10 เทศกาลดนตรีในเอเชียที่คอดนตรีไปกระทบไหล่ศิลปินระดับโลกได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องง้อวีซ่า - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
10 เทศกาลดนตรีในเอเชียที่คอดนตรีไปกระทบไหล่ศิลปินระดับโลกได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องง้อวีซ่า

เทศกาลดนตรีและศิลปะระดับโลกอย่าง Coachella เพิ่งจะผ่านพ้นไป ใครรักดนตรี ชอบเสพงานศิลป์ และหลงใหลมนต์เสน่ห์ของงานเฟสติวัลคงใฝ่ฝันอยากไปยืนที่แห่งนั้นสักครั้ง

เพราะไลน์อัพแต่ละวงนั้นเรียกว่าระดับซุปเปอร์สตาร์ของโลก แถมไม่ใช่แค่บนเวทีแต่บริเวณงานคุณอาจจะได้เดินสวนกับเหล่าเซเลบริตี้จากทั่วทุกมุมโลกที่ตบเท้าเข้าไปเสพดนตรีไม่ขาดสาย แต่ด้วยราคาบัตรแพงหูฉี่และระยะทางไกลแสนไกลต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึง California นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ทุกคนจะสามารถไปเยือนได้

ถึงชีวิตจะยากแต่อย่าเพิ่งหมดหวังไปเพราะในเอเชียฝั่งบ้านเราเองก็มีหลายเทศกาลดนตรีระดับโลกที่เด็ดไม่แพ้ Coachella อยู่เหมือนกัน ซึ่งบางคนก็ไม่รู้ว่างานดีงามอย่างนี้อยู่ใกล้ไทยแค่นี้เอง

วันนี้เราจึงขนลิสต์ 10 เทศกาลดนตรีนานาชาติจากเหล่าประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียมาชวนทุกคนไปมันส์ได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องง้อวีซ่า

1. Wanderland, ฟิลิปปินส์

Wanderland

ช่วงเวลา: ประมาณเดือนมีนาคม เมษายน หรือ พฤษภาคม

สถานที่: Filinvest City Event Grounds ,Manila,Philippines

เว็บไซต์: http://wanderlandfestival.com/

เพิ่งผ่านพ้นไปหมาด ๆ สำหรับ Wanderland เทศกาลดนตรีและศิลปะที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจัดต่อเนื่องมาจนเข้าปีที่ 7 แล้วและยังรักษาจุดเด่นในฐานะเทศกาลดนตรีที่รวมพลศิลปินอินดี้ระดับโลกเอาไว้มากมายได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น Kodaline, FKJ , Daniel Caesar, Lauv, HONNE,  Lany, Masego,The Kooks, Mac Ayres ฯลฯ ล้วนก็เคยขึ้นเวทีเทศกาลนี้มาแล้วเท่านั้น

และไม่เพียงมีดีแค่เพลงอินดี้แต่ร็อค ฮิปฮอป ป๊อป หรือแนวอื่นเขาก็มีเช่นกัน ทั้งยังมีเวทีสำหรับโชว์ศิลปะต่าง ๆ จากศิลปินเจ้าบ้านและมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างการเพ้นท์หน้า ดูดวง ช็อปปิ้งตลาดนัดศิลปะและอื่น ๆ อีกมากมายให้ได้ทำกันตลอด 2 วันเต็ม ที่สำคัญมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ

2. Fuji Rock, ญี่ปุ่น

Fuji Rock Festival

ช่วงเวลา: 3 วัน, เดือนกรกฎาคม

สถานที่: Naeba Ski Resort, Yuzawa-Cho, Niigata, Japan

เว็บไซต์: https://en.fujirockfestival.com/

Fuji Rock เป็นเทศกาลร็อคที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและจะว่าใหญ่สุดในเอเชียก็ว่าได้โดยจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1997 ภายใต้คอนเซ็ปต์ผสมผสานธรรมชาติและดนตรีให้เข้ากันอย่างกลมกลืน

ทุกๆ ปีต่างก็มีศิลปินฝั่งญี่ปุ่นและฝั่งระดับโลกหลายร้อยชีวิตทั้งป๊อป ร็อกและ EDM ไม่ว่าจะเป็น Coldplay, Arctic Monkeys, Muse, Oasis, Gorillaz, Björk, Foo Fighters, Muse, Red Hot Chili Peppers, Noel Gallagher, Franz Ferdinand, Foster the People และศิลปินตัวพ่อในตำนานอย่าง Bob Dylan ตบเท้าเข้ามามามอบความสนุกให้แก่ผู้ชมร่วมแสนคนบนพื้นที่จัดงานอันกว้างใหญ่ไพศาล อัดแน่นไปด้วยเวทีใหญ่และเวทีย่อยๆ มากมายให้พร้อมโดดกันตลอด 3 วันเต็ม

อีกหนึ่งจุดเด่นนอกจากไลน์อัพ Fuji Rock ยังได้รับขนานนามให้เป็นเทศกาลดนตรีที่สะอาดที่สุดในโลก ผู้คนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามสไตล์คนญี่ปุ่นจึงเหมาะกับผู้คนทกุเพศทุกวัย ไปกันได้ทั้งครอบครัวเพราะทุกคนไม่ได้มาที่นี่เพื่อสนุกสนานกับดนตรีเท่านั้นแต่พวกเขามาสนุกกับกิจกรรมผจญภัยภายใต้ธรรมชาติอันสวยงามอย่างการเดินป่า เล่นน้ำตก ขึ้นกระเช้าชมวิวมุมสูง และกินอาหารท้องถิ่น

ด้วยเหตุนี้เองแม้จะขึ้นชื่อเรื่องความโหดของสภาพอากาศเลวร้ายไม่ปรานีใครทั้งแดดทั้งฝนจัดเต็ม แต่ก็ทำให้ Fuji Rock เป็นหนึ่งลิสต์ที่ใคร ๆ ก็อยากเดินทางไกลฝ่าป่าดงพงไพร ขึ้นเขาลงห้วย เพื่อจะไปหาวงที่ชอบและซึมซับบรรยากาศอันสวยงามของพื้นที่จัดงาน พร้อมทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ ๆ

3. Summer Sonic , ญี่ปุ่น

summersonic

ช่วงเวลา: 2 วัน, เดือนสิงหาคม

สถานที่: Zozo Marine Stadium & Makuhari messe , Tokyo

Maishima Sonic Park, Osaka

เว็บไซต์:  http://www.summersonic.com/2019/

Summer Sonic ถือเป็นงานเทศกาลดนตรีฤดูร้อนของญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกงานหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันเต็ม พร้อมกันทั้งใน Tokyo และ Osaka แต่คอนเซ็ปต์ของงานจะแตกต่างจาก Fuji Rock โดยสิ้นเชิงเพราะ Summer Sonic จัดในตัวเมืองที่เดินทางได้สะดวก ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าร่วมงานแบบเช้าไปเย็นกลับได้

ถึงจะเป็นงานเดินทางง่ายไม่ต้องนอนค้าง แต่ตลอดทั้งสองวันล้วนอัดแน่นไปด้วยดนตรีหลากหลายแนว ทั้งเพลง Pop, Rock, Jazz, Hiphop, Metal , EDM ฯลฯ จากศิลปินเบอร์ใหญ่ระดับโลกและศิลปินชาวญี่ปุ่น โดยพวกเขาจะสลับวันกันขึ้นแสดงระหว่างที่ Tokyo และ Osaka ถ้าพลาดวันหนึ่งก็ยังบินไปเก็บตกอีกวันได้สบาย

สำหรับในปี 2019 นี้พิเศษกว่าที่เคยเพราะ Summer Sonic ฉลองครบรอบ 20 ปีด้วยการจัดหนักเพิ่มวันแสดงเป็น 3 วันยาว ๆ  พร้อมไลน์อัพสุดโหดอย่าง Red Hot Chili Peppers ,The 1975, Two Door Cinima Club, Black Pink, The Chainsmokers,Disclosure และอื่น ๆ อีกมากมาย  ใครมีแพลนจะไปญี่ปุ่นช่วงเดือนสิงหาคมนี้พลาดไม่ได้เลย

4. Clockenflap, ฮ่องกง

Clockenflap

ช่วงเวลา: 3 วัน, เดือนพฤศจิกายน

สถานที่: Central Harbourfront Event Space, Hong Kong

เว็บไซต์: http://www.clockenflap.com/

เทศกาลดนตรีและศิลปะของเกาะฮ่องกงที่ได้รับการยอมรับจากคอดนตรีทั่วโลกว่าโดดเด่นในการนำเอาวัฒนธรรมตะวันออกกับตะวันตกมาผสมผสานลงไปบนดนตรีและศิลปะได้อย่างลงตัว

เริ่มตั้งแต่ดนตรีที่รวบรวมหลากศิลปินหลายแนวเพลงจากทั่วโลก รวมถึงฝั่งฮ่องกงเองมาโชว์เคสตลอดเวลาสามวันสามคืนครบทั้ง Rock, HipHop, EDM, Indie และอีกมากมาย ซึ่งศิลปินชื่อดังอย่าง Khalid, Rhye, Cigarettes After Sex , Damien Rice, A$AP Rocky, Clean Bandit ฯลฯ ล้วนก็เคยมาเยือนเวทีนี้มาแล้ว

ถัดมาเรื่องการแสดงศิลปะนั้นจะมีโซนพื้นที่และเวทีโชว์ผลงานของศิลปินแขนงต่างๆ พร้อม
ตลาดสินค้าทำมือให้เลือกช็อปปิ้งกันต่อ นอกจากนั้นยังมีโซนสนุกซึ่งเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก ก่อนปิดท้ายค่ำคืนด้วยปาร์ตี้จากเหล่าดีเจชั้นนำระดับโลกที่มาชวนทุกคนปล่อยร่างกายไปกับปาร์ตี้สุดมันส์ภายใต้ภูมิทัศน์สวยงามทอดยาวเป็นฉากหลังของงาน เพราะเขาจัดกันริมทะเล มองเห็นวิว skyline ของเกาะฮ่องกงแบบ 360 องศา แถมช่วงจัดงานตอนปลายเดือนพฤศจิกายนนั้นยังเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวอุณหภูมิประมาณ 18-21 องศาเซลเซียส เรียกว่าเย็น ๆ สบายไม่ต้องกลัวร้อน

5. We The Fest, อินโดนีเซีย

ช่วงเวลา: 3 วัน, เดือนกรกฎาคม

สถานที่: Jiexpo Kemayoran,Jakata,Indonesia

เว็บไซต์: http://www.wethefest.com/

We The Fest เป็นเทศกาลดนตรีและศิลปะของประเทศอินโดนีเซียที่จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูร้อน และขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายของแนวดนตรี เราจึงสามารถรับชมรับฟังแทบจะทุกแนวเพลงได้ในงานเดียวอย่างไม่มีข้อจำกัด แถมศิลปินที่บินลัดฟ้ามาขึ้นเวทีงานนี้ก็ระดับไม่ธรรมดาเพราะบางคนยังไม่เคยมาไทยเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น Troye Sivan, Anne-Marine, Alvvays, Anna Lunoe, Daniel Caesar,Dean ฯลฯ เรียกว่าเป็นอีกงานที่รวมศิลปินอินดี้หาชมยากและศิลปินเบอร์ใหญ่มาแรงมารวมตัวกันไว้ในราคาบัตรที่คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

และแน่นอนขึ้นชื่อว่าเทศกาลดนตรีและศิลปะ ภายในงานจึงให้ความสำคัญเรื่องศิลปะ วัฒนธรรมไม่แพ้ด้านดนตรี ผู้เข้าร่วมงานจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับศิลปะดั้งเดิมและศิลปะสมัยใหม่ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินหลายแขนงในโซน Art Village และ WTF Con นอกจากนั้นยังมีโซนดูหนัง โซนเล่นเกม รวมถึงโซนของกินให้เราอิ่มท้องตลอดระยะเวลา 3 วันเต็ม

6. Good Vibes Festival, มาเลเซีย

Good Vibes Festival

ช่วงเวลา: 2 วัน, เดือนกรกฎาคม

สถานที่: The Ranch at Gohtong Jaya,Genting Highlands , Malaysia

เว็บไซต์: http://www.goodvibesfestival.com/

เทศกาลดนตรีสุดชิลของประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านเราที่ไลน์อัพดีงามไม่แพ้ We The Fest หรือแทบจะย้ายทั้งหมดจากนั่นมานี่เลยก็ว่าได้

ด้วยความพยายามจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆเพื่อสร้างความสดใหม่ให้กับแฟนๆของเทศกาลอยู่เสมอ แต่ละปี Good Vibes Festival จึงเต็มไปด้วยทัพสุดยอดศิลปินทั้งในท้องถิ่นและระดับนานาชาติที่ตบเท้าเข้ามามอบความมันส์อันยากที่จะลืมเลือนบนเวทีของเทศกาลแห่งนี้ ทั้ง Lorde, SZA ,ALT-J, Honne, The Neighbourhood,  Ellie Goulding, Dua Lipa, LANY, The1975 และอื่น ๆ อีกมากมายต่างก็ผ่านเวทีนี้มาแล้ว

นอกจากเหตุผลเรื่องศิลปิน โลเคชันอย่าง Genting Highlands ก็เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กที่ดูดแฟนเพลงทั่วเอเชียให้มารวมตัวกัน เพราะสถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอากาศดีและทิวทัศน์สวยงาม Good Vibes Festival จึงถูกจัดให้เป็นเทศกาลดนตรีที่ดีที่สุดในมาเลเซียและรอให้คอดนตรีไปพบกับประสบการณ์ทางดนตรีที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน พร้อมอิ่มท้องไปกับอาหารเลิศรสเสิร์ฟโดยร้านชั้นนำ และกิจกรรมสุดมันส์

7. zoukout, สิงค์โปร์

zoukout

ช่วงเวลา: 2 วัน, เดือนธันวาคม

สถานที่: Siloso Beach, Sentosa, Singapore

เว็บไซต์: https://www.zoukout.com/

Zoukout เทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ริมชายหาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียเหมาะสำหรับขาแดนซ์โดยเฉพาะเพราะเขารวบรวมความมันส์ทุกแนวตั้งแต่ EDM, House, Techno, Trance และ Hip Hop ทั้งยังเป็นงานที่จัดต่อเนื่องยาวนานที่สุดตลอด 16  ชั่วโมงแบบไม่มีพักตั้งแต่พระอาทิตย์ตกยันพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมให้โดดกันยาว ๆ จนหมดแรงไปเลย รับประกันความมันส์สุดเหวี่ยงได้จากศิลปินตัวพ่อที่เคยมาเยือนอย่าง Avicii, Armin van Buuren, Marshmello, David Guetta, Tiësto, Martin Garrix และ Zedd

นอกจากไลน์อัพดีเจที่หางานอื่นเทียบได้ยากแล้ว ZoukOut ยังเตรียมจัดอาหารการกินไว้บริการเป็นอย่างดีตั้งแต่มื้อเย็นยันอาหารเช้ากันเลย โดยทางทีมงานได้จับมือกับแบรนด์จัดเทศกาลอาหารการกินชื่อดังของสิงคโปร์มามอบประสบการณ์ครบเครื่องเรื่องกินแบบ food village ให้กับทุกคนในงาน ทั้งยังมีกิจกรรมริมชายหาดมากมายให้เลือกเพลินเพลิดได้ตลอดสองวัน

8. Epizode, เวียดนาม

Epizode

ช่วงเวลา: 11 วัน สิ้นเดือนธันวาคม – ต้นเดือนมกราคม

สถานที่: Sunset Sanato Beach Club,Phu Quoc Island, Vietnam

เว็บไซต์:https://epizode.com/

อีกงานสำหรับขาแดนซ์กับ Epizode เทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ริมชายหาดบนเกาะ Phu Quoc ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็นพาราไดซ์แห่งเวียดนาม แม้จะยังเป็นงานน้องใหม่อยู่แต่เห็นโลเคชันและบรรยากาศในงานปีก่อน ๆ แล้วบอกเลยว่าพร้อมมากที่จะเดินทางไปดื่มด่ำความมันส์ของเทศกาลอันน่าหลงไหลนี้ เพราะความพิเศษของ Epizode อีกอย่างนอกจากเรื่องของโลเคชันและการตกแต่งสไตล์ทรอปิคอล ก็คือระยะเวลาจัดงานนี่แหละ เพราะเขาจัดแบบ non-stop 11 วันเต็มให้โยกกันยาว ๆ จนหมดแรงไปข้างหนึ่งเลย

ซึ่งตลอดระยะเวลา 11 วันนั้นคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์เทศกาลดนตรีรูปแบบใหม่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับ 4 เวทีที่เน้นหนักเรื่องศิลปะและดนตรีเป็นหลักไลน์อัพจึงอัดแน่นไปด้วยเหล่าดีเจทั่วโลกกว่าร้อยชีวิตที่บินลัดฟ้ามามอบความสนุกให้ตลอดทั้งงาน อาทิ Dubfire, Ferry Corsten, Sunju Hargun, Swoosh, Weng Weng และอีกมากมายนอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Days of colors ที่จำลองเทศกาล Holi ของศาสนาฮินดูมาให้พวกเราได้สาดสี เทสี ใส่กันไปพร้อม ๆ กับบทเพลง EDM สุดมันส์ การันตีความดีงามของงานด้วยนักท่องเที่ยวกว่า 10,000 คน จาก 79 ประเทศเดินทางมายังงานแห่งนี้

9. Neon Lights, สิงค์โปร

neonlights

ช่วงเวลา: 3 วัน,เดือนพฤศจิกายน

สถานที่: Fort Gate, Fort Canning Park, Singapore

เว็บไซต์: http://www.neonlights.sg/

Music Festival น้องใหม่ที่พึ่งจัดขึ้นไม่นานแต่สร้างความน่าสนใจด้วยชูความเป็นศิลปะออกมาเป็นจุดขายพร้อม ๆ กับดึงศิลปินระดับต้นๆของวงการอินดี้มาเป็นขึ้นเวที ไม่ว่าจะเป็น Yuna,Interpol, Cigarettes After Sex,Rhye,Caribou,Interpol และ ภูมิ วิภูริศ ศิลปินอินดี้ชื่อดังจากฝั่งไทยบ้านเราก็เคยไปมอบความสนุกในงานนี้เช่นกัน

โดย Neon Lights จะจัดขึ้นที่สวนสาธารณะใจกลางเมืองสิงคโปร์อย่าง Fort Canning National Park และนอกเหนือจากดนตรีดีๆแล้ว Neon Lights ยังขึ้นชื่อในเรื่องเป็นเทศดนตรีสำหรับครอบครัวเพราะมี Arts Programme ให้กลุ่มคนทุกวัยสามารถทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น Workshop, งาน D.I.Y และเกมลับสมองสุดสร้างสรรค์ ทั้งยังมีโชว์ Performing arts จากศิลปินแขนงต่างๆ จากทั่วโลกคอยสร้างความคึกคักอยู่ตลอดทั้งงาน

ส่วนฝั่งของกินเองก็ไม่น้อยหน้าขนอาหารท้องถิ่นมาให้ชิมกันละลานตาไปหมด เรียกว่าไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ไปสนุกได้จริง ๆ สำหรับเทศกาลนี้

10. Wonderfruit , ไทย

Wonderfruit

ช่วงเวลา: 4 วัน, เดือนธันวาคม

สถานที่: The Fields at Siam Country Club, Pattaya, Thailand

เว็บไซต์: https://wonderfruit.co/th/

เทศกาลดนตรีบ้านเราที่ใครไม่เคยไปต้องหาโอกาสไปสักครั้งเพราะที่นี่มีดีมากกว่าดนตรี แต่ผสมผสานแนวคิดด้านความยั่งยืนและสีสันของวัฒนธรรมอันหลากหลายไว้ได้ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะศิลปะ สถาปัตยกรรม ดนตรี ฟาร์มทูฟีสต์ ทอล์ค เวิร์คช็อป กิจกรรมเพื่อสุขภาพ หรือกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อครอบครัวต่างออกแบบมาให้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติสามารถสนุกร่วมได้ตลอด 3 วันแบบไม่มีเบื่อ

พร้อมยังตอกย้ำความสนุกด้วยไลน์อัพศิลปินที่มีเอกลักษณ์จากหลากหลายเชื้อชาติหลากหลายแนวดนตรีคอยมาสร้างสีสันบนเวทีเล็กเวทีใหญ่ เพื่อเปิดประสบการณ์ทางดนตรีให้ทุกคนได้สัมผัสมากกว่าที่เคย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษอย่าง Wander Kitchen มื้ออาหารสไตล์ Chef Table โดยเชฟชื่อดังที่จะมาเพิ่มสีสันของมื้ออาหารของคุณในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟ พร้อมทำกิจกรรม WorkShop เรียนรู้การทำอาหารรูปแบบต่างๆ จากเชฟโดยตรงได้ด้วย

Source :1|2|3|4|5|6|7

Cover : clockenflap

Suthamat
The girl with flowers tattoo

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save