Movie Review | The Lion King 2019 ความยับเยินระดับ HD ที่ทั้งสวยงามและน่าผิดหวัง - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
Movie Review | The Lion King 2019 ความยับเยินระดับ HD ที่ทั้งสวยงามและน่าผิดหวัง

The Lion King ภาค 2019 นั้นไม่สามารถบอกได้อย่างแท้จริงว่ามันเป็น Live-Action หรือ Animation เพราะภาพที่ออกมามันก้ำกึ่งระหว่าง ความจริงและสิ่งที่สร้างขึ้น

ด้วยเทคโนโลยีและภาพที่ถูกแสดงอยู่ในโรงภาพยนตร์นั้นเหมือนกับนั่งดูสารคดีจาก National Geographic  ไม่ว่าจะตัวละคร หรือฉากประกอบต่างๆล้วนดูสมจริงไปทั้งหมด  ถ้าหากดู Toy Story 4 มาแล้วจะได้เห็นภาพความละเอียดขึ้นของเหล่าของเล่นที่ซูมกันไปได้ถึงใยผ้า ขน และมองเห็นได้ถึงพื้นผิวของวัตถุดิบที่ใช้สร้างของเล่นเหล่านั้น   ใน The Lion King มันลึกไปมากกว่านั้น  ไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์ หนังสัตว์  พื้นผิว กรวด หิน ดิน ทราย  ถ้าเหล่าสัตว์ไม่ได้ร้องเพลงอยู่ก็แทบไม่รู้สึกตัวว่านี่เป็นภาพที่สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ทั้งหมด

THE LION KING – Featuring the voices of John Oliver as Zazu, James Earl Jones as Mufasa and JD McCrary as Young Simba, Disney’s “The Lion King” is directed by Jon Favreau. In theaters July 19, 2019. © 2019 Disney Enterprises, Inc. All Rights Reserved.

การเคลื่อนไหวที่สมจริงของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่

การแสดงของสัตว์เองก็เช่นกัน  สร้างขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ทั้งหมดตามที่ผู้กำกับ Jon Favreau ได้บอกเอาไว้ว่าไม่ได้มีการใช้ Motion Capture ใดๆเลย  แต่ทว่าทุกท่วงท่าของเหล่าสัตว์นั้นดูเป็นธรรมชาติเอามากๆ  ทำให้นึกไปถึงตอนที่ดิสนีย์ทำ Animation ในสมัยก่อนด้วยการนำสัตว์เข้ามาเป็นแบบวาด  ทีมงาน Animation ของเรื่องนี้ดูท่าจะต้องศึกษาเหล่าสัตว์อย่างใกล้ชิดเหมือนกันแน่ๆ

ฉากที่สวยงาม และภาพที่ตราตรึงใจ

ไม่ใช่แค่รายละเอียดของตัวละครและโลกรอบๆ ตัวของพวกเขา แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสามารถถ่ายทอดความสวยงามของโลกแห่ง Lion King ออกมาได้อย่างสวยสดงดงาม  มีความเป็นของตัวเองภายใต้ความสมจริง แต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยของภาคต้นฉบับดั้งเดิมเอาไว้

THE LION KING – (Top to Bottom) Timon and Billy Eichner, Pumbaa and Seth Rogen and Zazu and John Oliver. Photo by Kwaku Alston. © 2019 Disney Enterprises, Inc. All Rights Reserved.

การพากย์เสียงกับแคสติ้งดาราระดับยักษ์

เหล่านักแสดงที่ให้เสียงในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นล้วนเป็นนักแสดงแนวหน้าของวงการ Hollywood ไม่ว่าจะเป็น Donald Glover ผู้รับบท SimBa ในวัยหนุ่ม ที่มีผลงานมาจากทั้ง Han Solo และ Spider-Man : Homecoming และผลงานเพลงภายใต้ชื่อ Childish Gambino ผลลัพธ์ที่ออกมาจากเขานั้นถือว่าทำได้ดีมากทั้งในบทพูดและเพลง Hakuna Matata   แต่กลับมาโดน Beyonce Knowles ในบท Nala นางเอกของเรื่อง ดีว่าระดับพระกาฬที่บทบังรัศมีไปในเพลง Can You Feel The Love Tonight  ที่จากเคยเป็นเพลงคู่ถูกดันออกไปให้แทบจะกลายเป็นแค่เสียงคอรัสสนับสนุนเท่านั้น  ซึงมันลดความเป็น The Lion King ให้น้อยลงไปมากกว่าเดิม  ในขณะที่ตัวประกอบทั้งหลายกลับทำได้ดี โดยเฉพาะ Chiwetel Ejiofor ในบท Scar ที่ดูร้ายขึ้น รุนแรงขึ้น ดูมีภัยคุกคามที่ชัดเจนมากกว่าเดิม ที่โชว์สกิลร้องเพลงให้เห็นชัดเจนเป็นครั้งแรกกับเพลง Be Prepared ที่สามารถทำให้ขนลุกได้เลย  ในส่วนของ Timon และ Pumbaa นั้นเป็นส่วนที่ดีที่สุดของ The Lion King เวอร์ชั่นนี้จริงๆ  และสำหรับ Zazu ผู้ที่แทบจะไม่ได้ร้องเพลงอะไรเลย John Oliver นักแสดงตลก และพิธีกรรายการ Last Week With John Oliver นั้นก็สามารถให้เสียงที่โดดเด่นแยกออกมาจากนักแสดงคนอื่นๆ ได้อย่างมีเสน่ห์ น่าติดตาม และทำให้ Zazu กลายเป็นตัวละครที่มีรัศมีขึ้นมาเป็นอย่างมาก

เนื้อเรื่องที่ไม่เปลี่ยน การเดินเรื่องที่เหมือนเดิม (มีสปอยล์)

บางครั้งการรักษาความดั้งเดิมเอาไว้มากจนเกินไป ก็สามารถทำร้ายภาพยนตร์ได้ และใน The Lion King ภาคใหม่นี้ มันทำร้ายภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างรุนแรง  เพราะสำหรับคนที่เคยดูแล้ว รู้เรื่องอยู่แล้ว เขาจะหาความแปลกประหลาดใจนอกเหนือจากงานภาพและเหล่านักแสดงไม่ได้เลย  ในฉากที่เรียกน้ำตาหลักของเรื่องนั้นก็มีเวลาให้เตรียมตัวเตรียมใจนานก่อนที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดล่วงหน้า  เหมือนกับที่เรารู้ว่าอีก 3 โค้งหน้าเราจะพุ่งตกเขา เราทำใจได้ตั้งแต่โค้งแรกแล้ว  แต่ในความน่าผิดหวังนั้น มันมีข้อดีอยู่ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังมีเป้าหมายไปที่ผู้ชมครั้งแรกของมันด้วย สำหรับพ่อแม่ที่พาลูกเข้าไปชมเป็นครั้งแรก เด็กๆ จะได้พบกับประสบการณ์ที่สมจริงขึ้นภายใต้ความคลาสสิคของเนื้อเรื่องเดิม

การตัดต่อที่ทั้งขาดและเกิน

ถ้ารวมงานภาพ งานแสดง การให้เสียง เพลงประกอบ ที่อยู่ในระดับสูงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ Hollywood ความใส่ใจในรายละเอียดและการซื่อตรงต่อต้นฉบับ พร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า Animation ใดๆ บนโลก จะมีอะไรที่มาทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ด้อยลงได้  อาจจะต้องบอกว่าเป็นการตัดต่อที่กระโดดข้ามไปมาที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกตามกับมันไปด้วย อาจจะเป็นได้ทั้งการตัดต่อฉับพลันไปอีกมุมหนึ่ง ไปอีกกล้องหนึ่งที่ไม่ได้ทำให้เรามีความตระหนักในพื้นที่นั้นๆ เลย  มันทำให้เราหลุดออกจากภวังค์ของฉากนั้นๆได้  และการที่เล่าเนื้อเรื่องในพื้นที่ต่างกันกับเนื้อเรื่องที่แยกจากกันแทบจะสิ้นเชิง ในแง่ของภาพยนตร์มันทำหน้าที่แค่ให้”ข้อมูล” กับเราเท่านั้น มันไม่ได้มีความเชื่อมโยงระหว่างกันเลย  มันทำให้ไม่ประติดประต่อ มันไม่เหมือนกับการตัดต่อให้มันเป็น”จิ๊กซอว์” มันเหมือนแค่แผ่นกระดาษที่เรียงต่อๆ กันเท่านั้น

โดยสรุปแล้ว The Lion King เวอร์ชั่น 2019 นี้สามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างทุลักทุเล แต่ก็ยังสามารถเข็นสิ่งดีๆ ทั้งเพลงเวอร์ชั่นใหม่บางเพลง กราฟฟิคระดับโคตรพ่อโคตรแม่สมจริง และ Timon กับ Pumbaa เวอร์ชั่นใหม่ที่เสมือนเป็น “Minions” ผู้ที่พร้อมจะขโมยหนังและแฟรนส์ชายส์เรื่องนี้เอาไปขายได้เลย สำหรับผู้ที่โหยหา”ฟีล”ของเวอร์ชั่นการ์ตูน ท่านจะพบได้”บ้าง”จากเวอร์ชั่นนี้ แต่ผู้ที่ต้องการเข้าไปชมความก้าวหน้าของวิทยาการ Animation เชื่อว่าท่านจะไม่ผิดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้

คะแนนรีวิว C

Text – Millenium Flerken

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save