ช่วงนี้ซีรีส์ไทย ออกมาช่วงชิงแอร์ไทม์จากละครกันอย่างต่อเนื่อง และเพราะจำนวนที่ออกฉาย มันมากขึ้นเรื่อยๆ ซีรีส์แต่ละเรื่อง ก็ต้องหาเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ทางใดก็ทางนึง เพื่อจะดึงดูดให้ผู้ชมหันมาสนใจมากยิ่งขึ้น
“Instinct ซ่อน ล่า หน้าสัตว์” ก็เป็นหนึ่งในซีรีส์เหล่านั้น โดยซีรีส์เรื่องนี้ ผลิตโดย “กันตนา” เพื่อให้เป็น “Exclusive” หรือเรียกตามเค้าว่าเป็น “Originals” สำหรับ LINE TV ดูได้ทางช่องทางนี้ ช่องทางเดียว
จุดน่าสนใจของ “Instinct” คือซีรีส์เปิดตัวมาเลยว่ามีเรทติ้งระดับ “ฉ” หรือ “เฉพาะ” และมีความชัดเจนว่าเป็นแนว “ระทึกขวัญ” ที่นอกจากจะมีเรื่องของความรุนแรง ยังน่าจะมีความเข้มข้น เลือดสาด และมีฉากโหดแบบถึงพริกถึงขิงพอสมควร ยิ่งเมื่อเทียบกับซีรีส์ หรือละครบนจอทีวีบ้านเรา
เรื่องราวคร่าวๆ ของซีรีส์ ไม่ได้เปิดเผยก่อนล่วงหน้ามากนัก ทราบว่าเป็นเรื่องราวของกลุ่ม “แก๊งหน้ากากสัตว์” ที่เลือกใช้วิธีของกฎหมู่ ในการไล่ล่าพิพากษาเหล่าอาชญากร หรือคนโรคจิต ที่คอยกระทำรุนแรง ทำร้ายผู้อื่น โดยในกลุ่มมี สมาชิกน่าสนใจที่ชื่อ “พราว” สาววัยรุ่น ที่มีเรื่องราวเบื้องหลังแอบซ่อนอยู่
ตัวซีรีส์พึ่งจะออนแอร์ตอนแรก เมื่อสัปดาห์ก่อนนี่เอง (26 ก.ย.) โดยมีจุดที่น่าสนใจ, จุดที่ต้องตามต่อ และจุดที่ยังไม่ค่อยจะปลื้มใจนัก ปะปนกันไป หลังชม EP 1 จบ
แต่กับ EP แรก ซีรีส์กลับมีความใจเย็นเพียงพอ ที่ทำให้เรารู้จักเนื้อหาโดยรวม โดยไม่เปิดเผยความเหี้ยมเกรียมโต้งๆ หรือซัดหมัดหนักๆ เอาสะใจ แบบเกินความจำเป็น
ออกตัวก่อน ว่าผมเองไม่ใช่คอหนังสยองขวัญ ระทึกขวัญเท่าไหร่ รวมถึง ก็ไม่ได้อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นในแนวทางนี้ ซึ่งมีหลายเสียงในออนไลน์ ตั้งข้อสังเกตว่า “Instinct” อาจจะได้แรงบันดาลใจ หรือหยิบเอากลิ่นไอจากการ์ตูนแนวดังกล่าว มาทำซีรีส์เรื่องนี้
ดังนั้น จุดที่น่าสนใจชัดเจนที่ผมเห็น คือการวางเนื้อหาที่ไม่เลวเลย แน่นอนว่าไหนๆ ทำให้เป็นเรท ฉ แล้ว ซีรีส์สามารถใส่ความดิบเถื่อน และความโหดร้ายเข้ามาแบบไม่บันยะบันยัง
ไม่รู้ด้วยความที่ผมไม่ได้เป็นสายสยองขวัญรึป่าว ผมรู้สึกว่ามันบาลานซ์ดี คือมันมีความประนีประนอม ไม่หนักเกินไป และค่อยๆ ให้เราเปิดรับกับความหนักของโทนหนัง พร้อมกับสื่อสารเรื่องราวไปได้พอดี แถมยังมีการทิ้งปมกว้างๆ ไว้ให้น่าติดตามต่ออีกด้วย ตามสไตล์ซีรีส์ทั่วไป ที่จะมีเรื่องหลัก และเรื่องรอง เดินไปด้วยกัน
จุดที่ยังน่าเป็นห่วงของซีรีส์ ก็มีเหมือนกัน ที่เด่นชัด คือความสมเหตุสมผลของซีรีส์ ซึ่งยังดูเบาบางไปนิดนึง แต่พอเข้าใจได้ ว่าซีรีส์ อาจจะอยากผลักดันให้ผู้ชมติดตามเพิ่มเติมต่อไป เพื่อเข้าถึงปมของตัวละครต่างๆ มากขึ้น
การสร้างความอินของหนังให้ผู้ชมเข้าถึง ถือเป็นงานหนักไม่น้อย เพราะแนวซีรีส์ ถูกสร้างให้มีความแปลก และมีอารมณ์ร่วมได้ยากพอตัว
การบ้านหนักคือต้องรีบขมวดปม และพาผู้ชมเข้าสู่เส้นเรื่องหลักให้ได้โดยเร็ว เพราะแม้จะเป็นแนวทางใหม่ แต่เชื่อเถอะ ว่าผู้ชมคนไทย ก็ยังอยากได้ความสมดุล มากกว่าความฉูดฉาด แต่เนื้อหาแผ่วเบา จับต้องไม่ได้
จุดต่อไป ที่ยังทำให้เชื่อถือในแกนหนังลำบากอยู่ คือการแสดงที่ยังไม่ค่อยเฉียบคมนักของ “เทีย The Face” หรือ “เทีย ลี่ ทวีพาณิชย์พันธุ์” ที่ถือว่ามีบทบาทเด่นในกลุ่มแก๊งหน้ากากสัตว์ เพราะเธอเปรียบเสมือนมันสมอง และคนรักษาสมดุลของกลุ่ม
พอการแสดงยังไม่ชัด และการสื่อสารผ่านคำพูดยังไม่หนักแน่นนัก เลยพาลทำให้เรายังจับต้องตัวละครตัวนี้ได้ไม่ชัดเจนนัก
“แพต-ชญานิษฐ์” เป็นอีกหนึ่งตัวเด่น ในบท “พราว” (ซึ่งน่าจะเด่นสุดในตอนต่อๆ ไป) ซึ่งผมอยากดูผลงานการแสดงของเธอมากที่สุด เพราะเธอถือเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ และบทในเรื่องนี้ ก็ดูฉีกแนว และน่าจะมีทางให้เธอปล่อยของได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
กับ EP แรก แพตถือว่าควบคุมภาพรวมได้ดี แม้ตอนที่พยายามจะแสดงความเป็น “ตัวโหด” หรือ “ตัวเกรี้ยวกราด” จะยังดูล้นไปหน่อย แต่เชื่อว่าเมื่อเราเข้าใจตัวละครมากขึ้น หรือบาลานซ์กับตัวละครอื่นได้เมื่อไหร่ ความอินกับ “พราว” น่าจะเพิ่มเติมขึ้นตาม
ส่วนอีก 2 คาแรกเตอร์ที่ปรากฏตัวให้เราเห็นแล้วคือ “เบนจามิน โจเซฟ วาร์นี” และ “แจ๊ค-กิตติศักดิ์” 2 ชายหนุ่มในกลุ่มแกงค์หน้ากากสัตว์ ก็ยังไม่มีอะไรชัดเจนให้เห็นนัก นอกจากตัวตนจริง ที่ดูจะนุ่มนวลไปหน่อยนึง ก็คงต้องตามต่อ ว่าซีรีส์จะสร้างปม หรือมิติอะไรให้ 2 ตัวละครนี้ ในตอนต่อๆ ไป
สิ่งที่ต้องตามดูต่ออีกอย่าง คือเรื่องของงานโปรดักชั่น ทั้งด้านภาพ และการจัดวางฉากให้น่าสนใจ เพราะส่วนตัวค่อนข้างโอเคเลย กับการเลือกองค์ประกอบศิลป์ใน EP 1 เพราะซีรีส์ จัดวางได้พอดี ระหว่างอารมณ์แบบหนังฝรั่ง และความเป็นโทนแบบหนังไทย ที่เราคุ้นชินกัน
น่าติดตามดูต่อไปใน EP อื่นๆ ที่จะมีตัวละคร และเรื่องราวเพิ่มเติมมากขึ้น ว่าซีรีส์เรื่องนี้ จะทำจุดนี้ได้ดีขึ้นอีกแค่ไหนกัน
สรุปแล้ว แค่เพียง EP 1 ก็อาจจะยังตัดสิน “Instinct ซ่อน ล่า หน้าสัตว์” แบบเต็มปากเต็มคำไม่ได้ชัดเจนนัก เพราะซีรีส์เองมีจุดดี และจุดต้องปรับปรุง ที่ยังคงต้อง “ตามดูกันต่อ”
ส่วนตัวแล้ว การที่ทำให้เรารู้สึกว่าอยากตามดูต่อ ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในระดับเกินความคาดหมาย เพราะก่อนได้ชม แอบคิดว่า ซีรีส์จะล้นหลุดกรอบไปไกล เพราะวางตัวว่าเป็นเรท ฉ และปูพรมด้วยว่าดาร์คเบอร์แรง
สิ่งที่น่าติดตาม นอกเหนือจากเนื้อหาที่ปูต่อไว้โอเค คืออยากเห็นพัฒนาการของตัวละคร และเรื่องราว ว่าซีรีส์ไทยที่ตั้งใจจะ “หลุดกรอบ” จะไปรอดแค่ไหน
เรื่องราวของฆาตกรรมต่อเนื่อง, การพิพากษาด้วยศาลเตี้ย และการขุดคุ้ยปมของแต่ละตัวละคร น่าสนใจว่า จะทำออกมาน่าสนใจเป็น “ดาร์คคมเข้ม” หรือ กลายเป็น “ดาร์คขมปี๋” ที่ไม่สามารถย่อยลงไปได้
ระดับความน่าดู : 8/10 (แค่ EP เดียว อาจจะวัดยาก แต่ทำได้ในระดับนี้ ก็ต้องดูต่อไป)
Picture : LINE TV, NYLON Thailand, Pikdo, แนวหน้า,Twitter, Hunsa