ในบทความ Japan Yakee ครั้งที่แล้วเราได้พูดถึงจุดเริ่มต้นขนบธรรมเนียม และแฟชั่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ “โบโสะโซคุ (Bosozoku)” แก๊งค์ขาซิ่งตัวแสบในญี่ปุ่นไปแล้ว คราวนี้เราจะมาสานต่อเรื่องยานพาหนะคู่กายของพวกเขาที่ต่อมาได้กลายเป็นเทรนด์แต่งรถฉบับเฉพาะที่ใครเห็นก็รู้ทันทีว่า “นี่แหละรถสไตล์โบโสะโซคุ”
ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กแว๊นซ์ขาโจ๋แน่นอนว่าพาหนะคู่กายจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากมอเตอร์ไซต์ โดยส่วนใหญ่พวกเขาจะเลือกใช้มอเตอร์ไซต์เครื่องยนต์สี่สูบจากค่ายยักษ์ใหญ่แห่งจักรวาลรถญี่ปุ่นอย่าง Honda, Kawasaki, Yamaha และ Suzuki ส่วนรุ่นที่ได้รับความนิยมสุดๆ คือ Kawasaki Z400FX รุ่น 400 ซีซี เพราะซื้อหาเเละครอบครองเเบบถูกกฎหมายได้ง่าย
ด้วยความที่ยุคนั้นการสอบใบขับขี่มีความยุ่งยาก ว่ากันว่าการสอบใบขับขี่รถมอเตอร์ไซต์รุ่นใหญ่ขนาด 750 ซีซี ยากเทียบเท่ากับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลยทีเดียว มอเตอร์ไซต์รุ่นนี้จึงเป็นรุ่นประจำที่เหล่าเเยงกี้ขาซิ่งเลือกมาตกแต่งดัดแปลงเป็นสไตล์ Custom ให้แหวก ให้แปลก ฉีกทุกกฎเกณฑ์เพื่อดึงดูดความสนใจ รวมถึงสร้างภาพจำต่อผู้พบเห็น
ลักษณะที่พบเห็นกันบ่อยๆ จะเป็นแบบ Fairings หน้าหัวมนยกสูงเหนือถังน้ำมันคล้ายโล่ไว้ต้องกันการต่อสู้ , Handlebars ทรงสูงโค้งกลับมาหาคนขับ , เบาะนั่งสูงชี้ฟ้าคล้ายพนักพิงหลังของเก้าอี้ , ท่อไอเสียเสียงดังแสบแก้วหู , สีสันฉูดฉาดบาดตา และไฟหน้ารถส่องสว่างสูงถึง 4 เมตร
แม้ปัจจุบันยังคงมีโบโสะโซคุ อยู่บ้างแต่รูปแบบของการรวมตัวไม่ใช่ออกมาโบกธงเรียกร้องแสวงหาอิสรภาพดั่งในอดีตแต่เป็นการรวมตัวกันในเชิงแฟชั่นเสียมากกว่า โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว เมื่อวันเวลาผ่านมอเตอร์ไซต์ Kawasaki Z400FX ในตำนานจึงกลายเป็นของหายากและมีราคาแพง โบโสะโซคุยุคใหม่หันมาขับรถสกูตเตอร์คันโต ไม่ก็ใช้บริการรถไฟ ไม่ก็แต่งรถยนต์ขนาดใหญ่ไปเลย แต่รูปแบบการแต่งรถก็ยังคงรักษาคอนเซ็ปต์แสบสันทุกอณูเอาไว้ไม่ต่างจากตอนนิยมรถมอเตอร์ไซต์
รถยนต์รุ่นยอดนิยมของพวกเขามักเป็นทรงสี่ประตูขนาดใหญ่จากยุคปี 70-80 ที่โหลดให้ต่ำเตี้ยจนแทบติดพื้นอย่าง Nissan Cedric Nissan Skyline Toyota Crown หรือไม่ก็ Cadillac ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากการแข่งรถ Silhouette Racer หรือ รถที่ทำมาเพื่อการแข่งขันแต่มีบอดี้อ้างอิงจากรถผลิตและขายจริงในยุคนั้น
รถยนต์แบบโบโสะโซคุสไตล์จะเน้นให้ลิ้นหน้ายื่นออกห่างจากกันชนหลายฟุต สปอยเลอร์หลังทรงตูดเป็ดไซต์มหึมาไม่ก็ทรงยกสูงสุดบ้าคลั่ง เช่นเดียวกันกับท่อไอเสียที่ต้องชี้สูงลิ่วขึ้นฟ้าหลายเมตร ส่วนการตกเเต่งภายในจะเสริมความหรูหราด้วยเครื่องหนังหรือขนสัตว์ พร้อมติดตั้งระบบไฮโดรลิคเข้าไปด้วยตามสไตล์รถแรง
ถึงการแต่งรถจะสุดโต่งแต่บุคคลในแวดวงการแต่งรถระดับโลกหลายคนมีความชื่นชอบและได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากสไตล์ของชาวแก๊งโบโสะโซคุไม่น้อยเลย อย่าง เคอิ มิอุระ (Kei Miura) เจ้าสำนักแต่งบอดี้พาร์ทชื่อดัง TRA Kyoto หรือที่รู้จักกันชื่อ Rocket Bunny นั้นมักจะผสมผสานระหว่างการแต่งยุคใหม่กับยุคเก่าสมัย 70-80 ลงไปในการออกแบบเสมอ โดยสไตล์การตีโป่งเย็บบานๆหน้า-หลัง โหลดรถเตี้ย และการทำเพิ่มขนาดซุ้มล้อที่หลายคนเรียกว่า Wide Body ในผลงานเขานั้นสะท้อนให้เห็นกลิ่นอายสไตล์แก๊งค์โบโสะโซคุอย่างชัดเจน
แต่คนที่เปิดเผยชัดเจนเลยว่าเขาเคยเป็นสมาชิกแก๊งค์โบโสะโซคุเพราะหลงใหลเสน่ห์ของยานยนต์ คือ วาตารุ เคโตะ (Wataru Kato) เจ้าสำนักแต่งรถ Liberty Walk อันโด่งดังที่สร้างชื่อระดับโลกจากชุดแต่งรถโป่งสุดกว้างสำหรับรถสปอร์ต รถแข่ง และรถซุปเปอร์คาร์แบรนด์ยักษ์ใหญ่อีกมากมาย ซึ่งผลงานของเขาไม่ว่าจะมอเตอร์ไซต์หรือรถยนต์หลายคันล้วนสะท้อนให้เห็นแรงบันดาลใจซึ่งหยิบมาจากการแต่งรถอันเป็นเอกลักษณ์ของโบโสะโซคุ
แม้ว่าวัฒนธรรมโบโสะโซคุจะคือเด็กเดนในสังคมญี่ปุ่นมาหลายทศวรรษ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่องรอยทางวัฒนธรรมที่พวกเขาทิ้งเอาได้กลายมาเป็นสีสันของวงการแฟชั่นและวงการรถยนต์ที่ทั่วโลกยกย่องให้ว่ามันคือสุดยอดแห่งความยุ่นจริงๆ
Cover Picture by Mark Riccioni and topgear.com