ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ครั้งหนึ่งในสีเสื้อ “ปีศาจแดง” - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ครั้งหนึ่งในสีเสื้อ “ปีศาจแดง”

มีคำถามเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน จอมทัพทีมชาติอาร์เจนตินา ของ ลาซิโอ ในกัลโช่ เซเรีย อา ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 28 ล้านปอนด์ เมื่อเดือน ก.ค.ปี 2001 นั้น เจ้าตัวคิดถูกแล้วหรือไม่

ย้อนไปห้วงเวลานั้น การเริ่มต้นของ เวรอน ในเมืองผู้ดี ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามจากสาวก แมนฯยู ซึ่งสื่อมวลชนต่างคาดการณ์กันว่า การย้ายทีมครั้งนี้ จะเป็นการปฏิวัติครั้งสำคัญของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง”

ชื่อของ เวรอน กระตุ้นให้บรรดานักเตะ แมนยูฯ อยากเล่นร่วมกับเขา นิกกี้ บัตต์ อดีตกองกลาง “ปีศาจแดง” กล่าวว่า “เมื่อเขาเข้ามาร่วมทีม ผมจำได้ว่าตัวเองต้องตกเป็นตัวสำรองในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เขาโชว์ฟอร์มได้สุดยอดมาก ผมนั่งข้างสนาม และคิดว่าผมคงไม่มีโอกาสได้เล่นให้กับ ยูไนเต็ด อีกแล้ว เวรอน เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยเห็น ในการฝึกซ้อมเขาก็สุดยอดมาก”

อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของ เวรอน กลับตกลงอย่างน่าใจหาย เขาแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามเท่าที่ควร ในเดือน พ.ค. ปีถัดมา ระหว่างงานแถลงข่าว มีการวิพากษ์วิจารณ์มากมายกับผลงานของดาวเตะอาร์เจนไตน์ ซึ่งนั่นทำให้ เฟอร์กูสัน โมโหมากที่ลูกทีมถูกวิจารณ์  

“เขา (เวรอน) เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมมาก และพวกคุณที่เอาแต่วิจารณ์เขา ก็เป็นไอ้โง่จริงๆ” เฟอร์กูสัน ฉุนขาด และเดินออกจากห้องแถลงข่าวทันที มันเป็นการปกป้องกันที่แข็งแกร่ง และดุดัน แต่หลายคนไม่เห็นด้วยกับมุมมองของนายใหญ่ แมนฯยูไนเต็ด

หลังจากแพ้ เรอัล มาดริด ในรอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2000 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ เฟอร์กูสัน ที่จะพิจารณาตัวเลือกในตำแหน่งกองกลางของทีม ก่อนหน้านี้ เฟอร์กี้ ยึดมั่นในระบบ 4-4-2 ที่นำความสำเร็จมาสู่ทัพ “ปีศาจแดง” มาโดยตลอด

กุนซือชาวสก็อตแลนด์ ตั้งคำถามกับตัวเองว่า มาดริด ที่ใช้มิดฟิลด์ 3 คน ในระบบ 4-3-3 นั้น การสร้างสรรค์เกมดูลื่นไหลมากกว่าลูกทีมของเขา แดนกลางของ “ราชันชุดขาว” คุมเกมไว้ได้ทั้งหมด ขณะที่ รอย คีน กับ พอล สโคลส์ ไม่สามารถสร้างความแตกต่างใดๆได้เลย

เฟอร์กูสัน จึงอยากได้ กองกลางระดับโลก เข้ามาเสริมทัพ และในความคิดของ เฟอร์กี้ ชื่อของ เวรอน ก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด เนื่องจาก อดีตจอมทัพ ลาซิโอ มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างออกไปจากบรรดามิดฟิลด์ของ แมนฯยูไนเต็ด

ต่อมาหลังจากฤดูกาล 2000/01 ได้ปิดตัวลง เฟอร์กูสัน จึงตัดสินใจเดินเรื่องด้วยตัวเองเพื่อคว้าตัว เวรอน ไปเล่นในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ทันที

“ผมได้พูดคุยกับคุณ อิริคสัน (โค้ช ลาซิโอ) อย่างกว้างขวาง เรามีสายสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม เขาให้คำแนะนำกับผมมากมาย และอธิบายสิ่งต่างๆมากมาย เขาผลักดันอย่างหนักเพื่อให้ผมได้มาเล่นที่อังกฤษ” เวรอน เล่าถึงความหลัง

เมื่อผู้เล่นใหม่ย้ายมาในอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสภาพแวดล้อมที่เขาคุ้นเคยในเซเรีย อา นั้น

 จังหวะของเกมฟุตบอลเปลี่ยนไปมาก เวรอน แทบไม่มีเวลาได้หยุดคิด เขาโดนคู่แข่งจู่โจมถึงตัวโดยตลอด แม้ว่าบางเกมเขาจะดูเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมก็ตาม

ในช่วงแรก เวรอน ลงเล่นให้ แมนฯยูไนเต็ด 8 นัด ทำได้ 4 ประตู และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน แต่หลังจากที่ “ปีศาจแดง” พ่าย โบลตัน คาบ้าน 1-2 ดูเหมือนว่า เฟอร์กูสัน ได้ตัดสินใจเปลี่ยนระบบจากกองกลาง 3 ตัว มาเล่น 4-4-2 ตามเดิม ซึ่งทำให้จอมทัพ “ฟ้า-ขาว” มีโอกาสลดน้อยลงไป

เวรอน เคยให้สัมภาษณ์ว่า “การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงคือลักษณะทางกายภาพ ผมถือว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญมาก ผมย้ายจากประเทศที่มีการฝึกซ้อมพรีซีซั่นอย่างเข้มข้น ไปยังอีกที่หนึ่งซึ่งการแข่งขันฟุตบอลเป็นวิธีเดียวที่พวกเขาฝึกซ้อม ในอังกฤษพวกเขาเล่นตลอดทั้งปี คริสต์มาส และปีใหม่ ก็ไม่หยุด หกเดือนแรกผมจัดการกับมันได้ดี แต่หลังจากเดือนธันวาคมมันยากมากสำหรับผมที่จะเล่นอย่างต่อเนื่อง”

เกือบจะเป็นการยืนยันความคิดที่ผู้คนจำนวนมากในเวลานั้นคิดว่า เวรอน ไม่เหมาะกับบอลอังกฤษ แต่ เฟอร์กูสัน ดูเหมือนจะคับแค้นที่ตนเองล้มเหลวในการทำธุรกิจครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม อาจไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจความต้องการของผู้จัดการทีมที่จะเพื่อปกป้องผู้เล่นของเขาจากเสียงวิจารณ์

กุนซือ “ปีศาจแดง” พยายามอย่างหนักที่จะปฏิเสธความจริงในข่าวลือที่ว่า เวรอน จะไม่ได้เป็นตัวหลักแล้ว ข่าวในในหนังสือพิมพ์แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว  สื่อต่างๆระบุกันว่า เฟอร์กี้ ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ระบบเดิมคือ กองกลาง 2 คน ต่อไป

ในปี 2003 ดูเหมือนว่า เฟอร์กูสัน จะยอมรับแล้วว่าเขาล้มเหลว หลังตัดสินใจยอมรับข้อเสนอจำนวน 16 ล้านปอนด์ จาก เชลซี เพื่อเป็นค่าตัว เวรอน ซึ่งการย้ายสังกัดครั้งนี้ “เดอะ ไทมส์” ระบุว่า เป็นการทำธุรกิจที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เลยทีเดียว

ผลงานของ เวรอน กับ เชลซี ก็ไม่ดีเท่าที่ควร เขามีโอกาสลงสนามเพียง 7 นัด ทำได้ 1 ประตู ก่อนจะถูกปล่อยให้ อินเตอร์ มิลาน ยืมตัวไปใช้งาน 2 ปี จากนั้น “สิงโตน้ำเงินคราม” ก็ปล่อยเขาออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว และเจ้าตัวตัดสินใจไปเล่นกับ เอสตูเดียนเตส ในบ้านเกิด จนกระทั่งประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2017

บางทีอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ ที่มีคำตอบมากกว่าหนึ่งข้อสำหรับปริศนาดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับฟอร์มของ มิดฟิลด์เลือดอาร์เจนไตน์ นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษ มันอาจเป็นเรื่องความกดดันกับจำนวนค่าตัวที่มหาศาล การปรับตัวกับประเทศใหม่ หรือความไม่คุ้นเคยกับความเร็วของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า สาวก “เร้ด เดวิลส์” หลายๆคน คงไม่ลืมช่วงเวลาที่ เวรอน สวมเสื้อเบอร์ 4 ของ “ปีศาจแดง” ลงช่วยทีมสู้ศึกรายการต่างๆ แม้เจ้าตัวจะไม่ประสบความสำเร็จมากนักในช่วงที่แค้งแข้งในถิ่นโรงละครแห่งความฝันก็ตาม

Text – Che Navapun

Photo –  independent.co.uk ,caughtoffside.com ,uefa.com ,gettyimages.ae ,chelseanews24.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save