PUMA เปิดตัวชุดเหย้า และเยือนของแมนเชสเตอร์ซิตี้ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก ด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งสำหรับฤดูกาล 2019/20 ด้วยมรดกทางวัฒนธรรม
ฉลองการเริ่มต้นของฤดูกาลใหม่ ที่คาดหวังว่าจะเป็นความสัมพันธ์ใหม่ที่ประสบความสำเร็จ ด้วยการออกแบบเสื้อชุดพิเศษ ซึ่งเป็นครั้งแรกของความร่วมมือใหม่ระหว่าง PUMA และ Manchester City เป็นการผสมผสานของประเพณี ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้ดูดียิ่งขึ้น ในขณะที่สโมสรเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งใหม่ในการแข่งขัน
ชุดเสื้อสำหรับ “ทีมเหย้า” ที่มาในธีมสีฟ้าเมืองที่โดดเด่น แต่งเติมด้วยรูปแบบคลื่น jacquard ที่ทอลายเส้นให้ดูเหมือนลายคลื่นตลอดเนื้อผ้าที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาพของ looms ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปฏิวัติอุตสาหกรรมในแมนเชสเตอร์ harking ให้กลับไปที่การต่อสู้ และตัวละครที่แท้จริง ที่จะโผล่ออกมาจากโรงงานฝ้ายของเมือง
และยังเป็นครั้งแรกที่เสื้อเชิ้ตโฮมซิตี้แกนสีน้ำเงินนั้น ถูกเน้นด้วยรายละเอียดสีม่วง ซึ่งเป็นสีที่เห็นก่อนหน้านี้ ปรากฏที่บนไหล่เสื้อ รวมถึงตราสัญลักษณ์ของแบรนด์สปอนเซอร์ ส่วนตราประจำปีของสโมสรครบรอบ 125 ปีจากนั้น ก็จบด้วยเสื้อทีมเหย้าของแมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นครั้งแรก
ส่วนเสื้อชุด “ทีมเยือน” นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับรากฐานอุตสาหกรรมของเมือง การฉลองด้านวัฒนธรรมของสิ่งต่างๆ ได้รับอิทธิพลจาก “Madchester” ของเมืองและ Hacienda อดีตไนท์คลับโดยเฉพาะ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของเพลงใหม่ วงดนตรี, ดีเจ และศิลปิน
ฐานสีดำมีหลายสีให้เลือกโดยมีแถบสีเหลืองบนไหล่เป็นตัวอ้างอิงโดยตรง กับเอกลักษณ์ของกราฟิกที่เป็นสัญลักษณ์ของ Hacienda ในขณะที่ไฟสีฟ้าของเมืองที่ปรากฎอยู่บนแขนเสื้อ คือการสร้างให้ดูมีสีสันเพิ่มเติม
เสื้อทั้งสองได้เปิดตัวพร้อมกับ Stadium, Teamwear และ Fawner อย่างเต็มรูปแบบ ในงานเปิดตัวชุดทางการของสโมสรที่ Mayfield Depot ของแมนเชสเตอร์ ซึ่งได้รับการพาดหัวโดย Bugzy Malone แฟนเมืองว่า
“ความเป็นหุ้นส่วนระหว่าง Manchester City และ PUMA มันเหนือกว่าฟุตบอล เราต้องการให้แฟนๆ ทั่วโลกของสโมสร และ Mancunians ทุกคนรู้สึกถึงการลงทุนในเรื่องนี้ และมันเริ่มต้นด้วยการผสมผสานการออกแบบชุดสร้างสรรค์ของเราเข้ากับเรื่องราวของแท้จากประวัติศาสตร์และฉากดนตรีของแมนเชสเตอร์ ”
Adam Petrick ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดแบรนด์ระดับโลกของ PUMA กล่าว
“เราต้องการนำความคิดริเริ่มของแบรนด์ Manchester City และ PUMA มารวมกัน ทุกครั้งที่เราทำได้ และนั่นหมายถึงการก้าวข้ามสนามการแข่งขันไปสู่วัฒนธรรมฟุตบอลที่กว้างขึ้น เช่น การเล่นเกม ชุมชน แฟชั่น และดนตรี นั่นเป็นวิธีที่เราสามารถส่งผลกระทบต่อแฟนฟุตบอลทุกวัย และทุกกลุ่มประชากรได้อย่างแท้จริง”
Adam Petrick ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดแบรนด์ระดับโลกของ PUMA กล่าว
