตรสำเร็จของหนังแนว Coming of age ว่าเพลงต้องย้อนไปช่วงยุค 70-90s และต้องเพราะจับใจ ไม่ก็ออกแนวกวนๆ มันส์ๆ ไปเลยซึ่งก็ถือเป็นตัวชูโรงให้ Sex Scene แสนเผ็ดร้อนมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นสิ่งที่สามารถเสพได้ทุกเพศทุกวัย เยาวชนฟังได้ผู้ใหญ่ฟังดี

วันนี้ The Macho ก็เลยถือโอกาสไปค้นไปลวงหาลายแทงเพลงประกอบแต่ละ Sex Scene ในซีรี่ส์ Sex Education ไว้เปิดเพลินๆ ดับหัวร้อนจากประเด็นที่เกิดขึ้น

1.Mannish Boy- Muddy Waters

ประเดิม Sex Scene แรก ใน Episode 1 ของ Adam หนุ่มหล่อเจี๊ยวโต กับ Aimee สาวบลอนด์สุดโก๊ะ ด้วยเพลงแนวชิคาโกบลูส์ของ Muddy Waters นักร้องหนุ่มผิวสีชื่อดังช่วงยุค 50s

2. I Can’t Stand the rain – Ann Peebles

บทเพลงแนวโซลกับเซ็กส์เป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร เพลงนี้บันทึกเสียงเมื่อปี 1973 ขับร้อง Ann Peebles นักร้องสาวที่แฟนคลับเปรียบเปรยว่าเธอคือ Al green เวอร์ชั่นผู้หญิง ใช้ประกอบฉากมีเซ็กส์ในรถระหว่าง Jackson หนุ่มนักกีฬาว่ายน้ำสุดฮอต กับ Maeve สาวกร้านโลก

3. Dancing With Myself- Billy Idol

พอเป็นซีนช่วยตัวเอง เพลงก็เปลี่ยนแนวมาเป็นป๊อปพังค์สุดมันส์ยุค 80s ของศิลปินฝั่งอังกฤษอย่าง Billy Idol แทน โดยเพลงนี้เป็นใช้ในฉากพยายามช่วยตัวเองกับชีทของ Otis พระเอกหนุ่มสุดไร้เดียงสา

4. Like Sugar -Chaka Khan

นี่เป็นซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาหลังจากห่างหายจากการทำอัลบั้มไปนานถึง 11 ปี ของ Chaka Khan นักร้องสาวแนวอาร์แอนด์บี โซล ฟังก์ ที่มีผลงานฮิตติดหูมากมาย โดยเพลงนี้ใช้ประกอบฉากมีเซ็กส์อย่างทุลักทุเลของสาวขี้อายกับแฟนหนุ่มผู้มีความคิดเห็นไม่ตรงกันใน Episode 2


5. Take On Me – A Ha

เพลงนี้ฮิตมาก แม้จะเกิดไม่ทันยุคเพลงนี้ดังแต่ก็ต้องเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างไม่ช่องทางใดก็ทางหนึ่ง Take on Me เป็นซิงเกิ้ลยอดฮิตที่ทำให้วงดนตรีจากนอร์เวย์วงนี้มีชื่อเสียงสุดๆยุค 80s-2000 และอัลบั้มเพลงนี้ก็เป็นอัลบั้มขายดีที่สุดปี 1986 ด้วย แม้แต่ตอนนี้ยอดวิวใน YouTube ยังสูงถึง 820 ล้านวิวเลย เพลงนี้ใช้ประกอบฉากสุดฮาใน Episode 2 ตอนที่ Eric เมาแล้วพยายามสอนแก๊งค์นางฟ้าทำรักด้วยปากในงานปาร์ตี้บ้าน Aimee นั่นเอง

6. (I Can’t Get No) Satisfaction- Devo

เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1965 หลังจากนั้นศิลปินก็นำมาขับร้องใหม่หลายท่านตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา จัดว่าเป็นหนึ่งในเพลงฮิตตลอดกาลเลยก็ว่าได้ แต่ที่ใช้ในซีรีส์ฉาก Otis ช่วยตัวเองหลังจาก Maeve สัมผัสคิ้วเขาในสระว่ายน้ำนั้นเป็นเว่อร์ชั่นปี 1978 ของ Devo วงร็อกสัญชาติอเมริกันซึ่งโด่งดังมากในยุคนั้น


7. Infected “12” – The The

ดนตรีร็อคหนักแน่น ทำนองปลุกอารมณ์โสตประสาทขั้นสุดนี้ เป็นของ The The วงดนตรีแนวโพสพังก์สัญชาติอังกฤษ ซึ่งโด่งดังในอังกฤษช่วงยุค 80s และเพลงนี้ถูกเปิดคลอเบาๆฉาก Aimee และ Steve กำลังมีเซ็กส์แบบเข้ากันไม่ได้ใน Episode 6

8. Baby Talks Dirty -THE KNACK

บทเพลงร็อคที่มีเสียงครางสุดกวนของ THE KNACK ถูกนำมาใช้ในฉาก Aimee ค้นหาจุดสุดยอดของตัวเองหลังจาก Steve บอกว่าเวลามีเซ็กส์เธอดูไม่ใช่ตัวเธอ


9. Vladimir Vavilov- Ave Maria

บทเพลงโอเปร่านี้ใช้ประกอบหนังหลายเรื่อง ซึ่งบันทึกเสียงไว้ครั้งแรกเมื่อปี 1970  และความทะเล้นของซีรี่ส์คือการนำเพลงที่แสดงถึงความรักอันโศกเศร้านี้มาใช้ประกอบฉากบทเตียงระหว่าง Otis กับ Lily ที่พยายามนอนคุยกันว่าจะมีเซ็กส์อย่างไรดีแต่สุดท้าย Otis ก็เรื่องเยอะจนไม่ได้ทำอะไร


10. Love Missile F1-11- Sigue Sigue Sputnik

ปิดท้ายซีซั่นหนึ่งด้วยเพลงแนวพังก์สุดมันส์จากปี 1986 ที่ผสมผสานซาวด์เอฟเฟ็กต์แปลกๆเข้าไปมากมายเพื่อสื่อถึงโลกในอนาคต ซึ่งมันเข้ากันได้ดีกับอารมณ์ Otis ที่กำลังช่วยตัวเองให้เจ้าหนูที่ตั้งอยู่ๆก็โด่วขึ้นมาสงบลงเพราะจูบกับสายผิวสีสุคน่ารัก Ola

Source : 1

Suthamat
The girl with flowers tattoo

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save