Movie Review | Spider-Man : Far From Home - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
Movie Review | Spider-Man : Far From Home

 Spider-Man : Far From Home  นั้นไม่ได้เป็นแค่ภาคต่อของ Spider-Man : Homecoming แต่ยังเป็นภาคต่อของ Avengers : Endgame ด้วย เพราะมันไม่เพียงแต่บอกเล่าถึงการสูญเสีย Tony Stark ที่มีผลกับ Peter Parker เป็นอย่างมาก แต่ยังเป็นการเล่าเรื่องของชีวิตวัยเรียน Spider-Man / Peter Parker ต่ออีกด้วย ทั้งการบริหารจัดการเวลาและการปกป้องตัวตนที่แท้จริงของเขา

ในการใช้ชื่อ Far From Home แทนทีจะแปะเป็นเลข 2 ไว้เหมือนไตรภาคก่อนๆ ที่ผลิตใต้ร่มเงาของ Sony Pictures เดี่ยวๆ เพราะทางมาร์เวล โดยเฉพาะ Kevin Fiege นั้นอยากให้แต่ละภาคของ Spider-Man ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่าง Marvel และ Sony นั้นมีเรื่องเป็นหลักๆ ในแต่ละปี และนำหัวเรื่องนั้นมาเป็นชื่อเรื่องด้วย เหมือน Harry Potter อย่าง Harry Potter and The Goblet of Fire

Far From Home เป็นภาพยนตร์ที่เหมือนกับมารีเฟรชโทนของจักรวาลภาพยนตร์ Marvel หรือ Marvel Cinematic Universe ในขณะที่ก็เป็นภาพยนตร์ปิด Phase 3 ของจักรวาลได้เป็นอย่างดี ในขณะที่เรื่องนี้พยายามโฟกัสไปทีชีวิตหลัง Endgame ของ Peter Parker แต่ก็ยังคงเล่าเรื่องราวผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดีดนิ้วทั้ง 2 ครั้ง สอดประสานกันได้เป็นอย่างดี แต่กระนั้นก็ยังโฟกัสไปในส่วนเล็กๆ ในสังคมและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเหล่าเด็กนักเรียนเสียมากกว่าที่จะไปโฟกัสกับภาพใหญ่ให้เสียโทนของหนังไป  การที่นำเรื่องนี้มาปิด Phase 3 นั้นถือว่าทำได้ดีเพราะว่ามันทำให้คนกลับมาเห็นความสำคัญของการเสียสละตัวเองของ Iron Man มากขึ้น และพาให้อารมณ์ที่เคยเศร้าโศกนั้นกลับมาแจ่มใสได้อีกครั้ง

            ภาพยนตร์นี้สามารถทำให้แฟนๆกลับมาสดใสไปกับเหล่านักเรียนไฮสคูลที่ยกโขยงกันไปเที่ยวยุโรป ซึ่งมันทำให้มีกลิ่นอายของความเป็น Road Trip แต่ก็ไม่ได้แรงจนกลบความเป็นหนัง Super Heroes ไป การเดินทางในครั้งนี้ที่เต็มไปด้วยเด็กอาจจะเติมความอบอุ่นในหัวใจให้ใครหลายๆคน เพราะนักแสดงต่างๆ ทำให้เราเหมือนได้ไปเที่ยวกับพวกเขาจริงๆ และอาจจะทำให้เราได้นึกย้อนกลับตอนที่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ไร้เดียงสา ไร้ภาระ ไร้ความเครียด 

            พูดถึงเด็กๆไปแล้ว ส่วนที่มีความเครียดก็ยังคงตกอยู่กับเหล่าตัวละครผู้ใหญ่ที่ตบเท้าเข้ามาจาก Avengers ที่คราวนี้เป็นคิวของ Nick Fury ที่รับบทโดย Samuel L Jackson และ Cobie Smulders ในบท Maria Hill ที่ยังคงแสดงให้เห็นเคมีของหัวหน้า และลูกน้องที่มีมาตั้งแต่ Avengers ภาคแรกในปี 2012 ว่ายังคงไม่เสื่อมคลายและเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ตัวละครประกอบที่แทบจะโผล่ไปทุกเรื่องอย่าง Happy Hogan ที่เป็นเสมือนพี่เลี้ยงของ Spider-Man มาตั้งแต่ Homecoming และ ถ้าหากจำกันได้ ก็มีภาพของเขาที่แสดงให้เห็นว่าคู่นี้อยู่กันมาตั้งแต่ Civil War ที่ Peter ต้องกระโดดเข้ามาร่วมตะลุมบอนกับกลุ่ม Avengers ด้วย การมาในครั้งนี้ของ Happy อาจจะมีบางอย่างแอบแฝงดั่งที่แสดงให้เห็นในเทรลเลอร์ ที่ผู้ชมจำเป็นต้องไปติดตามกันเองในโรง แต่สิ่งที่เปิดเผยได้นั้นคือ Jon Favreau สามารถทำหน้าที่ของ Happy ได้ดีเอามากๆ เขากลายเป็นตัวละครที่มีมิติมากกว่าเดิม เผยให้เห็นการพัฒนาของตัวละคร ในส่วนของการแสดงนั้นตัว Jon Favreau ที่เริ่มจากการเป็นนักแสดงมาก่อน ก็ยังแสดงให้เห็นถึงฝีมือของเขาที่ดีขึ้นมาเรื่อยๆไม่หยุดพัฒนา ซึ่งเรียกได้ว่าเขาสามารถแบกจักรวาลได้ทั้งในฐานะผู้กับกับ และนักแสดงเลยทีเดียว

 สุดท้ายแล้วตัวละครที่ทุกคนรักและอยากเห็นมากขึ้นอย่างป้าเมย์ที่รับบทโดย Marisa Tomei ก็ยังเฉิดฉายบดบังสาวๆ ทุกคนในเรื่องได้อยู่เหมือนเดิมกับบทบาทที่มากขึ้น เวลาบนจอที่มากขึ้น และตราตรึงใจมากขึ้น 

            มาถึงตัวละครใหม่อย่าง Quentin Beck ที่ทุกคนอาจจะรู้จักกันในนาม Mysterio ซึ่งรับบทนี้โดย Jake Gyllenhaal ดารามากฝีมืออีกคนหนึ่งที่กระโจนเข้ามาสู่ MCU  ในฐานะฮีโร่จากอีกมิติหนึ่ง  ฝีมือการแสดงของเขานั้นไร้ข้อกังขาและสามารถแสดงออกมาได้ดีมาก เขาให้ความอบอุ่น เหมือนมีออร่าแห่งความเป็น Mentor กระจายออกมาจากตัวเขา ซึ่งสามารถเกื้อหนุนแก่ Peter ที่ขาดเสาหลักอยาก Tony ไปได้อย่างดี

            ในด้านบทของภาพยนตร์ เรื่องนี้ได้ย้อนกลับไปสู่สูตรสำเร็จของ Marvel ที่แทรกมุขตลกมาตลอดและ Easter Egg ที่ทำให้เราอยากค้นหา ความตึงเครียดยังมีให้เห็นแต่ก็ยังคงมีมุขตลกแทรกออกมากลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้โทนหนังเครียดจนเกินไป เพราะนี่ยังเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นอยู่นะ !  ถึงแม้จะโฟกัสไปที่ Spider-Man แต่บทก็ยังไม่ลืมที่จะเก็บส่วนเล็กส่วนน้อยเสริมให้ปมของแต่ละตัวละครถูกเติมเต็มได้ภายในเวลาฉาย และจังหวะการเล่าเรื่องนั้นแทบไม่น่าเบื่อเลย เรียกได้ว่าแทบไม่มีเวลาให้เคี้ยวป๊อบคอร์นเลยจะดีกว่า ทั้งช่วงผ่อนและช่วงเร่งน่าติดตามไปทั้งเรื่อง

            ในขณะที่ Spider-Man ของเราแม้จะไปไหนมาไหนไกลถึงต่างดาว แต่ก็ยังคงเป็น Spider-Man คนเดิมอยู่ แต่ใน Far From Home นี้เราจะได้เห็นเขาในอีกแง่มุมหนึ่ง มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาจะต้องเผชิญหน้าเป็นครั้งแรก  มาเอาใจช่วยหนุ่มแมงมุมคนนี้กันเถอะ!

คะแนนภาพยนตร์ B+

Spider-Man : Far From Home เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 3 กรกฏาคมนี้ !

Text – Millenium Flerken

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save