นับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ไม่มีนักฟุตบอลคนใดนอกจาก ลิโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่, โรนัลโด้ และ ลูก้า โมดริช ที่ได้รับรางวัล Ballon d’Or (บัลลงดอร์) อันที่จริงในช่วงที่ผ่านมา วงการลูกหนังมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ในทศวรรษที่ผ่านมา ริคาร์โด้ อิเซคสัน ดอส ซานโตส ไลเต้ หรือที่เรารู้จักกันในนาม “กาก้า” อดีตจอมทัพทีมชาติบราซิล ของ เอซี มิลาน และเรอัล มาดริด เคยได้รับเลือกให้คว้ารางวัลดังกล่าวมาแล้ว

กาก้า เกิดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ปี 1983 ในกรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล เขาเกิด และเติบโตในครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ ก่อนจะเข้าสู่ทีมเยาวชนของสโมสร เซา เปาโล ในลีกสูงสุดเมืองกาแฟ และลงสนามให้ทีมชุดใหญ่เกมแรกในวัยเพียง 18 ปี โดยสร้างปรากฏการณ์ด้วยการยิง 12 ประตู จาก 27 นัด

จากนั้น มิลาน จ่ายเงิน 8.5 ล้านยูโร ให้กับ เซา เปาโล คว้าตัว กาก้า ไปร่วมทีมในปี 2003 ซึ่งเขาประสบความสำเร็จอย่างมากภายใต้สีเสื้อ “ปีศาจแดง-ดำ” ด้วยการคว้าทั้งแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยยิงไปถึง 70 ประตู ในช่วงที่ค้าแข้ง 7 ปี ในถิ่นซาน ซิโร่

ต่อมาปี 2009 ฟอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสร มาดริด ทุ่มเงินกว่า 60 ล้านยูโร ซึ่งถือเป็นสถิติโลกในเวลานั้น คว้าตัว มิดฟิลด์ชาวแซมบ้า ไปเสริมทัพ แต่เขาไม่ประสบกับ “ราชันชุดขาว” เท่าที่ควร เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดเวลา

ย้อนไปสมัยที่ กาก้า ยังโลดแล่นอยู่บนพื้นสนาม เขาเป็นเพลย์เมคเกอร์ที่มีสไตล์การเล่นสง่างาม, มีความเร็ว, เทคนิค, ความฉลาด และการจบสกอร์ที่คมกริบ บวกกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเลา จนได้รับฉายาจากสื่อกีฬาในต่างประเทศว่า “เทพบุตรลูกหนัง”

จากความสำเร็จในทศวรรษที่ผ่านมาของ อดีตดาวเตะ มิลาน มันยากที่จะลืมว่า เขาเก่งกาจแค่ไหน มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกในปี 2007 เหนือ เมสซี่ อายุ 20 ปี และ โรนัลโด้อายุ 22 ปี ในเวลานั้น

        กาก้า รู้ดีว่า หลังจากรับรางวัล บัลลงดอร์ ครั้งนี้ ยุคทองของเขากำลังจะจบลง พร้อมกับการก้าวขึ้นมาของ เมสซี่ และโรนัลโด้ โดยกล่าวว่า “นี่คือยุคใหม่ของวงการฟุตบอล สไตล์ฟุตบอลแบบใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น ก่อนหน้านี้มีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมมากมาย แต่ตอนนี้ผู้เล่นใหม่กำลังเริ่มสร้างประวัติศาสตร์ของพวกเขาแล้ว”

สิ่งที่ อดีตกองกลาง มาดริด คิดไว้ กลายเป็นจริง ยุคใหม่เริ่มขึ้นในปีต่อมา ภายหลังปี 2007 ไม่มีนักฟุตบอลคนใดได้รางวัล บัลลงดอร์ นอกจาก เมสซี่ และโรนัลโด้ ก่อนที่ โมดริช กัปตันทีมชาติโครเอเชีย จะทำได้สำเร็จในปี 2018

เมื่อมองย้อนกลับไปที่สถิติของ กาก้า จากฤดูกาล 2006-2007 ในสมัยค้าแข้งกับ มิลาน มันไม่ชัดเจนว่า ทำไมเขาถึงได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก การยิง 18 ประตู และ 10 แอสซิสต์ ทั้งหมดอาจดูเหมือนจะไม่น่าประทับใจ

ในยุคที่ เมสซี่ และโรนัลโด้ ซึ่งยิง 50 ประตูต่อฤดูกาล กลายเป็นบรรทัดฐานที่น่าทึ่ง และในความยุติธรรม กาก้าอาจไม่สามารถสร้างอิมแพคต่อทีมได้มากเท่าที่ควร เนื่องจากผู้เล่นของ มิลาน อาทิ ดิด้า, คาฟู, เปาโล มัลดินี่, อเลซซานโดร เนสต้า, คาเลนซ์ ซีดอร์ฟ, เจนนาโร่ กัตตูโซ่, และอันเดรีย ปิล์โร่ ต่างอยู่ในช่วงปลายชีวิตค้าแข้ง

เมื่อปี 2007 เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ มิลาน บุกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไยเต็ด ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-2 ถือเป็นงานศิลปะชิ้นใหญ่ของ กาก้า หลังจากที่ดาวเตะแซมบ้า โชว์ลีลาฉีกแนวรับ “ปีศาจแดง” อย่าง เนมันย่า วิดิช, ปาทริค เอฟร่า และกาเบรียล ไฮน์เซ่ จนหัวปั่น ก่อนจะซัดคนเดียว 2 ประตู

และในปี 2007 นั้นเองที่ กาก้าพามิลานก้าวไปเป็นแชมป์ยุโรป ด้วยการเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศฯ ทำให้เจ้าตัวได้รับรางวัลบัลลงดอร์ ด้วยคะแนนโหวต 444 เสียง เหนือ ลิโอเนล เมสซี่ 167 คะแนน และ โรนัลโด้ 189 คะแนน

          แน่นอนว่า กาก้า ไม่ใช่นักฟุตบอลที่เคร่งศาสนาคนแรก ที่ยอมรับพรสวรรค์ของตัวเองในฐานะของขวัญจากพระเจ้าบนสวรรค์ แต่ความสามารถพิเศษเหนือนักเตะคนอื่นๆ พร้อมกับการวางตัวต่อสาธาณชน และไม่มีประวัติด่างพล้อย ทำให้เขาเป็นตัวอย่างที่ดีของนักกีฬา

          นอกจากนี้ เพลย์เมคเกอร์แซมบ้า ยังเป็นผู้บริจาคเงินอยู่บ่อยครั้งเพื่อการกุศลต่าง ๆ เขาเป็นผู้ชายที่มีเกียรติ และศรัทธาในตัวเอง กาก้า ไม่เคยทำให้ตัวเองดูเด่นต่อหน้าสื่อมวลชน เขาใช้ชีวิตด้วยความเรียบง่าย และมักไม่ค่อยปรากฏตัวบนหน้าหนังสือพิมพ์

           นักข่าวชาวบราซิลคนหนึ่ง ซึ่งติดตามชีวิต กาก้า มาตั้งแต่สมัยที่ยังค้าแข้งกับ เซา เปาโล ในบ้านเกิด ระบุว่า เขาเป็นคนดีโดยแก่นแท้ และมักทำงานการกุศลด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทน

          อดีตกองกลาง มิลาน และ มาดริด ไม่เพียงแต่นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก แต่เขาเป็นชายหนุ่มที่น่ารัก คุณสามารถพาเขากลับบ้านเพื่อไปพบกับครอบครัวของคุณ และให้พาคุณปู่-คุณย่า ไปโบสถ์ เช้าวันรุ่งขึ้นได้

          ปัจจุบัน กาก้า มีอายุ 36 ปี และเคยประสบความสำเร็จกับทีมชาติบราซิลด้วยการคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2002 ได้ประกาศแขวนสตั๊ดเรียบร้อยแล้ว เมื่อ ธ.ค.ปี 2017 โดยสโมสรสุดท้ายที่เขาเล่นให้ คือ ออร์แลนโด ซิตี้ ทีมในเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา

        ประวัติทั้งหมดของ กาก้า ที่กล่าวมา คงไม่ใช่คำพูดที่ยกยอเกินไปว่า เขาเป็น “เทพบุตรแห่งยุคโมเดิร์นฟุตบอล” อย่างแท้จริง

Picture – goal.com, extra.ie, dailymail.co.uk, itsnicethat.com, zimbio.com, foxsports.com