หลังจบพรีเมียร์ลีกซีซั่น 2018/19 ที่ดุเดือดกันจนหยดสุดท้ายไปเรียบร้อย ก็มีการประกาศรางวัล และจัดอันดับต่างๆ นานา ถึงความยอดเยี่ยมจากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งไม่แปลกที่ทีมชั้นนำของลีกใน Top 6 จะโกยรางวัลกันมากมาย หลังทั้ง 6 ทีมจับจองอันดับ 1-6 กันได้ไม่ผิดพลาด

แต่เพื่อไม่ให้มันจำเจเหมือนคนอื่นเขา และเพื่อเปิดโอกาสให้เราพูดถึงทีมอื่นนอกเหนือ Top 6 ที่มีหลายทีม (และหลายคน) ทำผลงานได้น่าสนใจ เราเลยอยากจะจัดรางวัลสิ้นสุดซีซั่นพรีเมียร์ลีกไม่สน Top 6 แบบตามใจเราบ้าง

เอาล่ะ! มาดูกันดีกว่า ว่าหน้าตามันจะออกมายังไงบ้าง!?

นักเตะยอดเยี่ยม : คัลลั่ม วิลสัน (บอร์นมัธ)

บ่องตงว่าเลือกยากมากเลย! ชื่อที่มีในใจคือ คัลลั่ม วิลสัน, ราอูล ฆิมิเนซ, เจมส์ แมดดิสัน, ลูคัส ฟาเบียนสกี้, รูเบน เนเวส แต่สุดท้ายขอเลือกศูนย์หน้าจากบอร์นมัธละกัน

สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากของวิลสันในซีซั่นนี้คือ “ความสม่ำเสมอ” ซึ่งถือว่าสูสีกับฟาเบียนสกี้ ผู้รักษาประตูที่มีจำนวนเซฟมากที่สุดในลีก

นอกจากนั้น เกณฑ์สำคัญคือการมีอิทธิพลกับทีม ซึ่งวิลสันเล่นร่วมกับโจชัว คิง, เดวิด บรูกส์​ และไรอัน เฟรเซอร์ ได้ยอดเยี่ยมมาก จังหวะการจบสกอร์ที่ไว้ใจได้ ทำให้เขาทำได้ถึง 14 ประตู แถมยังแอสซิสต์ให้เพื่อน 12 ครั้ง อีกต่างหาก จึงไม่แปลกที่เขาจะยึดตำแหน่งในทีมชาติอังกฤษไว้ได้เหนียวแน่น

ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม : ฆาบี้ การ์เซีย (วัตฟอร์ด)

กุนซือสแปนิช เจ้าของเต็ง 1 ว่าจะโดนปลดก่อนฤดูกาลจะเริ่ม ซึ่งหักปากกาเซียนด้วยการทำผลงานได้ดี จนไม่ต้องลุ้นหนีตกชั้น แถมยังทะลุเข้าชิงเอฟเอ คัพ แม้สุดท้ายจะถูกทารุณกรรมในรอบชิงโดยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ตาม

เรื่องของการปรับปรุงทีม การ์เซียใช้เงินที่ได้จากการขายริชาร์ลิสัน ให้เอฟเวอร์ตัน ดึงตัวนักเตะในระดับแค่เกรด B หรือ C มาช่วยทีม จะมีชื่อคุ้นหูหน่อยก็แค่เคราร์ด เดวโลเฟว แนวรุกสำรองของบาร์เซโลน่า และผู้รักษาประตูมากประสบการณ์เบน ฟอสเตอร์ ที่เซ้งต่อมาจาก WBA ที่ตกชั้นไป

แต่เขาสามารถปรุงแต่งทีมได้ลงตัวรวดเร็ว เล่นเกมฉาบฉวยได้วูบวาบ ไม่น่าเบื่อ แม้เกมรับจะยังเป็นเครื่องหมายคำถามต่อไป แต่ในเรื่องของแดนกลาง และเกมรุก เขาปรับให้ทีมเล่นได้อย่างมั่นใจ และอันตรายเสมอ ไม่ว่าเจอทีมใด

ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า และเป็นม้านอกสายตาแบบสุดกู่ ทำให้เราเลือกเขาชนะเหนือนูโน่ ซานโต ของวูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งมีความพร้อมมากกว่าไป

การซื้อที่คุ้มค่าที่สุด : ลูคาสซ์ ฟาเบียนสกี้ (เวสต์แฮม)

แม้อายุอานามของฟาเบียนสกี้จะล่วงเลยไปถึงหลัก 33 ปีแล้วเมื่อตอนซื้อมาจากสวอนซี แต่ด้วยราคาระดับแค่ 7 ล้านปอนด์ในสมัยนี้ กับฟอร์มของเจ้าตัวแล้วนั้น มันคุ้มค่าเกินราคาไปมาก

รู้กันอยู่แล้วว่าเวสต์แฮมเป็นทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่นั่นมันตรงกันข้ามกับฟาเบียนสกี้ เพราะฟอร์มเขาสม่ำเสมอ และมีจำนวนการเซฟเยอะที่สุดในลีกถึง 148 ครั้ง นั่นทำให้ตัวเขา และเวสต์แฮม เก็บได้ถึง 7 คลีนชีต เทียบเท่ากับเดวิด เด เกอา เลยทีเดียว

นอกจากนั้นแล้ว ด้วยข้อผิดพลาดส่วนตัวที่แทบจะไม่มี จากการลงเล่นทุกนัดทุกนาทีให้ขุนค้อน ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า เขายังสามารถเล่นในระดับสูงได้อีกหลายปี

พัฒนาการยอดเยี่ยม : ไรอัน เฟรเซอร์ (บอร์นมัธ)

ตัวรุกร่างเล็กชาวสก็อตติช ผลุบๆ โผล่ๆ ในทีมตัวจริงของบอร์นมัธมา 2 ซีซั่นแล้ว แต่มาเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนในซีซั่นล่าสุดนี้ เมื่อเขาสามารถยึดตัวจริงถาวร และมีส่วนอย่างมากกับเกมรุกของบอร์นมัธ

เฟรเซอร์ทำไป 14 แอสซิสต์ เป็นรองเพียงแค่เอแดน อาซาร์ ซึ่งส่งให้เพื่อนทำประตูมากกว่าเขาแค่ครั้งเดียว นอกจากนั้น เขายังทำอีก 7 ประตู ดีขึ้นชัดเจนจากฤดูกาลที่ผ่านมา

และด้วยอายุแค่ 25 ปี ต้องลองติดตามกันต่อ ว่าจะมีทีมที่ใหญ่กว่า สนใจดึงเขาไปร่วมทีมมั้ย ซึ่งถ้ามีการย้ายทีมจริง คงมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 20 ล้านปอนด์แน่นอน

นักเตะยอดแย่ & การซื้อยอดแย่ : ฟรองค์ ซัมโบ้ อองกีสซ่า (ฟูแล่ม)

ตัวเลือกนักเตะยอดแย่หนีไม่พ้นในทีม “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่มนี่แหละ โทษฐานเสริมทัพด้วยเงินมหาศาล แต่แทบจะหานักเตะที่เป็นประโยชน์ต่อทีมไม่ได้เลย ทั้งอัลฟี่ มอลสัน, ฌอง มิเชล เซรี หรือฟรองค์ ซัมโบ้ อองกีสซ่า

สุดท้ายแล้วต้องขอเลือกอองกีสซ่า เพราะเซรีเขาก็มีช่วงต้นซีซั่นที่เล่นพอใช้ได้ ส่วนมอลสัน ก็บาดเจ็บซะมาก แต่กับอองกีสซ่าที่ได้รับโอกาสอยู่เรื่อยๆ ตลอดฤดูกาล กลับทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลย ยิงไม่ได้ซักประตู แอสซิสต์ไม่มีซักลูก แถมยังโดนไล่ออกไปครั้งนึงด้วย

ก่อนย้ายมาร่วมทีมฟูแล่มซีซั่นนี้ อองกีสซ่าเป็นนักเตะดาวรุ่ง (อายุ 22 ปี) ที่น่าจับตามองของมาร์กเซย ทำให้เขาย้ายมาด้วยค่าตัวค่อนข้างแพงถึง 22 ล้านปอนด์ และคาดหวังว่าจะทำให้แดนกลางของฟูแล่มแข็งแกร่งร่วมกับเซรี นักเตะที่บาร์เซโลน่าเคยอยากได้ตัว

แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว ฟอร์มของอองกีสซ่าเริ่มดร็อปลงเรื่อยๆ จนหลุดเป็นสำรองบ่อยครั้ง แม้ช่วงท้ายสก็อต ปาร์คเกอร์ จะเลือกเขาเป็นตัวจริง แต่ผลงานก็ยังดูไม่จืดเช่นเคย ทำให้เราต้องมอบตำแหน่งนักเตะยอดแย่ ควบกับการซื้อยอดแย่ ไปเลยแบบ 2 อิน 1

ผู้จัดการทีมยอดแย่ : เคลาดิโอ รานิเอรี่ (ฟูแล่ม)

ยังคงเวียนวนอยู่ที่ทีมเดิม และหวยก็มาออกที่คุณลุงรานิเอรี่ กุนซือที่เจ้าสัวหวังเอามากู้สถานการณ์ ภายหลังปลด “ย็อคก้า” สลาวิซ่า โยคาโนวิช แต่ผลลัพธ์มันกลับตรงกันข้าม จนทำให้รานิเอรี่อยู่กับทีมได้เพียงแค่ 3 เดือน

สถิติการคุมทีมของรานิเอรี่กับฟูแล่ม เรียกได้ว่า “หายนะ” ชนะเพียง 3 จาก 17 นัด คิดเป็น 17.6% ในประวัติการคุมทีมที่โชกโชนของแก ก็จะมีแต่การคุมทีมชาติกรีซซึ่ง 4 นัดไม่ชนะใครเลย ที่ย่ำแย่กว่า

แน่นอนว่านั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฟูแล่มตกชั้น เพราะพอรานิเอรี่โดนปลดไป มันก็แทบไม่เหลือทางให้สก็อต ปาร์คเกอร์ หรือผู้จัดการทีมคนไหนกู้สถานการณ์ที่ย่ำแย่ได้ทันอีกแล้ว

แมทช์แห่งซีซั่น : วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-3 เลสเตอร์ ซิตี้

แมทช์แห่งความบันเทิงที่ทั้ง 2 ทีมดูเหมือนว่าจะไม่เน้นเกมรับกันเลย!

7 ประตูที่เกิดขึ้น มีถึง 5 ประตูที่ยิงได้ในครึ่งหลัง ครบครันด้วยการต่อสู้เพื่อคัมแบ็คกลับมา และประตูสำคัญในช่วงนาทีสุดท้าย!

11 ผู้เล่น ทีมยอดเยี่ยม :

แน่นอนว่าเลือกยากอยู่เหมือนกัน จำใจต้องตัดนักเตะหลายคนที่เล่นดี อย่างเช่น ชิเวลล์, เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์), โดเฮอร์ตี้, โบลี่ (วูล์ฟ), ซิกูร์ดสัน (เอฟเวอร์ตัน), เฟลิเป้ แอนเดอร์สัน, ไรซ์ (เวสต์แฮม) หรือพวกวูบวาบช่วงครึ่งซีซั่นหลังอย่าง อโยเซ่ เปเรซ หรือรอนดอน ของนิวคาสเซิล

และสุดท้าย ก็ได้ 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมนอกเหนือจาก Top 6 มาหน้าตาแบบนี้

ผู้รักษาประตู : ลูคาสซ์ ฟาเบียนสกี้ (เวสต์แฮม)

กองหลัง : อารอน วาน-บิสซาก้า (คริสตัล พาเลซ), ลูก้า ดีญ (เอฟเวอร์ตัน), นาธาน อาเก้ (บอร์นมัธ), แฮร์รี่ มาไกวร์ (เลสเตอร์)

กองกลาง : ไรอัน เฟรเซอร์ (บอร์นมัธ), เจมส์ แมดดิสัน (เลสเตอร์), รูเบน เนเวส (วูล์ฟแฮมป์ตัน), อับดุลลาเย่ ดูกูเร่ (วัตฟอร์ด)

กองหน้า : ราอูล ฆิมิเนซ (วูล์ฟแฮมป์ตัน), คัลลัม วิลสัน (บอร์นมัธ)

และนั่นคือทั้งหมดของลิสต์รางวัลคร่าวๆ ที่ลองหยิบมาแชร์กัน ซึ่งทำให้เรารู้ว่ามีนักเตะมากมายจากทีมนอก Top 6 ทำผลงานได้น่าติดตาม และช่วยการันตีถึงคุณภาพของพรีเมียร์ลีก ซึ่งมาตรฐานทุกทีมไม่ได้ห่างกันจนเกินไป

คาดว่าก่อนฤดูกาลใหม่จะเปิดในอีก 3 เดือนข้างหน้า เราน่าจะได้เห็นการขยับตัวในตลาดซื้อขายของแต่ละทีมกัน ซึ่งนอกเหนือจากเหล่า Top 6 ที่น่าจะมีการเสริมทัพกันสนุกแล้ว ก็อย่าลืมติดตามทีมอื่น ที่เขาจะปรับทีมเพื่อเตรียมสู้ศึกอีกครั้ง เช่นกัน

Picture : Sky Sports, Football Daily, Racing Post, AFC Bournemouth, Mirror, West Ham United, The Transfer Tavern, Premier League, Yahoo! Sports, France Football, Wolverhampton Wanderers FC, Evening Standard

Clip : Matchday Highlights