ทุกวันนี้โลกเรามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับช่วยการเดินทางในเมืองมากมายไม่ว่าจะเป็นสเก็ตบอร์ด, จักรยานไฟฟ้า, สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหรือ Segway ที่พากันฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองอยู่พักหนึ่ง
ถึงสภาพฟุตบาทและมารยาทบนท้องถนนของประเทศไทยจะไม่เอื้อต่อการใช้งานพาหนะทุ่นแรงเหล่านี้แต่สำหรับบางคนการซื้อหามาไว้ใช้เพื่อเดินทางเชื่อมไปยังป้ายรถเมล์ สถานีรถไฟฟ้าหรือท่าเรือแค่เพียงระยะทางสั้นๆ ก็คุ้มกว่าการยืนรอคิววินมอเตอร์ไซต์ที่แถวยาวเยียดแถมยังช่วยทุ่นทั้งแรงและค่าใช้จ่ายได้ในเวลาเดียวกันด้วย
ล่าสุด Onewheel แบรนด์สเก็ตบอร์ดที่เคยส่งผลงาน Onewheel XR สเก็ตบอร์ดดีไซน์แปลกตาออกมาเมื่อปี 2013 ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความเท่ของสเก็ตบอร์ดเข้ากับนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้าได้ลงตัวทำให้ผลงานของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในหมู่สเก็ตเตอร์
ซึ่งคราวนี้เขากลับมาพร้อม Onewheel Pint ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังคงเอกลักษณ์ล้อขนาดกลางติดอยู่กลางบอร์ดและใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเอาไว้เหมือนรุ่นก่อน แต่ปรับราคาให้ย่อมเยาว์กว่าเดิมและใส่ความมินิมอล ลดความเท่แมนๆ ดิบๆแบบสเก็ตเตอร์ลงแล้วเติมความเรียบทันสมัยเข้าไปมากขึ้นโดยใช้สีเฮิร์ทโทนเป็นหลักเพื่อให้ภาพลักษณ์เอื้อต่อการใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย
สำหรับแผ่นบอร์ดมีความยาว 27 นิ้วถือว่ามีขนาดเล็กกว่าแบรนด์อื่นๆถึง 15% และน้ำหนักก็เบากว่าด้วย โดยมาพร้อมหูจับบริเวณด้านข้างเพื่อช่วยให้การเคลื่อนย้ายสะดวกขึ้นจะถือขึ้นรถเมล์หรือรถไฟฟ้าก็สบายๆ
ไม่เพียงเท่านี้ตัวบอร์ดยังมาพร้อมหน้าจอ LED สำหรับแสดงสถานะระหว่างเดินทาง เช่น สถานะแบตเตอรี่และรวมถึงข้อมูลที่จำเป็นซึ่งสามารถรองรับการเชื่อมตัวผ่านแอพพลิเคชันได้แถมยังมีแผงไฟ LED อัตโนมัติสำหรับส่องไฟขณะใช้งานยามค่ำคืนมาด้วย
แม้หน้าตาจะดูขับยากและต้องใช้การทรงตัวไม่ต่างจากสเก็ตบอร์ดทั่วไปแต่จริงๆ ไม่ยากอย่างที่คิดเพราะการขับเคลื่อนของสเกตบอร์ดรุ่นนี้ใช้พลังงานไฟฟ้า 750 วัตต์ จากมอเตอร์ด้านในและมีระบบเซ็นเซอร์รักษาการทรงตัวช่วยไม่ให้ล้มจ้ำเบ้าแม้ขับขี่บนพื้นผิวไม่เรียบก็ตาม ส่วนการบังคับทิศทางก็ไม่ยากอย่างที่คิดเพียงถ่ายน้ำหนักตัวไปด้านหน้าเพื่อเร่งความเร็ว โน้มตัวไปด้านหลังเพื่อชะลอความเร็ว
นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี Simple stop dismount ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายและใช้งานขั้นสูงได้เร็วขึ้นโดยสามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 26 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลสูงสุด 13 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
เรียกว่าน่าจะเหมาะกับสายสตรีทแฟชันผู้ต้องการทำให้การเดินทางในเมืองมีความสนุกมากขึ้นโดยเฉพาะในเมืองที่มีตรอกซอกซอยลัดต่างๆที่รถเข้าไปไม่ถึง ใครอยากได้สักอันตั้งหน้าตั้งตารอเปิดจองได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ราคาขายอยู่ที่ 950 ดอลล่าร์หรือประมาณ 30,150 บาท แต่ถ้าจะใช้ในไทยหมั่นดูหน้าระวังรถหลังไว้ให้ดีด้วยน้า
Source & Picture : dailygizmo|onewheel