ตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ ที่จะจบสิ้นกันจริงๆ ตอน 2 ก.ย. (ตามเวลาปิดตลาดของหลายประเทศ) มีการทุ่มเงินมหาศาลยอดรวม 5 ลีกใหญ่ ว่ากันว่าเกือบ 5 พันล้านปอนด์ อย่างดีลระดับค่าตัวเกิน 100 ล้านปอนด์ ก็มีทั้งดีลของ “อองตวน กรีซมันน์” และ “เจา เฟลิกซ์” ไอ้ที่เฉียดๆ ก็มี “เอเด็อง อาซาร์” ที่ย้ายไปเรอัล มาดริด

เคสที่น่าสนใจ หนีไม่พ้นดีลของ “เจา เฟลิกซ์” เพราะจะว่าไป ดาวรุ่งทีมชาติโปรตุเกสวัย 19 ปี ก็พึ่งเปรี้ยงปร้างขึ้นมาแค่ไม่กี่เดือน แต่ “ตราหมี” แอต.มาดริด ก็กล้าทุ่มเงินระดับ 113 ล้านปอนด์ พร้อมกับสัญญาระยะยาวระดับ 6 ปี โดยคาดหวังว่าเขาจะเป็นตัวตายตัวแทนกรีซมันน์ ที่ชิงย้ายไปบาร์ซ่า
ที่เกริ่นมาถึงน้องเฟลิกซ์ ก็เพราะจะชี้ให้เห็นว่า สมัยนี้ หากนักเตะมันเทพแบบเตะตาจริงๆ ทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ย่อมไม่ลังเลที่จะลงทุนมหาศาลเพื่ออนาคต อย่างพระเอกของเราในวันนี้ “ไค ฮาเวิร์ตซ์” ซึ่งว่ากันว่า ในซัมเมอร์หน้า เจ้าตัวจะได้ย้ายไปยังทีมใหญ่ ด้วยราคาระดับเฉียด 100 ล้านปอนด์ แน่ๆ

ไอ้หนูวัย 20 ปี ที่เริ่มติดทีมชาติเยอรมันสม่ำเสมอขึ้นเรื่อยๆ รายนี้ เป็นใครกัน? แล้วค่าตัวของเขา มันเว่อร์วังเกินเบอร์ไปรึป่าวนะ?
จากอาคเค่น สู่เลเวอร์คูเซ่น
ฮาเวิร์ตซ์ เกิดในเมืองอาคเค่น เมืองทางฝั่งตะวันออกของประเทศเยอรมัน เมื่อ 11 มิ.ย. ปี 1999 โดยมีคุณแม่เป็นทนายความ และคุณพ่อเป็นตำรวจ โดยคุณพ่อ และคุณปู่ ของเขา เป็นผู้ผลักดันให้เล่นฟุตบอล และทำให้เขาได้สังกัดทีมแถวบ้านอย่าง “อลามิเนีย มาเรียดอร์ฟ” ตั้งแต่ 4 ขวบ

หลังเล่นฟุตบอล และเรียนหนังสือไปด้วย จนเริ่มมีแววรุ่งทางลูกหนัง เมื่ออายุประมาณ 9 ปี เริ่มมีหลายสโมสรมาด้อมๆ มองๆ อยากดึงฮาเวิร์ตซ์ เข้าร่วมสังกัด แต่สุดท้ายครอบครัวก็เลือก “อลามิเนีย อาคเค่น” ทีมในเมืองเกิด ซึ่งอยู่ในลีก้า 2 เพื่อทำให้ฮาเวิร์ตซ์ไม่ต้องเดินทางไกล จากโรงเรียนไปซ้อมฟุตบอล

ฝีเท้าที่เก่งเกินวัย และถูกยกย่องว่า ทำได้ทุกอย่างในสนาม ทำให้ฮาเวิร์ตซ์อยู่กับอาคเค่น แค่ 2 ปี และได้ย้ายเข้าสู่อคาเดมี่ของทีมใหญ่ในลีกเมืองเบียร์อย่าง “ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น”
เพชรเม็ดงาม ผู้ทุบทุกสถิติ
หลังเติบโตได้รวดเร็วเกินกว่าเด็กร่วมรุ่น ฮาเวิร์ตซ์จึงได้เล่นในระดับอายุที่โตกว่าอายุของเขาเสมอ และประเดิมลงเล่นให้กับทีมชาติเยอรมัน ชุดยู-16 ตั้งแต่เขาอายุเพียง 15 ปี

กับทีมระดับยู-17 ของทีม “ห้างยา” ในปี 2016 ฮาเวิร์ตซ์ระเบิดฟอร์มซัด 18 ประตู จนได้รับเหรียญเงิน จากรางวัล “ฟริตซ์ วอลเตอร์” รางวัลประจำปีของวงการลูกหนังเมืองเบียร์ ซึ่งมอบให้กับยอดดาวรุ่ง แบ่งเป็นระดับยู-19 และยู-17

ความยอดเยี่ยมที่โดดเด่นที่สุดของฮาเวิร์ตซ์ คือแม้เขาจะเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก แต่นอกเหนือจากการเป็นแกนหลักควบคุมเกม เขายังสามารถพังประตูได้มากมาย จนทำให้เขาเตะตาสตาฟฟ์ชุดใหญ่ และถูกดึงขึ้นไปซ้อมกับทีมหลักของเลเวอร์คูเซ่น ในเวลาต่อมา
ด้วยพรสวรรค์ และรูปร่างที่แข็งแกร่งเกินวัย ทำให้ “ห้างยา” ไม่เสียเวลาเพาะบ่มนาน ก็สามารถส่งฮาเวิร์ตซ์ ประเดิมสนามในศึกบุนเดสลีก้า ในเดือน ต.ค. ปี 2016 จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทน “ชาร์ลส์ อรันกูอิซ” พร้อมทำลายสถิติ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของ “ห้างยา” ที่ได้ประเดิมสนาม ด้วยวัย 17 ปี กับ 126 วัน

และในซีซั่นเดียวกัน ช่วงเดือน เม.ย. ปี 2017 เขาก็สามารถประเดิมประตูแรกในบุนเดสลีก้าของตัวเองได้ ทำลายอีกสถิติ กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุด ที่พังประตูให้เลเวอร์คูเซ่น ในลีกสูงสุดของเยอรมัน
ฤดูกาลแรกอันน่าตื่นเต้น ฮาเวิร์ตซ์ลงเล่นถึง 24 นัดในบุนเดสลีก้า ยิงได้ 4 ประตู แถมยังได้ประเดิมสนามในศึกใหญ่ อย่างแชมป์เปียนส์ ลีก อีกต่างหาก

กับซีซั่น 2 ในการขึ้นชุดใหญ่เต็มตัว ฮาเวิร์ตซ์ทุบสถิติอีกครั้ง เมื่อกลายเป็นนักเตะที่เด็กที่สุด ในประวัติศาสตร์ของบุนเดสลีก้า ที่เล่นลีกสูงสุดเมืองเบียร์แตะหลัก 50 นัด ทำลายสถิติเดิมของ “ติโม แวร์เนอร์” พร้อมกับจบซีซั่น ด้วยการลงเล่นทุกรายการ 35 นัด ยิงได้ 4 ประตู
2018/19 ซีซั่นระเบิดฟอร์มเทพ
ถึงแม้ว่าเลเวอร์คูเซ่น จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมอยู่ตลอด แต่เส้นทางการพัฒนาฝีเท้าของฮาเวิร์ตซ์ ยังคงเติบโตได้อย่างดี ไม่มีสะดุด โดยเฉพาะกับซีซั่นที่แล้ว (2018/19) ซึ่งเขาก้าวขึ้นมาเป็นจอมทัพเต็มตัว

ข่าวดี เริ่มต้นตั้งแต่ต้นฤดูกาล เมื่อ “โยอาคิม เลิฟ” บุนเดสเทรนเนอร์ ทีมชาติเยอรมัน เรียกตัวฮาเวิร์ตซ์ ติดทีมช่วงปลายเดือน ส.ค. เพื่อทำศึกเนชั่นส์ ลีก กับฝรั่งเศส และอุ่นเครื่องกับ เปรู
และในที่สุดในวันที่ 9 ก.ย. เขาก็ได้ประเดิมติดธงครั้งแรก หลังเปลี่ยนตัวลงเล่นแทนแวร์เนอร์ ในช่วงท้ายเกม โดยถือเป็นนักเตะที่เกิดปี 1999 คนแรก ที่ติดทีมชุดใหญ่อินทรีเหล็กอีกด้วย

ซีซั่น 2018/19 เป็นไปอย่างน่าตื่นเต้น ทีม “ห้างยา” กลับมาทำผลงานได้โดดเด่นในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง โดยเฉพาะ หลังการเปลี่ยนกุนซือมาเป็น “ปีเตอร์ บอซ” ส่งผลให้ทีมจบด้วยอันดับ 4 ได้กลับไปร่วมศึก UCL อีกครั้ง ในซีซั่นนี้
ฮาเวิร์ตซ์ ระเบิดฟอร์มที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้ง ลงเล่นทุกรายการรวม 42 นัด ยิงประตูรวม 20 ประตู เป็นดาวซัลโวของทีมทั้งประตูรวมทุกรายการ และเฉพาะบุนเดสลีก้า ซึ่งเขายิงได้ถึง 17 ประตู

แม้จะมีส่วนสูงถึง 189 เซนติเมตร และรูปร่างจะดูเหมือนเก้งก้าง แต่สไตล์การเล่นจริง กลับเนียนตา และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ วิสัยทัศน์การเล่นเกมรุก ทำให้เขาถูกเปรียบเทียบกับ “เมซุต โอซิล” ผสมกับ “โทนี่ โครส” อดีตศิษย์เก่าเลเวอร์คูเซ่น ที่เป็นแกนหลักให้อินทรีเหล็กมานานหลายปี

“โลธ่าร์ มัทเธอุส” ตำนานทีมชาติเยอรมัน เคยออกมาบอกว่า ฮาเวิร์ตซ์เป็นนักเตะที่ครบเครื่อง ขับเคลื่อนการเล่นที่เต็มไปด้วยแพสชั่น และความเข้าใจเกม จึงไม่แปลกที่ “รูดี้ โฟลเลอร์” สปอร์ต ไดเรคเตอร์ ของเลเวอร์คูเซ่น จะยกย่องว่าเขาเป็นเพชรเม็ดงามที่สุด ในรอบร้อยปี
โอกาสย้ายทีม ที่อาจมาเร็วเกินคาด
แม้เลเวอร์คูเซ่น คงจะไม่เสียเจ้าของหมายเลข 29 คนนี้ ไปในซีซั่นปัจจุบัน ซึ่งฮาเวิร์ตซ์ ยิง 2 เม็ด ใน 2 นัดเปิดฤดูกาลไปเรียบร้อยแล้ว แต่กับตลาดในซัมเมอร์ปีหน้า “ห้างยา” อาจไม่สามารถหยุดยั้ง แรงดึงดูดจากยักษ์ใหญ่ในยุโรปได้

ข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานจากหลายแหล่งว่า มีทีมยักษ์ใหญ่เกือบ 10 ทีม ที่จับตามองสถานการณ์ของดาวเตะวัย 20 ปี ที่มีสัญญากับเลเวอร์คูเซ่น ถึงปี 2022 ซึ่งแน่นอนว่า 1 ในนั้น คือยักษ์ใหญ่ร่วมลีก อย่าง “บาเยิร์น มิวนิค” ที่ดูดนักเตะเทพจากเพื่อนร่วมบุนเดสลีก้า อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ
ทีมยักษ์ใหญ่อื่น ก็มีชื่อของโคตรทีมลา ลีก้า อย่าง เรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า รวมถึงบรรดาท็อปของพรีเมียร์ลีก ทั้งแมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซน่อล หรือแมนฯ ยู

แน่นอนว่าหากไปสัมภาษณ์เรื่องการขายฮาเวิร์ตซ์ กับ “รูดี้ โฟลเลอร์” อดีตตำนานชาวเยอรมัน ผู้รับหน้าที่สำคัญในการซื้อ-ขายนักเตะ ของ “ห้างยา” เข่าย่อมออกมาปฏิเสธ ไม่อยากปล่อยเพชรเม็ดงาม เม็ดนี้ออกไป
แต่ถ้ามีปัจจัยเพียงพอ อย่างที่เรารู้ๆ กัน ทั้งมูลค่าที่ทุ่มซื้อ ซึ่งคาดกันว่าจะแตะหลัก 100 ล้านยูโร (ประมาณ 91 ล้านปอนด์) และความปรารถนาของฮาเวิร์ตซ์ ที่อาจจะอยากหาความท้าทายที่ทะเยอทะยาน ก็ไม่แน่ ว่าเราจะได้เห็นนักเตะ “อายุน้อย ร้อยล้าน” กันอีกครั้ง ในซัมเมอร์หน้า
Picture : Liverpool Echo, ESPN, Rousing The Kop, Life Bogger, Tonight.de, Twitter, Zimbio, Bayer Leverkusen, UEFA.com, MundoFutbol, DFB, Bundesliga, Sportbuzzer, Bavarian Football Works, Goal.com