นับตั้งแต่ปี 2008 หลังเปิดจักรวาลแฟรชไชน์ Marvel Cinematic Universe อย่างยิ่งใหญ่ด้วยภาพยนตร์เรื่อง Iron Man
ไม่นานเหล่าตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่มากมายก็ทยอยกระโดดออกจากหน้าหนังสือเข้ามาโลดแล่นบนโลกภาพยนตร์พร้อมมอบความสนุก สร้างความประทับใจให้แก่เด็กและผู้ใหญ่เป็นเวลากว่าสิบปี
มาวันนี้แม้ภาพยนตร์เรื่อง Avengers: Endgame จะปิดบทสรุปของมหาศึกชิงอัญมณีไปเรียบร้อย แต่เกมนี้ยังไม่จบดั่งชื่อเพราะเฟส 3 ถูกวางเส้นเรื่องให้จบลงใน Spiderman: Far from home ซึ่งกำลังจะเข้าฉายวันที่ 2 กรกฎาคม ก่อนเริ่มตำนานบทใหม่ของจักรวาลฮีโร่ Marvel พร้อมตัวละครอีกหลายพันตัวที่รอวันขึ้นมาเฉิดฉายบนจอภาพยนตร์ตามรุ่นพี่ไปติด ๆ ในเฟส 4
นอกจากภาพยนตร์ที่ทาง Marvel วางแผนสร้างต่อเนื่องเรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุด อีกหนึ่งโปรเจ็คที่เพิ่มเข้ามาคือ การสร้างซีรีส์ลงฉายใน Disney+ แพลตฟอร์มสตรีมมิงน้องใหม่ของค่าย Disney เองซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2019 นี้
ความพิเศษของโปรเจ็คซีรีส์ครั้งนี้ต่างจากซีรีส์เรื่องอื่น ๆ ก่อนหน้าตรงที่หัวเรือใหญ่ของ Marvel Studios อย่าง Kevin Feige จะเข้ามาดูแลภาพรวมทั้ง Disney+ และรายการที่เกี่ยวข้องกับซีรีส์ Marvel ทั้งหมดด้วยตัวเอง ดังนั้นหมดห่วงไปได้เลยว่าเรื่องราวจะเละเทะเหมือนตอนให้ค่ายอื่นรับไปทำ
สำหรับโปรเจ็คซีรีส์ใน Disney+ นี้ได้เปิดเผยออกมาแล้วว่าจะเป็นการนำตัวละครรองจาก The Avenger มาต่อยอดเรื่องราวของตัวเองในฉบับซีรีส์ แต่ละเรื่องจะมีความยาว 6 ถึง 8 ตอน พร้อมเชื่อมโยงเหตุการณ์เวอร์ชั่นภาพยนตร์ด้วยสเกลงานสร้างระดับหนังฟอร์มยักษ์ และอาจมีซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นในจักรวาล Marvel เข้าร่วมแจมด้วย ซึ่งที่ประกาศอย่างเป็นทางการออกมา ณ วันนี้มีอยู่ 4 เรื่องด้วยกัน คือ WandaVision, Loki, Falcon & Winter Soldier และ Hawkeye
WandaVision
ประเดิมซีรีส์ด้วยเรื่องราวของแม่มดสาวสุดสวยอย่าง Scarlet Witch กับ Vision คนรักของเธอภายใต้ชื่อ WandaVision ที่มีกำหนดฉายทาง Disney+ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่สายตาคนดูในช่วงปลายปีนี้
แน่นอนว่าสองนักแสดงอย่าง Elizabeth Olsen และ Paul Bettany จะกลับมารับบทบาทเดิมซึ่งผู้ชมน่าจะมีโอกาสได้เห็นแง่มุมเรื่องความรักของตัวละครทั้งสองผ่านช่วงเวลาที่ซีรีส์จะดำเนินไปอยู่ในยุค 1950 แม้จะยังไม่ได้มีการยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการว่าทำไมเรื่องราวจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น แต่จากบทสัมภาษณ์ของ Elizabeth Olsen ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อก็ยืนยันได้ว่ามันต้องออกมาสนุกแน่นอน
“ในคอมมิกส์นั้นมีหลายเล่มอยู่เหมือนกันที่บอกเล่าเรื่องราวของตัวละครวิชชั่นและสการ์เล็ต วิทช์ ซึ่งนั่นน่าจะเปิดโอกาสให้กับ Disney+ หยิบเอาเรื่องราวมานำเสนอ นอกจากนี้หลังจากที่เราได้พูดคุยกับทาง Disney+ ยังเผยรูปตัวละครที่เราแสดงในยุค 50 ซึ่งฉันว่ามันเจ๋งไปเลย Paul Bettany และฉันตื่นเต้นมากทีเดียว,ในซีรีส์เรื่องนี้มีทีมเขียนบทเจ๋งๆเยอะเลยค่ะ ความยาวรวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งเราน่าจะเริ่มถ่ายทำกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้ ”
Loki
ซีรีส์ของเทพสุดฉ้อฉลอย่าง Loki ก็มีความคืบหน้าออกมาว่าได้ตัว Showrunner และมือเขียนบทมาดูแลงานสร้างเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางเว็บไซต์ THR ได้รายงานว่าเรื่องราวของ Loki ฉบับซีรีส์อาจจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรงกับภาพยนตร์ที่ออกฉายไปก่อนหน้าทั้งหมด
โดยจะเป็นการเล่าเรื่องราวของ Loki ในช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่ขณะนั้นเขายังคงเป็นเทพแห่งความฉ้อฉลปลอมตัวเป็นคนนั้นคนนี้คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก และอาจเป็นไปได้ว่า Loki ในสมัยเด็กจะมีส่วนสำคัญอย่างมากกับตัวซีรีส์นี้ด้วยเพราะอาจจะเป็นการดัดแปลงเนื้อหามาจากหนังสือการ์ตูน Journey Into Mystery นั่นเอง
แน่นอนว่า Tom Hiddleston จะกลับมารับบทนี้ ส่วน Showrunner ได้ Michael Waldron มารับหน้าที่นี้ไปหลังจากเคยสร้างชื่อจากซีรีส์ตลกเสียดสีอย่าง Rick & Morty มาก่อนพร้อมพวงหน้าที่ทั้งเขียนบทตอน pilot ในเวลาเดียวกันด้วย
Falcon & Winter Soldier
ซีรีส์ของสองคู่หู่ผู้ช่วย Captain America อย่าง Falcon และ Winter Soldier ได้ Sebastian Stan และ Anthony Mackie มารับบทดังเดิม แม้จะยังไม่มีรายละเอียดอะไรออกมามากนักว่าใครจะมาเป็น Showrunner หรือจะเขียนบทไปในทิศทางไหน แต่ว่าโลโก้แรกของซีรีส์เรื่องนี้ถูกปล่อยออกมาสร้างความตื่นเต้นให้แฟน ๆ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการันตีได้เปราะหนึ่งว่าเราจะได้เห็นเคมีความฮาของทั้งคู่แน่นอน
Hawkeye
Jeremy Renner จะกลับมารับบทบาท Clint Barton หรือ Hawkeye ต่อ โดยเรื่องราวในซีรีส์จะเล่าถึงช่วงที่เขาหายไปจากกลุ่ม Avengers เบื้องลึกชีวิต รวมถึงการส่งต่อวิชาให้กับพลธนูรุ่นใหม่อย่าง Kate Bishop ตามแบบฉบับคอมิกส์ ซึ่งจะดำเนินเรื่องผ่านการผจญภัยของ Kate เป็นหลักไปจนถึงวันที่ทำให้เธอได้กลายเป็น Hawkeye คนใหม่ของ Young Avengers ในอนาคต อย่างไรก็ดียังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าซีรีส์เรื่องนี้จะยาวกี่ตอนและใครจะได้มาเป็น Showrunner ต้องรอติดตามกันต่อไป
