The Lion King ภาค 2019 นั้นไม่สามารถบอกได้อย่างแท้จริงว่ามันเป็น Live-Action หรือ Animation เพราะภาพที่ออกมามันก้ำกึ่งระหว่าง ความจริงและสิ่งที่สร้างขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีและภาพที่ถูกแสดงอยู่ในโรงภาพยนตร์นั้นเหมือนกับนั่งดูสารคดีจาก National Geographic ไม่ว่าจะตัวละคร หรือฉากประกอบต่างๆล้วนดูสมจริงไปทั้งหมด ถ้าหากดู Toy Story 4 มาแล้วจะได้เห็นภาพความละเอียดขึ้นของเหล่าของเล่นที่ซูมกันไปได้ถึงใยผ้า ขน และมองเห็นได้ถึงพื้นผิวของวัตถุดิบที่ใช้สร้างของเล่นเหล่านั้น ใน The Lion King มันลึกไปมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์ หนังสัตว์ พื้นผิว กรวด หิน ดิน ทราย ถ้าเหล่าสัตว์ไม่ได้ร้องเพลงอยู่ก็แทบไม่รู้สึกตัวว่านี่เป็นภาพที่สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
การเคลื่อนไหวที่สมจริงของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่
การแสดงของสัตว์เองก็เช่นกัน สร้างขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ทั้งหมดตามที่ผู้กำกับ Jon Favreau ได้บอกเอาไว้ว่าไม่ได้มีการใช้ Motion Capture ใดๆเลย แต่ทว่าทุกท่วงท่าของเหล่าสัตว์นั้นดูเป็นธรรมชาติเอามากๆ ทำให้นึกไปถึงตอนที่ดิสนีย์ทำ Animation ในสมัยก่อนด้วยการนำสัตว์เข้ามาเป็นแบบวาด ทีมงาน Animation ของเรื่องนี้ดูท่าจะต้องศึกษาเหล่าสัตว์อย่างใกล้ชิดเหมือนกันแน่ๆ
ฉากที่สวยงาม และภาพที่ตราตรึงใจ
ไม่ใช่แค่รายละเอียดของตัวละครและโลกรอบๆ ตัวของพวกเขา แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสามารถถ่ายทอดความสวยงามของโลกแห่ง Lion King ออกมาได้อย่างสวยสดงดงาม มีความเป็นของตัวเองภายใต้ความสมจริง แต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยของภาคต้นฉบับดั้งเดิมเอาไว้
การพากย์เสียงกับแคสติ้งดาราระดับยักษ์
เหล่านักแสดงที่ให้เสียงในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นล้วนเป็นนักแสดงแนวหน้าของวงการ Hollywood ไม่ว่าจะเป็น Donald Glover ผู้รับบท SimBa ในวัยหนุ่ม ที่มีผลงานมาจากทั้ง Han Solo และ Spider-Man : Homecoming และผลงานเพลงภายใต้ชื่อ Childish Gambino ผลลัพธ์ที่ออกมาจากเขานั้นถือว่าทำได้ดีมากทั้งในบทพูดและเพลง Hakuna Matata แต่กลับมาโดน Beyonce Knowles ในบท Nala นางเอกของเรื่อง ดีว่าระดับพระกาฬที่บทบังรัศมีไปในเพลง Can You Feel The Love Tonight ที่จากเคยเป็นเพลงคู่ถูกดันออกไปให้แทบจะกลายเป็นแค่เสียงคอรัสสนับสนุนเท่านั้น ซึงมันลดความเป็น The Lion King ให้น้อยลงไปมากกว่าเดิม ในขณะที่ตัวประกอบทั้งหลายกลับทำได้ดี โดยเฉพาะ Chiwetel Ejiofor ในบท Scar ที่ดูร้ายขึ้น รุนแรงขึ้น ดูมีภัยคุกคามที่ชัดเจนมากกว่าเดิม ที่โชว์สกิลร้องเพลงให้เห็นชัดเจนเป็นครั้งแรกกับเพลง Be Prepared ที่สามารถทำให้ขนลุกได้เลย ในส่วนของ Timon และ Pumbaa นั้นเป็นส่วนที่ดีที่สุดของ The Lion King เวอร์ชั่นนี้จริงๆ และสำหรับ Zazu ผู้ที่แทบจะไม่ได้ร้องเพลงอะไรเลย John Oliver นักแสดงตลก และพิธีกรรายการ Last Week With John Oliver นั้นก็สามารถให้เสียงที่โดดเด่นแยกออกมาจากนักแสดงคนอื่นๆ ได้อย่างมีเสน่ห์ น่าติดตาม และทำให้ Zazu กลายเป็นตัวละครที่มีรัศมีขึ้นมาเป็นอย่างมาก
เนื้อเรื่องที่ไม่เปลี่ยน การเดินเรื่องที่เหมือนเดิม (มีสปอยล์)
บางครั้งการรักษาความดั้งเดิมเอาไว้มากจนเกินไป ก็สามารถทำร้ายภาพยนตร์ได้ และใน The Lion King ภาคใหม่นี้ มันทำร้ายภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างรุนแรง เพราะสำหรับคนที่เคยดูแล้ว รู้เรื่องอยู่แล้ว เขาจะหาความแปลกประหลาดใจนอกเหนือจากงานภาพและเหล่านักแสดงไม่ได้เลย ในฉากที่เรียกน้ำตาหลักของเรื่องนั้นก็มีเวลาให้เตรียมตัวเตรียมใจนานก่อนที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดล่วงหน้า เหมือนกับที่เรารู้ว่าอีก 3 โค้งหน้าเราจะพุ่งตกเขา เราทำใจได้ตั้งแต่โค้งแรกแล้ว แต่ในความน่าผิดหวังนั้น มันมีข้อดีอยู่ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังมีเป้าหมายไปที่ผู้ชมครั้งแรกของมันด้วย สำหรับพ่อแม่ที่พาลูกเข้าไปชมเป็นครั้งแรก เด็กๆ จะได้พบกับประสบการณ์ที่สมจริงขึ้นภายใต้ความคลาสสิคของเนื้อเรื่องเดิม
การตัดต่อที่ทั้งขาดและเกิน
ถ้ารวมงานภาพ งานแสดง การให้เสียง เพลงประกอบ ที่อยู่ในระดับสูงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ Hollywood ความใส่ใจในรายละเอียดและการซื่อตรงต่อต้นฉบับ พร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า Animation ใดๆ บนโลก จะมีอะไรที่มาทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ด้อยลงได้ อาจจะต้องบอกว่าเป็นการตัดต่อที่กระโดดข้ามไปมาที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกตามกับมันไปด้วย อาจจะเป็นได้ทั้งการตัดต่อฉับพลันไปอีกมุมหนึ่ง ไปอีกกล้องหนึ่งที่ไม่ได้ทำให้เรามีความตระหนักในพื้นที่นั้นๆ เลย มันทำให้เราหลุดออกจากภวังค์ของฉากนั้นๆได้ และการที่เล่าเนื้อเรื่องในพื้นที่ต่างกันกับเนื้อเรื่องที่แยกจากกันแทบจะสิ้นเชิง ในแง่ของภาพยนตร์มันทำหน้าที่แค่ให้”ข้อมูล” กับเราเท่านั้น มันไม่ได้มีความเชื่อมโยงระหว่างกันเลย มันทำให้ไม่ประติดประต่อ มันไม่เหมือนกับการตัดต่อให้มันเป็น”จิ๊กซอว์” มันเหมือนแค่แผ่นกระดาษที่เรียงต่อๆ กันเท่านั้น
โดยสรุปแล้ว The Lion King เวอร์ชั่น 2019 นี้สามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างทุลักทุเล แต่ก็ยังสามารถเข็นสิ่งดีๆ ทั้งเพลงเวอร์ชั่นใหม่บางเพลง กราฟฟิคระดับโคตรพ่อโคตรแม่สมจริง และ Timon กับ Pumbaa เวอร์ชั่นใหม่ที่เสมือนเป็น “Minions” ผู้ที่พร้อมจะขโมยหนังและแฟรนส์ชายส์เรื่องนี้เอาไปขายได้เลย สำหรับผู้ที่โหยหา”ฟีล”ของเวอร์ชั่นการ์ตูน ท่านจะพบได้”บ้าง”จากเวอร์ชั่นนี้ แต่ผู้ที่ต้องการเข้าไปชมความก้าวหน้าของวิทยาการ Animation เชื่อว่าท่านจะไม่ผิดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้
คะแนนรีวิว C
Text – Millenium Flerken