ทุ่ม 125 ล้านปอนด์ “สิงห์ผงาด” วิลล่า ซื้อมั่ว หรือ ใช้เงินเป็น? - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ทุ่ม 125 ล้านปอนด์ “สิงห์ผงาด” วิลล่า ซื้อมั่ว หรือ ใช้เงินเป็น?

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ใกล้ฤกษ์เบิกแข้งซีซั่นใหม่กันแล้ว ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ในส่วนของการเสริมทัพนักเตะใหม่ ทีมจากลีกสูงสุดแดนผู้ดี จะมีเวลาให้เสริมทัพกันถึงวันที่ 8 ส.ค. เท่านั้น ตามนโยบาย ที่หลายทีมเคยเรียกร้องว่าตลาดควรปิด ก่อนฤดูกาลใหม่จะเริ่ม

“ร็อดดริ” มิดฟิลด์จากแอต.มาดริด ที่แมนฯ ซิตี้ ทุ่มซื้อมา 68 ล้านปอนด์

การเสริมทัพด้วยมูลค่าสูง เป็นสิ่งที่เราเห็นเป็นปกติจากศึกพรีเมียร์ลีก มองดูเม็ดเงินที่จ่ายซื้อนักเตะสูงที่สุดแบบรายบุคคล ไม่น่าแปลกใจ เมื่อมันเป็นเงิน 68 ล้านปอนด์ของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ลงทุนเสริม “ร็อดดริ” มิดฟิลด์ห้องเครื่องคนใหม่ชาวสเปน มาจากทีม “ตราหมี” แอต.มาดริด

แต่หากลองมองไปที่ เม็ดเงินโดยรวม ที่จ่ายซื้อตัวโดยสโมสรเพียงสโมสรเดียวแล้วนั้น มันน่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อย ที่กลายเป็นน้องใหม่หน้าเก่า “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ที่ลงทุนเงินสูงสุด ด้วยยอดรวมถึงราว 125 ล้านปอนด์

“สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า กลับขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หลังเอาชนะดาร์บี้ จากเพลย์ออฟ

จำนวนเงิน 125 ล้านปอนด์ ของวิลล่า ก้าวขึ้นมาติดเป็นอันดับ 5 หากนับเอาทุกทีม จากลีกทั่วยุโรปมารวมกัน มีเพียง เรอัล มาดริด,​ แอต.มาดริด, บาร์เซโลน่า และยูเวนตุส เท่านั้น ที่จ่ายเงินซื้อมากกว่าพวกเขา

นอกจากนั้น หากเอาเม็ดเงินการขายนักเตะมาหักลบ วิลล่าเขยิบขึ้นมาสูงถึงอันดับ 2 เพราะไม่มีการขายที่ได้เงินกลับมาเลยซักปอนด์ มีแค่ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เท่านั้น ที่ใช้เงินสุทธิสูงกว่า “สิงห์ผงาด”

125 ล้านปอนด์ ได้อะไรมามั่ง?

เงินจำนวน 125 ล้านปอนด์ ที่ “สิงห์ผงาด” ลงทุนไป พวกเขาเสริมนักเตะเข้ามาถึง 12 คน ไล่จากแพงไปถูก ได้ดังนี้

“เวสลี่ย์” ศูนย์หน้าบราซิเลี่ยน เจ้าของสถิติสโมสร ในราคา 22 ล้านปอนด์
  • “เวสลี่ย์” กองหน้าบราซิล จากคลับ บรูช ถูกซื้อมาด้วยสถิติของสโมสร 22 ล้านปอนด์
  • “ไทรอน มิงส์” เซ็นเตอร์ฮาล์ฟขาโหด ที่ซื้อขาด 20 ล้านปอนด์ จากบอร์นมัธ หลังยืมตัวมาใช้งานตั้งแต่เดือน ม.ค.
  • “ดั๊กลาส ลุยซ์” ตัวทำเกมทีมชาติบราซิลชุดยู-21 จากแมนฯ ซิตี้ 15 ล้านปอนด์ โดยเจ้าตัวยังไม่เคยลงสนามให้ซิตี้เลย เพราะปัญหาเวิร์คเพอร์มิต ที่ผ่านมาสร้างชื่อจากการยืมตัวไปเล่นให้กับ กิโรน่า
  • “แมตต์ ทาร์เก็ทท์” แบ็คเล่นเกมรุกดีจาก เซาธ์แธมป์ตัน สนนราคา 15 ล้านปอนด์
“เอซรี่ คอนซ่า” เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษ ยู-21 ซึ่งย้ายมาจากเบรนท์ฟอร์ด
  • “เอซรี่ คอนซ่า” เซ็นเตอร์ดาวรุ่งจาก เบรนท์ฟอร์ด ดีกรีทีมชาติอังกฤษชุดเล็ก ในราคา 12 ล้านปอนด์
  • “มาร์เวอรัส นากัมบ้า” มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติซิมบับเว ราคา 11 ล้านปอนด์ สอยมารายล่าสุดจาก คลับ บรูช สโมสรเดียวกับเวสลี่ย์
  • “บียอร์น แองเกล” เซ็นเตอร์ชาวเบลเยี่ยม ราคา 9 ล้านปอนด์ จากแรงส์
“เทรเซเก้ต์” ปีกทีมชาติอียิปต์ ย้ายมาจากคาซิมปาซ่า ในตุรกี
  • “เทรเซเก้ต์” ปีกทีมชาติอียิปต์ ชุดลุยแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ ย้ายมาจากคาซิมปาซ่า ด้วยราคา 8.75 ล้านปอนด์
  • “อัลวา เอล กาห์ซี่” ปีกเชื้อสายโมร็อคโก ซื้อขาด 8 ล้านปอนด์ จากลีลล์ หลังยืมตัว
  • “ทอม ฮีตัน” ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์ จอมเหนียวจากเบิร์นลี่ย์ ราคา 8 ล้านปอนด์
“โจต้า” ตัวทำเกมชาวสแปนิช ซึ่งเคยเล่นให้เบรนท์ฟอร์ด และเบอร์มิงแฮม
  • “โจต้า” เพลย์เมกเกอร์สเปน จากเบอร์มิงแฮม ด้วยดีลแลกตัว แต่คาดว่าต้องจ่ายเพิ่มเติมราว 3 ล้านปอนด์
  • “คอร์ทนี่ย์ เฮาส์” เซ็นเตอร์จากวูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยราคา 3 ล้านปอนด์

เหตุผลส่วนนึง ที่ “สิงห์ผงาด” ต้องถอยนักเตะใหม่แบบครบเซ็ต จัดเป็นทีมใหม่ได้สบาย ก็เป็นเพราะ พวกเขาเลือกปล่อยฟรี นักเตะมากประสบการณ์ออกจากทีมไปแบบยกโขยง

“ไมลล์ เยดินัค” หนึ่งในนักเตะตัวเก๋า ที่ถูกปล่อยตัวฟรี ออกจากทีม

รายชื่อพวกที่โดนปล่อยตัว มีทั้ง ทอมมี่ เอลฟิค, อัลเบิร์ต อดอมาห์, ริชชี่ เด ลีท, แกรี่ การ์ดเนอร์, เกลนน์ วีแลน, อลัน ฮัตตัน, มาร์ค บันน์, ไมลล์ เยดีนัค, รอสส์ แม็คคอร์แม็ค รวมถึงอดีตสตาร์แมนฯ ซิตี้ อย่าง ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ ซึ่งต้องแขวนสตัดท์จากอาการบาดเจ็บเรื้อรัง

เรียกได้ว่า เป็นการ “ถ่ายเลือดใหม่” เลยก็ว่าได้

ทำไมพวกเขามีเงินเยอะจัง?

แม้จะเป็นทีมยักษ์หลับจากมิดแลนด์ทีมนี้ จะตกไปเล่นในศึกแชมป์เปียนชิพ นานถึง 3 ซีซั่น แต่พวกเขามีเจ้าของทีมที่มีเงินทุนไม่น้อยเลยทีเดียว

“นาสเซฟ ซาวิรีส” มหาเศรษฐีอียิปต์ เจ้าของทีม ซึ่งเทคโอเวอร์มาราว 1 ปี

เจ้าของทีมในปัจจุบัน ที่ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร (ประมาณ 55%) คือ “NSWE Group” บริษัทลงทุนของ “นาสเซฟ ซาวิริส” มหาเศรษฐีชาวอียิปต์ ที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดในทวีปแอฟริกา เป็นอันดับ 4

นาสเซฟ เป็นลูกคนเล็กของ “ออนซี ซาวิรีส” มหาเศรษฐีแดนฟาโรห์ ที่มีธุรกิจทั้งด้านโทรคมนาคม และการก่อสร้าง โดยปัจจุบันนาสเซฟ นั่งตำแหน่ง CEO ของ “Orascom Construction Industries” พร้อมควบตำแหน่งประธานสโมสรวิลล่าไปด้วย

“โทนี่ เซียะ” เศรษฐีชาวจีน เหลือหุ้น 45% หลังขาย 55% ให้ซาวิรีส

หุ้นส่วนในอีกประมาณ​ 45% ที่เหลือของวิลล่า ก็ถือว่าเงินถุงเงินถังไม่เลวเช่นกัน เพราะมันคือ “Recon Group” บริษัทใหญ่ทางด้าน IT, สุขภาพ, การเกษตร และการท่องเที่ยว ของจีน ซึ่งมี “โทนี่ เซียะ” เป็นเจ้าของ

ปฏิกิริยาที่เราเห็นเป็นประจำจากแฟนบอลวิลล่า กับการต่อต้าน “แรนดี้ เลอร์เนอร์” ประธานคนเก่า

โดย NSWE Group พึ่งเข้ามาซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของวิลล่า เมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว จากโทนี่ ซึ่งก่อนนั้น โทนี่ในนาม Recon Group เทคโอเวอร์ทีมมาจาก “แรนดี้ เลอร์เนอร์” เจ้าของเก่าชาวอเมริกัน ที่แฟนๆ วิลล่า มองว่าเป็นตัวปัญหา และทำให้ทีมต้องตกชั้น

รู้จักกับแอสตัน วิลล่า ยุคใหม่

แอสตัน วิลล่า ชุดปัจจุบัน คุมทีมโดย “ดีน สมิธ” ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ วัย 48 ปี ซึ่งยังไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมในลีกสูงสุดมาก่อนเลย เขาเคยคุมแค่วอลซอลล์ และเบรนท์ฟอร์ด ก่อนเข้ามาคุมวิลล่า ในเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว “สตีฟ บรูซ” โดนปลดไป

“ดีน สมิธ” (คนกลาง) กุนซือคนปัจจุบัน ซึ่งมี “จอห์น เทอร์รี่” รับตำแหน่งผู้ช่วย

จุดน่าสนใจในทีมสตาฟฟ์ของสมิธ หลายสื่อจับจ้องไปที่ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีม อย่าง “จอห์น เทอร์รี่” ตำนานนักเตะเชลซี ซึ่งค้าแข้งกับวิลล่า ในซีซั่นสุดท้ายก่อนแขวนสตัดท์ และเข้ามารับงาน พร้อมกับการมาของสมิธ

พูดถึงตัวนักเตะ นอกเหนือจากแข้งใหม่ราคารวม 125 ล้านปอนด์ “สิงห์ผงาด” ยังมีนักเตะชุดเดิม ที่น่าจับตามอง อย่างเช่น “จอห์น แม็คกินน์” มิดฟิลด์ทีมชาติสก็อตแลนด์ ซึ่งมีข่าวพัวพันกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ด้วย

“จอห์น แม็คกินน์” ห้องเครื่องสก็อตติชคนสำคัญ ซึ่งถูกหลายทีมใหญ่จับตามอง

แม็คกินน์ จัดเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ครบเครื่อง เล่นได้ดีทั้งรุก และรับ เขาพึ่งย้ายมาร่วมทีมวิลล่าเมื่อซีซั่นที่แล้ว หลังโชว์ฟอร์มกับฮิเบอร์เนี่ยน ได้ยอดเยี่ยม

มิดฟิลด์ทีมชาติสก็อตแลนด์ ลงสนามในลีกให้วิลล่าถึง 41 นัด และยิงประตูได้ทั้งหมด 6 ลูก โดยเขาเป็นผู้ยิงประตูที่ 2 ให้ทีมขึ้นนำ “แกะเขาเหล็ก” ดาร์บี้ เคาท์ตี้ 2-0 ในนัดชิงเพลย์ออฟ ก่อนจะจบด้วยชัยชนะ 2-1 พา“สิงห์ผงาด” เลื่อนชั้นได้สำเร็จ

“แจ็ค กรีลิช” ตัวรุกเด็กท้องถิ่น ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีม “สิงห์ผงาด” ซีซั่นที่แล้ว

นักเตะอีกราย ที่คงไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ “แจ็ค กรีลิช” เด็กท้องถิ่นของวิลล่า ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม นับจากทีมตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกไป โดยในซีซั่นล่าสุด กรีลิชได้รับความไว้วางใจ ให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ในหลายนัดอีกด้วย

ว่ากันตามตรง ชื่อของกรีลิช ควรจะถูกพูดถึงมาก่อนหน้านี้ หลังจากเขาประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีก ให้กับวิลล่า ตั้งแต่อายุ 19 ปี ในยุคของ “มาร์ติน โอนีลล์”

หลังเลิกเกเร และกลับมามีสมาธิกับการเล่น กรีลิชก็กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม

แต่หลังจากนั้น ชีวิตของไอ้หนูกรีลิช ก็ขึ้นๆ ลงๆ มาโดยตลอด เขามีปัญหากับพฤติกรรมนอกสนาม และความมุ่งมั่นในการเล่น จนไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอ ก่อนจะมาปรับตัวได้ดีขึ้น ในช่วง 1-2 ปีหลังนี่เอง

น้องใหม่ทุ่มทุนซื้อ เจ๋ง หรือ เจ๊ง?

หากจำกันได้ ไม่ต้องยกตัวอย่างกันไกล “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม เคยทุ่มทุนแตะหลัก 100 ล้านปอนด์ ในซีซั่นที่แล้ว นักเตะระดับค่าตัวเกิน 20 ล้านปอนด์ ถูกเสริมเข้ามา 3 หน่อ ทั้ง ฌอง มิเชล เซรี, อองเดร ซัมโบ้ อองกีสซ่า และอเล็กซานดร้า มิโตรวิช

การทุ่มทุนระดับร้อยล้านปอนด์ปีที่แล้ว ของ “เจ้าสัวน้อย” ซึ่งผลลัพธ์ออกมาน่าผิดหวัง

ผลลัพธ์ก็อย่างที่ทราบกัน ฟูแล่มใช้กุนซือถึง 3 ราย ก่อนจะตกชั้นกลับสู่แชมป์เปียนชิพ อย่างรวดเร็วภายในซีซั่นเดียว

เงินทุนที่ “ชาฮิด ข่าน” มหาเศรษฐีอเมริกัน เจ้าของทีม ซึ่งเป็นเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล “แจ็กสันวิลล์ จากัวร์” ด้วย ไม่สามารถซื้อความสำเร็จได้ด้วยการทุ่มทุน จนถูกค่อนขอดว่า เม็ดเงินหลักร้อยล้าน เป็นเพียง “Panic buying” หรือการซื้อที่ตื่นตระหนก ไร้ซึ่งการจัดการที่ดี

“ชาฮิด ข่าน” มหาเศรษฐีอเมริกัน ออกมายอมรับว่า การทุ่มทุนอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอ

มันจึงไม่แปลก ที่หลายฝ่ายจะเป็นห่วงวิลล่า ในฐานะที่ซื้อนักเตะมาเสริมแบบยกกระบิ แถมนักเตะแทบทั้งหมด ยังไม่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก มาก่อนเลย

นอกเหนือจากนั้น กุนซือ “ดีน สมิธ” เอง ก็ถูกมองว่า ยังขาดประสบการณ์ในการคุมทีมในลีกระดับสูง และยังไม่คุ้นชินกับการบริหารจัดการ ภายหลังทีมทุ่มทุนซื้อนักเตะจากหลากหลายเชื้อชาติ เข้ามาสู่ทีม

“ย็อคก้า” สลาวิซ่า โยคาโนวิช อดีตกุนซือฟูแล่ม ที่ไม่รอดในศึกพรีเมียร์ลีก

ทุกอย่างชี้นำ ให้เป็นกังวลว่า สมิธอาจจะกลายเป็น “ย็อคก้า”​ สลาวิซ่า โยคาโนวิช คนที่ 2 ที่พาฟูแล่มเลื่อนชั้น แต่กลับโดนปลด หลังคุมทีมในพรีเมียร์ลีก ไปได้เพียง 7 นัด ทีมจมบ๊วย และไม่ชนะใครเลย

“สิงห์ผงาด”​ แอสตัน วิลล่า จะประเดิมพรีเมียร์ลีกนัดแรก ในวันที่ 10 ส.ค. ด้วยการออกไปเยือนลอนดอน พบศึกหนักกับ “ไก่เดือนทอง”​ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ก่อนจะเปิดบ้านรับบอร์นมัธ และต่อด้วยเอฟเวอร์ตัน ตามลำดับ

“ดีน สมิธ” จะเจอกับบทพิสูจน์ฝีมือครั้งสำคัญ กับการคุมทีมในลีกสูงสุดครั้งแรก

ต้องมาดูกันว่า “ดีน สมิธ” กับ “จอห์น เทอร์รี่” และเหล่านักเตะใหม่มูลค่ารวม 125 ล้านปอนด์ของพวกเขา จะสร้างผลงานออกมาได้ดีแค่ไหน การทุ่มทุนก้อนใหญ่ครั้งนี้ จะกลายเป็น “การซื้อที่ตื่นตระหนก” หรือ กลายเป็น “การลงทุนที่คุ้มค่า” พรีเมียร์ลีก จะให้คำตอบกับ “สิงห์ผงาด” ในไม่ช้า

Picture : The Guardian, Goal.com, Sky News, The42, Aston Villa Football Club, Leadership Newspaper, Sky Sports, Birmingham Mail, Claret Villans, The Sun, Qwiket, Rapida, talkSPORT, Football Fancast

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save