ความแน่นอนของ ซิตี้ คุณสมบัติของทีมแชมป์ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ความแน่นอนของ ซิตี้ คุณสมบัติของทีมแชมป์

ความเด็ดเดี่ยว และความแน่นอนในการเล่นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การกุมบังเหียนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือชาวสเปน นั้น แสดงให้จ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล และบรรดาทีมอื่นๆในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เห็นแล้วว่า พวกเขาพร้อมที่จะคัมแบ็คกลับมาลุ้นแชมปป์อยู่เสมอ แม้ว่าจะมีช่วงที่ฟอร์มตกก็ตาม

เกมลีกกับ เอฟเวอร์ตัน ที่สนามกูดิสัน ปาร์ค เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงคาแร็คเตอร์ของทีมแชมป์ แม้จะอยู่ในช่วงที่กำลังกดดันอย่างหนักในการต้องทำแต้มไล่จี้ ลิเวอร์พูล แต่พลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ก็ทำงานตัวเองได้สำเร็จ ด้วยการบุกไปเอาชนะ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” 2-0 ต่อด้วยการเปิดบ้านถล่ม เชลซี 6-0

ในช่วงที่ฟอร์มตก แมนฯซิตี้ แพ้ คริสตัล พาเลซ และ เลสเตอร์ ซิตี้ 2 นัดติด แต่หลังจากนั้นพวกเขาเดินหน้าเก็บ 3 แต้ม อย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ ชนะ เซาธ์แฮมตัน, ลิเวอร์พูล วูล์ฟแฮมป์ตัน, ฮัดเดอร์สฟิวด์, ก่อนจะสะดุดพ่าย นิวคาสเซิ่ล จากนั้นกลับมาเอาชนะ อาร์เซน่อล,เอฟเวอร์ตัน และเชลซี

กวาร์ดิโอลา ยังคงสงบนิ่งกับแรงกดดัน เขาเชื่อมั่นในระบบที่ตนเองวางไว้ และเชื่อมั่นในตัวลูกทีมเสมอว่าจะกลับมาได้ ขณะที่บรรดานักเตะ “เรือใบสีฟ้า” ก็ไม่ทำให้ผู้จัดการทีมของพวกเขาต้องผิดหวัง

“ผมขอชื่นชมลูกทีมทุกคน ลิเวอร์พูล ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเรา และทีมอื่นๆ เช่น สเปอร์ส และ เชลซี เราจะไม่ยอมแพ้ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีก 1 สมัย ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีมจะคิดอย่างไร แต่หลังจากนี้ทุกเกมในพรีเมียร์ลีกจะยากทั้งหมด และคงไม่สามารถหยุดพักได้เลยแม้แต่วันเดียว”

“ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเราตามหลัง ลิเวอร์พูล 7 แต้ม แต่ตอนนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเราไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เราแข่งมากกว่า 1 นัด หากพวกเขาชนะก็กลับมาเป็นจ่าฝูง แต่ ลิเวอร์พูล มีเกมที่ต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด รวมถึงแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นผมไม่มีเวลามากังวลหรอกว่าเราจะเป็นอับดับ 1 หรือ 2” นายใหญ่ แมนฯซิตี้ กล่าว

แม้ว่า เป๊ป จะดูเป็นคนมีความเงียบขรึมในเวลาอยู่ข้างสนาม แต่เวลาซ่อม และในห้องแต่งตัวแล้ว เขามักจะแสดงความเกรี้ยวกราดออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งลูกทีมรู้ดีว่า ต้องทำอะไรเพื่อให้ทีมกลับมาทำผลงานได้ดี

นักเตะอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอริง แฟร์นานดินโญ และเซอร์กิโอ อเกวโร รู้หน้าที่เป็นอย่างดีว่าทำอย่างไรทีมถึงเป็นฝ่ายชนะ นอกจากนี้ พวกเขาผ่านประสบการณ์การลุ้นแชมป์มาอย่างโชกโชน ความกดดันต่างๆที่ถาโถมเข้ามาไม่สามารถทำให้หวั่นไหวได้ง่ายๆ

ขณะเดียวกัน ระบบทีมซึ่งถูกวางรากฐานมา 2-3 ปี บวกกับคุณภาพเชิงลึกของทีม ทำให้ ซิตี้ ได้เปรียบทีมอื่นๆอยู่หลายเท่าตัว พวกเขามีตัวสำรองอย่าง กาเบรียล เฮซุส, แบร์นาโด ซิลบา, อิคาล กุนโดนกัน ที่พร้อมจะสลับหมุนเวียนลงสนาม

มองมาที่ฝั่งจ่าฝูง อย่าง ลิเวอร์พูล ที่นับตั้งแต่เปิดปี 2019 มา ฟอร์มฝืดอย่างต่อเนื่อง บรรดานักเตะกองหลังตัวหลักอย่าง เดยัน ลอฟเรน, โจ โกเมซ และเทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ต่างได้รับบาดเจ็บ และต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะกลับมาลงสนามได้

“หงส์แดง” ชุดนี้ภายใต้การนำของ คล็อปป์ ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการนำเป็นจ่าฝูง และการต่อสู้เบียดแย่งแชมป์ ดังนั้นเมื่อเจอเกมที่กดดันต้องการคะแนน พวกเขามักจะทำผลงานได้ไม่ดี นักเตะแนวรุกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ต่างกดดันตัวเองทำให้ฟอร์มตก ไม่เหมือนช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา

หากมองกันตามเนื้อผ้า แม้ ซิตี้ จะมีช่วงที่หลุดฟอร์ม แต่มันก็ไม่ได้มากมายนัก  ความนิ่ง และความแน่นอนในการเล่นของพวกเขา พร้อมจะเอาชนะได้ในทุกๆเกม และพร้อมยิงประตูคู่แข่งในทุกๆนาที

จากนี้ไปการแข่งขันศึกพรีเมียร์ลีกเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะได้บทสรุปแล้วว่า ใครจะคว้าแชมป์ไปครอง ซึ่งหากมองจากจุดนี้แล้ว “เรือใบสีฟ้า” ก็ยังมีประสบการณ์ และความนิ่งมากพอที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาจนประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

Text – Che Navapun

Photo – express.co.uk, foxsports.com, skysports.com, straitstimes.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save