“เกมส์รับที่ดีที่สุด คือเกมรุกส์ที่ดีที่สุด” ยังคงเป็นปรัชญาที่ยังใช้ได้เสมอในวงการฟุตบอลทุกยุคทุกสมัย และผู้ที่ทำให้เกมรุกประสบความสำเร็จคงหนีไม่พ้นนักเตะในตำแหน่งกองหน้า เพราะพวกเขาจะเป็นคนหลักในการผลิตสกอร์ให้กับทีมเพื่อกุมความได้เปรียบคู่แข่ง

นักเตะในตำแหน่งศูนย์หน้าทุกวันนี้พัฒนาสไตล์การเล่นไปอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเป็นกองหน้าตัวหลอก หรือ False9 รวมถึงการยืนเป็นตัวเป้าเพื่อพักบอล,สร้างสรรค์โอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม และทำประตูด้วยตัวเอง  

        และนี่คือรายชื่อดาวยิง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พวกเขามีคุณสมบัติเหมาะสม และครบถ้วนทุกประการที่จะอยู่ในทำเนียบ 10 กองหน้าที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน

10.เมาโร อีการ์ดี้ (อินเตอร์ มิลาน)

อีการ์ดี้ อาจไม่ได้รับการทดสอบในการแข่งขันฟุตบอลระดับสูงสุดมากนัก เนื่องจากยังไม่เคยปรากฏตัวในศึกฟุตบอลโลก แต่กับการฟาดแข้งในระดับสโมสร ดาวยิงวัย 25 ปี เปรียบเสมือนเครื่องจักรถล่มประตูของ อินเตอร์ อย่าแท้จริง

หัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินา ย้ายจาก ซามพ์โดเรีย มาเล่นกับ อินเตอร์ เมื่อปี 2013 และผลงานตลอด 6 ปีที่ค้าแข้งกับทัพ “งูใหญ่” นั้น อีการ์ดี้ ซัดไปถึง 111 ประตู จากการลงสนาม 187 เกมรวมทุกรายการ สถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นแล้วว่า เขาสำคัญกับ “เนรัซซูรี่” มากเพียงใด

9. โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล)

          ฟิร์มิโน่ ไม่ใช่ดาวยิงในรูปแบบของผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เรานึกถึงในการจัดอันดับครั้งนี้ แต่เขาเป็นศูนย์กลางเกมรุกของ ลิเวอร์พูล และทำหน้าที่ในบทบาท False9 หรือกองหน้าตัวหลอก ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ได้อย่างยอดเยี่ยม

          การยิง 38 ประตู จาก 90 นัดหลังสุดที่ลงสนามให้ ลิเวอร์พูล ถือเป็นสถิตีที่ดี กับการต้องเล่นด้วยความเสียสละ และคอยปั้นเพื่อนร่วมทีม “หงส์แดง” อย่าง ซาดิโอ มาเน่ กับ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ให้คว้าตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

          ดาวเตะทีมชาติบราซิล มีความขยัน, อัจฉริยะ, เฉียบแหลม และมีพรสวรรค์ทางเทคนิค รวมถึงความเสียสละไม่หยุดหย่อนเพื่อนำสิ่งที่ดีที่สุดมามอบให้กับทีม

8. เอดิสัน คาวานี่ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง)

          ศูนย์หน้าทีมชาติอุรุกวัย มักโชคร้ายได้รับบบาดเจ็บในการแข่งขันนัดสำคัญ แต่คลาสในการจบสกอร์ของเขาได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ไม่เป็นสองรองใครในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า โดยก่อนหน้านี้ คาวานี่

ใช้เวลาส่วนใหญ่ในของเขาที่ เปแอสเช ในบทบาทที่ต้องคอยสนับสนัน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกสวีเดน

          ความเต็มใจของ คาวานี่ ในการทำหน้าที่ดังกล่าวมีความสมบูรณ์มากเกี่ยวกับทัศนคติของเขาที่ทำเพื่อทีมอยู่เสมอ 134 ประตู จาก 186 เกม ตลอด 6 ปีที่ค้าแข้งกับ เปแอสเช ไม่มีอะไรที่ต้องพิสูจน์ความสามารถของเขาอีกแล้ว

7. หลุยส์ ซัวเรส (บาร์เซโลน่า)

          แม้จะมีอายุ 32 ปี แต่ ซัวเรส ยังคงเป็นหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายที่สุดในโลก การยิง 131 ประตู จาก 163 เกมกับ บาร์เซโลน่า เป็นสถิติที่น่าประทับใจมากเมื่อพิจารณาว่า เขามักถูกแฟนบอลคู่แข่งโจมตีว่า เป็นนักเตะที่ชอบเล่นตุกติก

          ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย เป็นกองหน้าชาวอเมริกาใต้ที่มีพรสวรรค์ทางเทคนิค และแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจ เขาสามารถลงไปล้วงบอลจากแนวลึกเพื่อทำเกม หรือวิ่งหาช่องทำประตูได้อย่างสุดยอด และการเล่นร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ จอมทัพ บาร์เซโลน่า นั้น ทำให้ ซัวเรส ยิ่งโดดเด่นขึ้นไปอีก

6. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค)

เลวานดอฟสกี้ ถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลในแนวรุกของทั้ง บาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติโปแลนด์บ้านเกิด

สไตล์การเล่นของดาวยิงวัย 30 ปี ไม่มีอะไรต้องคิดมาก ทุกจังหวะ คือ การยิงประตู ไม่ว่าจะเป็นการยิงไกล, โหม่งบอล และการเข้าขาร์จ เขาทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ใน 4 ซีซั่นหลังสุดกับ บาเยิร์น มิวนิค เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูได้เกิน 40 ลูกทุกฤดูกาล รวมถึงฟอร์ม

ในศึกยูฟ่า แชมปี้ยนส์ ลีก ปีล่าสุด เขาซัดไป 8 ประตู จาก 8 นัด

5.อองตวน กรีซมันน์ (แอตเลติโก มาดริด)

        หัวหอกเฟร้นช์แมน ต้องการคว้ารางวัล บัลลงดอร์ หรือ นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป เป็นอย่างยิ่ง แต่มันคงเป็นเรื่องยาก เนื่องจาก แอตเลติโก ไม่สามารถคว้าแชมป์ลา ลีกา หรือถ้วยยูฟ่า แชมปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นที่ผ่านมาได้

แต่ถึงกระนั้น กรีซมันน์ ยังเป็นคนสำคัญในแดนหน้าของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือ แอตเลติโก อยู่เสมอ รวมถึงกับทีมชาติฝรั่งเศสที่เขามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพาทีมคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2018

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กรีซมันน์ ออกมายืนยันแล้วว่า เขาจะย้ายออกจากทัพ “ตราหมี” ในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งต้องคอยดูต่อไปว่า ปลายทางของเขาจะไปอยู่ที่สโมสรใด

4.คีเลียน เอ็มบัปเป้ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง)

          นักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลก คงไม่ใช่คำกล่าวเกินไปสำหรับ เอ็มบัปเป้ การที่ เปแอสเช ยอมทุ่มเงินมหาศาลกว่า 180 ยูโร ให้กับ โมนาโก เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมเมื่อปี 2017 นั้น บ่งบอกมูลค่าในตัวของ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ได้เป็นอย่างดี

          ในการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2018 เอ็มบัปเป้ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเกินอายุ โดยดาวเตะวัย 20 ปี ถือเป็นคีย์แมนในแนวรุกของพลพรรค “ตราไก่” อย่างแท้จริง และในฤดูกาลที่ผ่านมา เขายังระเบิดฟอร์มสุดยอดกับ เปแอสเช ด้วยการซัดไป 39 ประตู จาก 43 นัดรวมทุกรายการ

3. เซอร์จิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ซิตี้)

          อนาคตของ อเกวโร่ ในทีม แมนฯซิตี้ ดูเหมือนจะไม่แน่นอนหลังการเข้ามาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสเปน อย่างไรก็ตาม หัวหอกอาร์เจนไตน์ แสดงให้เห็นแล้วว่า เขายังเป็นคนสำคัญของทัพ “เรือใบสีฟ้า” อยู่เสมอ หลังพาทีมคว้าแชมป์ลีก 2 สมัยติดต่อกัน

          ดาวยิงวัย 30 ปี มีความชำนาญกับการเล่นในกรอบเขตโทษคู่แข่ง รวมถึงการทำประตูในพื้นที่แคบๆ เขาสามารถทำได้อย่างไม่มีที่ติ หากจะกล่าวว่า นักเตะคนที่ แมนฯซิตี้ ซื้อมาแล้วคุ้มค่าที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรนั้น ต้องมีชื่อของ อเกวโร่ อย่างแน่นอน

2. แฮร์รี่ เคน (ท็อตแนม ฮอทสเปอร์)

          การคว้ารองเท้าทองคำในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ทำให้ เคน ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆของหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกได้อย่างไม่ยาก และนับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ซัดให้ สเปอร์ส เกิน 25 ลูก ในทุกรายการแข่งขัน

          สัมผัสบอลแรกของ เคน นั้นยอดเยี่ยม เขามักได้เปรียบคู่แข่งอยู่เสมอ โดยกองหน้าวัย 25 ปี มักจะเคลื่อนที่ไปรอบๆสนามเพื่อหาโอกาสทำประตู และสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม และถึงแม้ว่า เขาจะไม่เป็นนักเตะเร็วที่สุด แต่เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการจบสกอร์ได้ทุกจังหวะ

1.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส)

          โรนัลโด้ อาจเริ่มเล่นฟุตบอลในตำแหน่งปีก และโดดเด่นขึ้นมาในการยืนทำเกมริมเส้นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเรอัล มาดริด แต่ปัจจุบัน ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส กลายเป็นกองหน้าตัวเป้าของ ยูเวสนตุส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          ดาวยิงวัย 34 ปี กลายเป็นนักล่าโดยธรรมชาติ ความกระหาย, ความเร็ว, ความคล่องตัว, ความแข็งแกร่ง, เทคนิค, ความเข้าใจเกม, การหาโอกาส และการจบสกอร์ที่คมกริบ รวมถึงทีเด็ดจากการยิงฟรีคิก เป็นคุณสมบัติของกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย

Picture – skysports.com, sportsjoe.ie, bleacherreport.com, sports.yahoo.com, sports.inquirer.net